คอลัมน์ประจำคอลัมน์ในอดีต

รถไฟฟ้าลดฝุ่นพิษ

ขณะที่ผมกำลังเขียนคอลัมน์นี้ฝุ่นพิษ PM 2.5 ฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วกรุงเทพ

ทำความเดือดร้อนไปทั่วทุกคนทั่วทุกหย่อมหญ้าโดยเฉพาะเด็กและคนชราอย่างผมหายใจหายคอแสบจมูกอึดอัดแน่นอกจริงๆไม่ได้ล้อเล่น

มันก็น่าแปลกใจไอ้ฝุ่น PM 2.5 นี้มันไม่น่าเคยเกิดขึ้นมาก่อน
ปีที่ผ่านๆมาก็ไม่ได้ข่าวได้รับผลกระทบ
(หรือมันเกิดมานานแล้วแต่เราไม่รู้ไม่มีใครบอก…)?

แต่ที่แน่ๆ? ในปีนี้คือเริ่มจากกลางปี 2561 ได้มีการเริ่มก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าหลายสายพร้อมๆ? กันเกือบจะท่วมกรุงเทพเช่นด้านเหนือถนนแจ้งวัฒนะ? รามอินทราถนนลาดพร้าว? รามคำแหง? และทางด้านฝั่งธนบุรี

รวมกันเส้นทางที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จอีก หลายสาย

ในการก่อสร้างนั้นมีการทุบถนนขุดถนนตัดต้นไม้เอารถสิบล้อมาวิ่งขนดินขนอิฐหินปูนทรายจิปาถะ

มันก่อให้เกิดฝุ่นอย่างมหาศาลโดยไม่ต้องสงสัย

เมื่อมีการก่อสร้างรถยนต์บนถนนมันก็ติดเครื่องยนต์ทำงานเผาไหม้น้ำมันมันก็เกิดมลภาวะผสมปนเปไปด้วย

(มันก็น่าคิดเหมือนกันว่าทำไมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทำไมมาปาดังเริ่มก่อสร้างพร้อมกันหลายสายเอาในรัฐบาลชุดนี้และต้นปีนี้… มาทุกคนเจาะถนนเอาพร้อมๆ กันเลย… ทำไมไม่ทยอยขุดตรงโน้นก่อน เสร็จก็มากดตรงนี้หากทำเช่นนี้คุณคงบรรเทาลงได้บ้าง)?

ท่านผู้อ่านกอล์ฟไทม์คงจำได้ว่าที่จังหวัดเชียงใหม่ก็จะเกิดผลระหว่างเดือนมีนาคมเมษายนทุกปีแต่ก่อนเกิดหนักมาหลังค่อยๆ ลดลง

ฝุ่นที่เชียงใหม่เกิดจากการเผาไร่ข้าวโพดและกิ่งไม้พร้อมๆ? กัน
ต่อมาจึงมีการกำหนดเขตเผาเช่นวันนี้เขตนี้เผาต่อมาก็เขตโน้นต่อมาก็เขตนั้น
ใครฝ่าฝืนมีโทษถึงจำคุก
ฝุ่นเชียงใหม่มันก็เลยลดลงแต่มันก็พอมีบ้าง

ฝุ่นพิษ PM 2.5 นอกจากจะเกิดจากการเผาการก่อสร้างแล้ว
ไอเครื่องยนต์? รถยนต์? ก็เป็นสาเหตุหนึ่งเช่นกัน
ในต่างประเทศที่เจริญรุ่งเรืองแล้วเขาจึงเริ่มลดการใช้เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
มาใช้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยเฉพาะรถเมล์รถโดยสารสาธารณะและรถ 2 ล้อมอเตอร์ไซค์ที่ซิ่งกันอยู่นับสิบล้านคัน

ความเป็นจริง… เมืองไทยเราก็ผลิตรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าได้แล้วไม่ว่ารถ 4 ล้อหรือ 2 ล้อ อีกทั้งราคาก็ไม่แพงถูกกว่ารถใช้น้ำมันซะอีก

ถึงเวลาแล้วยังครับที่เราจะมาเริ่มสนับสนุนให้ใช้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
นอกจากจะลดมลภาวะเป็นพิษแล้ว
ยังสามารถลดการใช้น้ำมันซึ่งเราต้องนำเข้ามาอีกด้วย

หญ้าแพรก