ศรัทธาสร้างพลัง (4)
ศรัทธาสร้างพลัง (4)
ต้นลีลาวดี ได้แพร่หลายในอเมริกาสมัยบุกเบิก ต่อมามีการผสมพันธุ์ทำให้มีหลายหลากลักษณะ นักพฤกษศาสตร์ชาวอเมริกา ชื่อ วูดสัน (woodson) ได้แบ่งไว้ 7 ลักษณะ
1. พลัมมีเรีย อินโนโดรา แหล่งเดิมมาจากประเทศ โคลัมเบีย
2. พลัมมีเรีย พูดิกา แหล่งเดิมมาจากประเทศ เวเนซูเอล
3. พลัมมีเรีย รูบรา แหล่งเดิมมาจากประเทศ อเมริกากลาง
4. พลัมมีเรีย ซับเซสซิลิส แหล่งเดิมมาจากประเทศ ฮิสปานิโอลา
5. พลัมมีเรีย ออบทูซ่า แหล่งเดิมมาจากประเทศ คิวบา
6. พลัมมีเรีย ฟิลิโฟเลีย แหล่งเดิมมาจากประเทศ คิวบา
7. พลัมมีเรีย อัลบา แหล่งเดิมมาจากประเทศ ปอร์โตริกา
การแบ่งลีลาวดี แบ่งตามลักษณะใบและดอก สีต่างๆโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอมริกาให้ความสำคัญกับลีลาวดีมาก โดยตั้งขึ้นเป็นสมาคมพันธุ์ไม้ลีลาวดี โดยจดทะเบียนตามลักษณะต่างๆดังที่กล่าว ถึง 300 กว่าชื่อจากจำนวนลีลาวดีที่มีอยู่เดิม(generic) และมีการผสมข้ามพันธุ์ (hybrid)อีกกว่า 1000 ชนิดทั่วโลก
อย่างที่บอก ลีลาวดี(ลั่นทม) เป็นต้นไม้โบราณกาลเข้ามาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราช เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส และเป็นของกำนัลมอบให้กษัตริย์ จนถึงสมัยอยุธยาตอนปลาย ไทยค้าขายกับฝรั่งเศส มีการแต่งตั้งชาวฝรั่งเศสเป็นข้าราชบริพาร ได้นำต้นลีลาวดี (ลั่นทม) เข้ามาปลูกในพระราชวัง วัดวาอาราม ซึ่งเป็นดอกสีขาว ขนาดกลาง ไส้เหลือง มีความหอมเยือกเย็น และเน้นบรรยากาศที่ดีกับพระราชวัง และบริเวณวัด ซึ่งบางทีเรียก ลีลาวดี ว่า Pagoda Tree, Temple Tree ซึ่งความหมายออกมาตรงตัวชัดเจน
ลีลาวดี ลำต้นจะมีตะปุ่มตะป่ำ มีขนาดเล็ก สูง 3-6 เมตร กิ่งก้านอวบสีน้ำตาลปนเทา ใบเขียว รูปร่างคล้ายใบหอก ยาว 20-25 เซนติเมตร ตัดกันคล้ายผลแฝด เมล็ดมีขน
ลีลาวดี ยุคนี้มีหลากหลายสี มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะเด่นคือ กิ่งก้าน ที่แตกแขนงเป็นช่อๆกระจายอยู่ในตำแหน่งที่เลื่อมล้ำกัน ช่อใบพุงชี้ตามแนวดิ่ง และแผ่กว้างตรงกลาง
ช่อดอกอยู่ที่ปลายกิ่ง โดยมีใบอ่อนคอยประคองน้ำหนัก และป้องกันสายลมพัด นอกเหนือจากนั้นยังเป็นฉากหลังทำให้ช่อดอกงามเด่นชัด เมื่อถึงฤดูออกดอก ลีลาวดี แต่ละชนิด การแทงช่อดอกต่างกัน
ลีลาวดี โดยทั่วไปมี 5 กลีบ แต่บางชนิดมีถึง 10 กลีบ กลีบดอกก็มีหลายลักษณะ ปลายบนกลม บ้างก็ชี้ บ้างก็หยัก กลีบดอกทั่วไปมีขนาดประมาณกว้าง 1 นิ้ว ยาว 1-3 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 3 นิ้ว
ลีลาวดีถูกระบุว่า เป็นพืชที่มี 54 โครโมโซม ซึ่งมากกว่ามนุษย์ที่มีเพียง 46 โครโมโซม
ลักษณะเด่นเฉพาะของดอกลีลาวดี ออกดอกง่าย ช่อดอกดก ดอกใหญ่ บานและทน กลิ่นหอม ช่อตั้งแข็งแรง เพาะชำง่ายโดยกิ่ง ไม่เน่าเสีย สามารถทนต่อโรคพืช เชื้อรา และแมลงต่างๆ
ผู้เขียนได้บันทึกเรื่องราวของ ลีลาวดี (ลั่นทม) มาพอสมควร สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะบอกกับผู้อ่านทุกท่าน คือเรื่องราวจากการปฏิบัติธรรม ด้วย ทาน ศีล ภาวนา จึงเกิดนิมิตฝัน ทานทำให้ใจอิ่มเอิบผ่องใส ศีล ทำให้บริสุทธิ์ในกายและวาจา ภาวนาทำให้จิตนิ่ง สงบเยือกเย็น อย่างเช่นผู้เขียนให้เห็นภาพจากนิมิตฝัน เทียนล้อมดอกลีลาวดี จนกลายเป็นเทียนพุทธบูชา(เทียนพระนาง) OTOP To The World สามารถนำรายได้สู่ประเทศชาติได้มากมายทีเดียว และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 30 ประเทศทั่วโลก
และที่สำคัญที่สุด ลีลาวดี กลายเป็นดอกไม้แห่งฝันของผู้เขียน เป็นไม้มงคลสำหรับผู้เขียน ซึ่งในปัจจุบันฝรั่งเศสสกัดเป็นน้ำหอมกิโลละ 2-3 แสนบาททีเดียว ลีลาวดีจึงกลายเป็นพันธุ์ไม้ธุรกิจอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะปัจจุบันนี้นิยมใช้ในงานสปา และประดับตกแต่งสวนภายในอาคารบ้านเรือนตลอดจนสถานที่สำคัญต่างๆ
28 มกราคม 2548
มีเสียงบอกให้ผู้เขียนก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น แล้วท่องพุทโธ พุทโธ และให้ไปวัดแขก ศาสนาพุทธ สะดุ้งตื่นด้วยปิติ ผู้เขียนเล่าให้สามีฟัง สามีบอกผู้เขียนว่าวัดนี้อยู่แถวถนนสีลม โดยมิได้อธิบายอะไรอีก ผู้เขียนจึงโทรศัพท์ไปชวนเพื่อนที่ชื่อ แหม๋ว ทันที
วัดแขก หรือ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ผู้เขียนไม่เคยทราบประวัติความเป็นมาเรื่องราวของวัดนี้เลย เมื่อจุดธูปเทียนสักการะตามประเพณี ผู้เขียนได้ก้าวเข้าในโบสถ์ มองไปทางด้านซ้ายมือเห็นองค์พระพุทธชินราช! ผู้เขียนถึงกับขนลุกซู่ เพราะผู้เขียนกราบไหว้ทุกวี่วันในห้องพระที่บ้านของผู้เขียน ในโสตประสาทขณะนั้นนึกถึงแต่นิมิตฝันที่ผ่านมาเมื่อคืน “วัดแขกศาสนาพุทธ วัดแขกศาสนาพุทธ” อย่างนี้นี่เอง!
ผู้เขียนศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลทันที จึงทราบว่าศาสนาฮินดูบูชาองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และผู้เขียนเคยเห็นภาพ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เหนือเศียรองค์พระพิฆเณศวรในนิมิตเช่นกัน ซึ่งเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ วัดพระศรีมหาอุมาเทวีหรือวัดแขกทสร้างเมื่อ พ.ศ. 2438 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระพุทธเจ้าหลวงของเรานี่เอง
29 มกราคม 2548
ผู้เขียนฝันว่า ผู้เขียนกับสามีกำลังพายเรือกันอยู่ใกล้ถึงริมตะลิ่ง ก็ได้ยินเสียงแว่วๆอยู่ด้านหลัง ผู้เขียนหันไปดูตามเสียงแล้วผู้เขียนก็ต้องสะดุ้ง ภาพที่เห็นลอยอยู่บนเรือลำหลังนั้นเป็นเศียรขององค์พระพิฆเณศวร(มีแต่ศีรษะ) ผู้เขียนรีบหันหลังกลับมาที่เรือของตัวเองทันที ผู้เขียนเห็นเศียรขององค์พระพิฆเณศวรองค์นั้นมาอยู่ที่เรือของผู้เขียนซึ่งใกล้จะถึงฝั่งพอดี ภาพที่มองเห็นเศียรองค์พระพิฆเณศวรค่อยๆกลายเป็นลูกช้างเต็มตัวและเดินนำหน้าผู้เขียนและสามีซึ่งเดินตามมา ผู้เขียนสะดุ้งตื่นด้วยความปิติ