คอลัมน์ในอดีต

ความรัก คือ สายใย (7)

แพรเริ่มอุ้ยอ้ายเต็มที่ พบเตรียมพร้อมสำหรับยายปลื้มหมอตำแยที่อยู่ข้ามคลองใช้เวลาไม่นานก็จะพายเรือถึงบ้านของยายปลื้ม
ค่ำคืนนี้พระจันทร์ใกล้จะเต็มดวงแล้วเพราะเป็นข้างขึ้น 15 ค่ำ แพรนอนไม่หลับกระสับกระส่าย จนต้องพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง
“แพรเป็นอะไรรึเปล่า” พบเองก็ไม่ค่อยหลับเพราะพะวงเรื่องของแพรที่กำลังใกล้คลอด
“แพรนอนไม่หลับ ลูกดิ้นมากเลยพบ เขาคงอยากออกมาดูโลกใบนี้แล้ว พบเรียกแก้วทีซิ”
“ได้ๆแพร แพรรู้สึกเจ็บท้องมั้ย? พบจะได้ไปตามยายปลื้มหมอตำแยมาเลย แกเคยสั่งไว้มีอะไรให้รีบไปตาม และให้ต้มน้ำร้อนไว้คอย แต่ข้าวของสำหรับเตรียมคลอดแกให้พบจัดหาไว้หมดแล้วล่ะ”
“พบเรียกแก้ว บอกแก้วไปต้มน้ำร้อน แพรรู้สึกเจ็บท้องนิดหน่อยแล้ว”
“งั้นพบบอกแก้วแล้วพบจะรีบไปตามยายปลื้มมาเลยนะแพร”
“จ๊ะพบ แก้วต้มน้ำร้อนเสร็จให้ขึ้นมาหาแพรเลยนะจ๊ะ”
“จ้าๆ”
พบรีบสาวเท้าไปริมฝั่งคลอง หยิบไม้พายอย่างรีบร้อนใจจดจ่ออยู่ที่ยายปลื้ม ภาวนาให้ยายปลื้มอยู่บ้าน วันนี้วันพระด้วยปกติยายปลื้มจะไปถือศีลและจำวัดอยู่ที่วัดหนองบัวเลย พบกังวลนิดๆแต่ก็อธิษฐานอยู่ในใจขอให้ยายปลื้มอยู่บ้านด้วยเถิด พบหยุดฝีพายลงชั่วครู่ แหงนมองดูดวงจันทร์ที่กำลังส่องแสงสว่างเจิดจ้า บัวหลวงที่เคยชูช่อรับแสงอรุณก็หลับใหล ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดกรีดร้องเรไร ดูวังเวง แต่พบไม่ได้นึกกลัวสิ่งใดในขณะนั้น ไม่นานก็ถึงบันไดริมคลองบ้านยายปลื้ม
“ยายๆยายครับ”
“ใครๆใครน่ะ?”
พบ…ยิ้มในใจ “ฉันเองพบ แพรรู้สึกเจ็บท้องแล้วยาย”
“อ้าวเหรอ งั้นรอยายประเดี๋ยวหนึ่ง ขอยายเปลี่ยนผ้า ไม่นานหรอก”
“จ้ะยาย”
พบร้อนรนตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ในใจคิดโน่นนี่นั่น ลูกเราจะหน้าเหมือนใคร เป็นยังไงบ้าง สารพัดคำถาม สักครู่เดียวยายปลื้มก็เปิดประตูเดินลงมาที่ท่าน้ำ พบเอื้อมมือให้ยายปลื้มเกาะลงเรือ โดยที่พบไม่ได้ขึ้นไปบนเรือนยายปลื้ม เพราะเป็นห่วงแพรกับลูกกลัวจะเสียเวลา หลังจากยายปลื้มลงเรือเรียบร้อยแล้ว
“เอ็งเตรียมของที่ข้าสั่งไว้เรียบร้อยแล้วรึ?”
“ครับยาย ฉันเตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว และให้แก้วต้มน้ำร้อนไว้คอยยาย ฉันคิดว่าแพรจะคลอดคืนนี้แหละยาย”
“คลอดคืนนี้ก็ดีซิ ขึ้น 15 ค่ำพระจันทร์เต็มดวง คนเกิดวันนี้ต้องเป็นคนที่มีบุญญาธิการ
มาเกิดแน่นอน ลูกเอ็งเป็นผู้มีบุญญาธิการนะเจ้าพบ”
พบฟังคำยายปลื้มนิ่งเงียบๆแต่แอบปลื้มปิติอยู่ในใจ
ยามนี้มีแต่เสียงกบเสียงเขียด จิ้งหรีดเรไรกับเสียงไม้พายกระทบผิวน้ำ ลมโชยมาอ่อนๆแต่ยังความเย็นสดชื่นอย่างประหลาด พบก็เร่งฝีพายกลับมาอีกฝั่งคลองไม่นานก็ถึงตลิ่งข้างบ้านเรือนไทยหลังเก่าของหญิงชราที่ทั้งพบและแพรเฝ้าดูแลจนมาถึงวันนี้
“ยาย ไปรีบขึ้นไปหาแพรกัน”
“แก้วต้มน้ำเดือดไว้คอยแล้วเจ้าค่ะ คุณแพรอยู่ในห้องนอนข้างบนรอยายปลื้มอยู่จ้ะ”
ยายปลื้ม…เดินเข้าห้องและถามแพรว่า “แพรเป็นอย่างไรบ้างลูก”
“ยายฉันปวดมากแล้วล่ะ” แต่กลับไม่มีเสียงร้องโอดครวญแม้แต่น้อยจากแพร
แพรอธิษฐานจิต… “ยายจ๋า คืนนี้แพรจะคลอดลูกใบบัว แพรจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
ยายปลื้ม…จัดแจงนำเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆที่ไว้ไปต้มน้ำทำความสะอาด พร้อมล้างมือเรียบร้อย ทุกอย่างพร้อมยายปลื้มประคับประคองท้องของแพรและกล่อมมดลูกด้วยการคลึงท้องให้ปากมดลูกขยับเพื่อในการคลอด ขณะที่จับท้องแพรยายปลื้มมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของแพรที่ขณะนี้เหงื่อเป็นเม็ดๆเต็มใบหน้า เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้อดทนอดกลั้นเป็นที่สุด ไม่ร้องโอดครวญเหมือนคนอื่นที่แกไปทำคลอดมา แกรำพึงในใจ “ผู้มีบุญญาธิการองค์ไหนนะที่มาจุติในภพมนุษย์กับหญิงสาวบริสุทธิ์คนนี้”
ยายปลื้มถึงแม้แกจะเป็นแค่หมอตำแย แต่แกก็ปฏิบัติธรรมเข้าวัดเข้าวาอยู่เป็นนิจ แกถึงเข้าใจเรื่องราวต่างๆจากการปฏิบัติได้มากกว่าคนทั่วไป ยิ่งแกเข้ามาสัมผัสกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของแกทำให้แกรู้สึกว่า เด็กสาวที่กำลังจะมีทายาทคนนี้ต้องมาจากตระกูลที่สูงส่งไม่ใช่เด็กกำพร้าชาวบ้านธรรมดาทั่วไป กำลังคิดเพลินๆอยู่ เสียงแพร…ทำให้แกหลุดจากภวังค์ “ยายปลื้มจ๋าฉันรู้สึกว่าฉันจะคลอดแล้ว” เสียงร้อง อุแว้ๆก็แทนที่ในทันใด…
ยายปลื้มยกกระด้งขึ้นร่อนเวียนไปทางขวา 3 รอบ พร้อมกับพูดว่า สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ใครมารับเอาเน้อ ตามพิธีโบราณที่ทำกันมา เมื่อเสร็จแล้วยายปลื้มจึงตะโกนเรียกพบ
“พบๆลูกเจ้า น่าเกลียดน่าชังเหลือเกินดูซิ ผิวชมพู ตากลมโต ผมดกดำ มือเท้ายาวเรียวงาม ดูซินิ้วเป็นลำเทียนเหมือนแม่ของเขาเลย”
แพร…น้ำตาคลอ…ยิ้มเปื้อนน้ำตาไหล คิดอยู่ในใจยายจ๋าใบบัวหลานยายลืมตาดูโลกใบนี้แล้ว ยายไปนิพพานเถิด อย่าได้ห่วงสิ่งใดอีกเลยนะยาย

มณีจันทร์ฉาย