คอลัมน์ในอดีต

คนไทยของขึ้น

ผมมีรถยนต์ส่วนตัวนะครับ!

แต่บ่อยครั้งผมก็อาศัยแท็กซี่และรถเมล์

ด้วยเหตุผลหลายประการ… นับแต่อายุมากแล้วหูตาไม่ค่อยดีกลัวอุบัติเหตุ

หรือหาที่จอดรถยากลำบาก… โดยเฉพาะไปตรวจสุขภาพตามกำหนดปกติที่โรงพยาบาล… ซึ่งหาที่จอดรถยากลำบากมาก

ผมเป็นผู้อาวุโสเสียค่ารถเมล์ครึ่งราคาครับ แต่ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งก็เข้าใจครับ เพียงดูหน้าดูผมข้างบนหัวพนักงานก็คงรู้ว่าผมอาวุโส

เขาคงจะดูว่า.. ผมเป็นคนต่างด้าวหรือเปล่าเท่านั้น

ในช่วงที่ผมอาศัยรถเมล์จะเป็นช่วงที่คนเขาเข้าทำงานกันแล้วรถเมล์จึงว่างได้นั่งเกือบทุกครั้ง

ถ้าได้นั่งกับผู้โดยสารคนอื่นก็พูดคุยกันได้ครับ คนนั่งรถเมล์ส่วนมากหัวอกเดียวกัน

ไม่ถือเนื้อถือตัวที่จะพูดคุยกันใน เรื่องทั่วๆไป

แต่ก่อนที่คุยกันเรื่องการยกเลิกรถฟรีมาตอนนี้ก็คุยกันเรื่องการขึ้นราคาค่าโดยสารและลามไปถึงการขึ้นค่าไฟฟ้า…

แน่นอนครับทุกคนร้องโอดโอยแยกครับลุง!!

จริงๆนะครับ.. ผมว่าแฟนกอล์ฟ Time ซึ่งทุกคนคงไม่เคยขึ้นรถเมล์แน่คนเล่นกอล์ฟต้องมีรถส่วนตัว..

ท่านเชื่อไหมครับ… ค่ารถเมล์ขึ้น 5 บาท 10 บาทมันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับผู้โดยสารรถเมล์บางคนหรือส่วนมากก็ว่าได้…

“ตามปกติผมมีเงินจำกัดอยู่แล้ว.. สำหรับเสียค่าโดยสาร.. นี่มาขึ้นราคา ผมต้องเจียดเอามาจากค่าอาหาร”

เขาว่า..

“พูดเป็นเล่นน่า… ค่าโดยสารขึ้นราคาไม่กี่บาท”

“ไม่เล่นล่ะครับพูดจริงผมต้องโดยสารรถเมล์ 2 ต่อกว่าจะไปถึงที่ทำงาน 2 ต่อก็ 8 บาทไปกลับก็ 16 บาทมันไม่น้อยสำหรับผม”

คิดดูมันก็จริงนะครับปกติเสียค่ารถเมล์ไปทำงาน 32 บาทรถแอร์มาเพิ่มอีก 18 บาทเป็น 50 บาทมากพอควร..

นี่แหละครับ… เรื่องเล็กๆน้อยๆของคนยากคนจนบางทีมันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขาได้เหมือนกัน…

คำว่า.. ไม่กี่บาทเองสำหรับพวกเรามันสะเทือนใจพวกเขาไม่ใช่น้อย…

ผมไปมาเลเซียหลายครั้งไปเที่ยวแบกเป้… และมักจะขึ้นรถเมล์..

มาเลเซียมีรถเมล์ฟรีนะครับและรถเมล์ฟรีของมาเลเซียติดแอร์ด้วย..

คนมาเลเซียทำงานได้เงินเดือนมากกว่าคนไทยนะครับ

คนมาเลเซียจึงมีความสุขเงินเดือนสูงนั่งรถแอร์ฟรีไปทำงาน..

คนไทยวันนี้… ต้องรับภาระมากมาย… ที่เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตวันนี้ก็คงจะเป็นค่าไฟฟ้า…

มาขึ้นค่าไฟฟ้าเอาตอนหน้าร้อนซะด้วย…

มันคงตกอยู่ในสภาพถูกตีหลังแตกแล้วรัฐบาลเอาน้ำเกลือสาด.. นั่นแหละ

หญ้าแพรก