ความรัก คือ ชีวิต (2)
ความรัก คือ ชีวิต (2)
คืนสุดท้ายของการสวดอภิธรรม มีสิ่งที่ทำให้จุกและชาวบ้านละแวกนั้นประหลาดใจ อยู่ๆก็มีพระธุดงค์เดินทางมาจากแดนไกลประเทศธิเบต ขอร่วมสวดอภิธรรมต่อด้วย บทสวดพระมหากรุณา
น่ำโมกาจายายา นำโมอารยะเจียนะ ส่าก้าลา เปยเลอเจียนะ
อิวฮะละจะยา ตะถะกัตตายา อันละฮ่าเต ซังยะซัง พุทธะยา นะโมสะลูวะตะถะตะติเต อันละหัตถะเต สั่งย่าซัง พุทธิเต นะโมอารยา
อวาลูเกอติศิลวายา โพธิสัตวะยา มหาสัตวะยา มะหาการุนีกายา ตะติยาทา โอมตะละตะลา ถี่หลี่ที่ลิ ทูลูทู่หลู่ อิตติเวย อิตติเจียเลียเจียเล ปุละเจียเล ปูลาเจียเล กุศุเม กุศุมา วาเล อีลิ มิลิ จิตติ จัว ละ มะ ปะ นะ ยะ ซัวฮา.
ขอน้อมนมัสการ สักการะแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยพระองค์ทรงล้ำเลิศด้วยพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ด้วยทรงประทานพระรัตนตรัยอันบริสุทธิ์ ทรงสั่งสอนเทพยดาและเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งปวงให้ล่วงพ้นจากความทุกข์ ทรงประทานธรรมะเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งแก่สรรพชีวิตทั้งหลาย จนสามารถก้าวพ้นจากห้วงเหวแห่งความทุกข์ พบกับความสุขสงบได้ด้วยสติปัญญา
ซึ่งความหมายและคำแปลทำให้ชาวบ้านซาบซึ้งจนขนลุกและกล่าวขานกันว่าเป็นบุญของสามแม่ลูก และแก้ว ที่มีพระมาโปรด เหมือนสวรรค์เบื้องบนรับรู้ พอรุ่งเช้ากำหนดประชุมเพลิงกลับหาพระธิเบต 9 องค์ไม่เจอ กลายเป็นเรื่องคุยกันถึงความแปลกอัศจรรย์ในงานครั้งนี้ จุกเองก็ยังรู้สึกงงๆอยู่เหมือนกัน
“จุก…เจ้หมวยถามเอ็งหน่อยเถอะ ใครเป็นคนไปนิมนต์พระจากธิเบตมาสวดเมื่อคืน”
“ไม่รู้เลยเจ้หมวย ฉันเองก็ยังงงๆอยู่เลย อยู่ๆพระ 9 องค์ ก็มาโปรด บทสวดก็ช่างไพเราะ และสามารถอธิบายคำแปลเป็นภาษาไทยได้อีก จนชาวหลายคนมาถามฉันน่ะเจ้หมวย”
“เออ..แปลกดีนะจุก แล้วเช้าวันนี้เจ้เตรียมของมาใส่บาตร จะถวายปัจจัยท่านก็ไม่พบท่านทั้ง 9 องค์ แปลกจริงๆจุก”
“นั่นซิเจ้หมวย คงเป็นนิมิตหมายอันดีให้ลูกกับเมียฉันอยู่สุขสบายให้ฉันไม่ต้องห่วง”
“เจ้หมวยก็คิดอย่างเอ็งแหละจุก แล้วนี่เตรียมข้าวของชำร่วยเรียบร้อยรึยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ เอาของที่เปียทำไว้แหละเจ้หมวย เปียถักโครเชต์เป็นผ้ารองแก้วน้ำไว้เยอะมาก เมื่อเวลาเปียเขาว่างๆ ฉันเลยคิดว่ามีประโยชน์เลยจะเอามาแจกในงานประชุมเพลิง เก็บไว้ฉันก็คงไม่ได้ใช้หรอกเจ้หมวย”
“เอ่อ…ดีๆ ตอนแรกถ้าไม่มีอะไรเจ้หมวยก็จะช่วยจัดให้เอ็งอีกแรง”
“ขอบคุณครับเจ้หมวย”
จุกคิดในใจ เจ้หมวยช่างดีกับเขาและครอบครัวเหลือเกิน เจ้หมวยเปรียบเสมือนแม่ของจุกคนหนึ่ง จุกเอาของชำร่วยที่เปียถักไว้ใส่ถุงมาจากบ้านเตรียมเอาออกมาจัดผูกโบใส่พาน โดยให้เด็กๆสาวๆหลายคนที่มาช่วยงานช่วยกันคนละไม้คนละมือ และในทันใดที่เขาหยิบที่รองแก้วออกมาเพื่อเตรียมให้เด็กๆผูกโบ จุกถึงกับน้ำตาคลอ ถุงมือ ถุงเท้าสีฟ้า สำหรับเด็กผู้ชาย แบ่งแยกอยู่ในถุงอย่างเรียบร้อยในถุงใบใหญ่นั้น เขารำพึงกับตัวเอง
“เปียเอ๋ย…เจ้าช่างเป็นกุลสตรีเพียบพร้อมเสียทุกอย่าง ข้ามิอาจจะรักใครได้อีกเลย ไม่มีใครมาทดแทนเมียรักของข้าได้เลย..”
“จุก”…เสียงเรียกจากเจ้หมวย ทำให้เขาที่กำลังเหม่อคิดสะดุ้งสุดตัวขึ้นมาอีกครั้ง “จุกเอาของชำร่วยให้สาวๆเขาทำ เอ็งไปเรื่องผ้าไตรจีวรกับเจ้หมวย”
“เดี๋ยวเจ้หมวย เจ้หมวยมาดูนี้”…
“อะไรของเอ็งจุก”
“เจ้หมวยดูนี่” จุกยื่นถุงผ้าที่ใส่ ถุงมือ ถุงเท้าที่ถักด้วยโครเชต์สีฟ้า ด้วยน้ำตาคลอ
เจ้หมวยเปิดดูถึงกับน้ำตาไหล…เจ้หมวยลูบหัวจุกเบาๆแล้วพูดว่า… “เมียเอ็งนี่ช่างน่ารักเสียจริงๆ จุกเอ้ยสมแล้วที่ใครๆกล่าวขานสมเป็นแม่ศรีเรือนเป็นกุลสตรี
จุกเอาถุงมือ ถุงเท้าไปใส่พานต่างหาก แล้วเอาเผารวมกันแล้วไม่ต้องมาเก็บไว้นะจุก”
“ครับ” จุกรับคืนด้วยดวงตาอันแดงก่ำ
“ไปๆ ไปเตรียมผ้าไตรจีวรเดี๋ยวบ่ายๆแขกเหรื่อก็จะมากัน เพราะเสียงเล่าขานพระธิเบตมาโปรด แล้วหายไปโดยไม่มีวี่แวว แปลกจริงๆสาธุๆ”
มณีจันทร์ฉาย