มีอะไรในอาทิตย์ที่ผ่านมา

มีอะไรในอาทิตย์ที่ผ่านมา

เรื่องของเวลากับกิจกรรมบวกกับกลุ่มที่นิยมการเดินทางท่องเที่ยวแบบสบายๆทำให้ทริป “เชี่ยวหลาน”ถูกกำหนดขึ้น เป็นวันจันทร์ที่ 22 มกราคมนี่เอง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาท กับการเที่ยว 4 วัน 3 คืน กล่าวคือ นอนแพ 500 ไร่ ในเขื่อน 1 คืนอีกสองคืนขึ้นบกพักรับรองของ “การไฟฟ้า” ดูราคาแล้วโขอยู่นะแต่ติดตามกันต่อไปนะครับ คณะเรา 30 ชีสิตเดินทางจาก “ดอนเมือง”มาสุราษฎร์ธานีก็ชั่วโมงนิดๆถึงเมืองนี้ก็ต้อง “ขนมจีน”ที่รสชาติเด็ดขาดตามที่เมืองนี้ชอบๆ กัน

จากตัวเมืองเราก็มุ่งหน้าสู่เขื่อน “เชี่ยวหลาน”ด้วยรถตู้ 3 คันเพื่อไปที่พัก “แพ 500 ไร่” การดูแลจาก แพ 500 ไร่สบายโลดคณะเราลงเรือก็อีกชั่วโมงนิดๆ ช่วงที่เรือแล่นไปนี่บอกได้ว่าไม่น่าเบื่อเลยครับ ทั้งน้ำ, ภูเขารอบๆตัวมันสวยงามเป็นที่สุดขอบอก พอเข้าเทียบท่าที่ “แพ 500 ไร่” ก็เย็นโขอยู่นะ สภาพที่พักที่เป็นแพลอยน้ำน่าสนใจมาก ตัวแพที่เป็นหลักใหญ่โตซึ่งเดินแล้วก็เหมือนอยู่บนบกนั่นแหละ ส่วนแพห้องพักก็เดินเรียงกันไปดูเหมือนมีมากกว่า 15 ห้องพักขนาดสองห้อง กับ 1 ห้องสวีทที่แยกกันไป…ต้องเดินทางไปด้วยเรือชักรอกไปราวๆ 40 เมตร

คืนที่พักนี่มันสุดจะเข้าใจได้จริงๆ แพที่พักเป็นสองห้องนอน มีห้องน้ำแยกสองห้องสบายสุดๆ แต่ที่น่าจะถือว่าเด็ดสุดคือ อาหารของแพ 500 ไร่นี่เฉียบขาดมาก ปลาไม่ต้องพูดถึง เนื้อหวานรสชาติดี ส่วนหมู, ไก่, เนื้อ สดอร่อยทุกวันครับ การปรุงด้วยฝีมือแม่ครัวระดับเทพทุกอย่างสมบูรณ์มาก…ช่วงพักผ่อนกว่าจะเข้านอนก็ปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่ม…ความจริงก็ไม่รู้จะนิ่งกันไปเพื่ออะไร…คุย…ไวน์…ลงน้ำ ใครจะทำอะไรก็ตาม…บาย จะนั่งเรือออกไปก็มีแพดูแลดีสุดๆ

เช้าตื่นแต่เช้านั่งเรือไปดุหมอก ดูสัตว์ป่า กลับมาจัดการกับอาหารเช้าที่ทางแพจัดเตรียมไว้ ความจริงน่าจะเป็น “โรงแรมลอยน้ำ” ดีกว่า…พอช่วงสายก็ลงน้ำลงท่ากันไป สนุกสนานกันมากซึ่งส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนคำนำหน้ากันแล้วทั้งน้าน… คือ ปู่ ย่า กันเกือบจะทุกคนแล้ว แต่นี่คือการเที่ยวแบบกลุ่มนี้ 50 กลางๆแบบครูไก่ถือว่าเด็กๆของทีมนี้

หลังจากกระโดดน้ำกระโดท่ากันจนเต็มอิ่ม เราก็เตรียมตัวกลับขึ้นฝั่งความจริงอยากจะพักอีกสักคืน…พอขึ้นฝั่งก็ดิ่งเข้าที่พักของ “การไฟฟ้า” ของเขื่อน “รัชชประภา” พอเข้าช่วงบ่ายก็ไปจัดการกับอาหารมื้อเย็นครับ อาหารที่นี่จัดเต็มด้วยกุ้งแม่น้ำ หอยแครง ปูไข่ ปูเนื้อ แกงส้มไข่ปลาเลียวเซียว ฯลฯ รับประทานกันไม่หวาดไหว แต่ที่เป็นเรื่องน่าจะจดจำคือ “พ่อเมือง”ของจังหวัดมานั่งแกะปูกินปลากับกลุ่มของเรา เล่นเอางงทั้งคณะ ท่านเองก็มิได้เป็นญาติใครหรอกนะครับ…เพียงสมัยเมื่อท่านเรียนเนี่ยเคยไปฝึกงานที่ “เจริญ” เคเบิ้ลทีวีราวๆเดือนเศษ จากนั้นก็สอบเข้ารับราชการ สุดท้ายก็ขึ้นถึง “ผู้ว่าราชการจังหวัด”ได้ด้วยความสามารถที่โดดเด่นด้วยตัวท่านเอง…นั่นคือ สุภาพและยุติธรรมกับทุกคน

มื้อนี้ของหมดคนแทบคลานกลับที่พัก อิ่มสุดๆ…ล่ำลากันเสร็จก็เข้าพักในบ้านพักรับรอง…เพราะเช้าต้องออกรอบที่สนามกอล์ฟกัน เช้าวันที่สามนี่ใครอยากไปไหนก็ตามสบาย ออกรอบเล่นกอล์ฟก็ไปอยากไปเที่ยวที่ใดก็เชิญตามวิถี…คนที่เที่ยวเป็นอย่างไรไม่ทราบ…แต่สนามกอล์ฟที่นี่สนุกโหดมันฮาจริงๆเล่นสนามนี้ไม่ยากแต่บนกรีนเล่นเอา “เป็นโรคประสาทหลอน”กันทั้งคณะ กรีนยากมาก ออนแล้วสามพัตต์เป็นเรื่องธรรมดา บางหลุมสองออนสามไม่ออนวันแรกของสนามนี้เป็รลมกันถ้วนหน้า

ตกเย็นก็เป็นอีกร้านกับ ปูม้า กุ้งก้ามกราม กอยแครง แล้วก็น้ำจิ้มสูตรเด็ด เช่นเดิมเต็มคราบทุกคน…แต่อีกแล้วครับท่าน “พ่อเมืองมาอีกแล้ว” คราวนี้พา “ภรรยา”มาด้วยครับขนาดนี้เลยหรือพวกเรา…จริงๆแล้วทั้งคณะนี่เขาติดต่อกับท่านสมัยเมื่อท่านเป็นข้าราชการเล็กๆ คือติดต่อกันมานานแล้วเรียกว่าความผูกพันสมัยนานมาแล้วก็ไม่ผิด พอกลับเข้าที่พักก็หลับกันสนิททุกบ้าน…ส่วนเช้าก๊วนกอล์ฟเขามางานค้างคาใจกันอยู่

เช้าวันที่สี่…กอล์ฟก็ไปตามทาง…เที่ยวก็จัดกันไปสุดท้ายก็เกือบเที่ยงทุกอย่างพร้อมพวกเที่ยวไม่รู้เป็นอย่างไร ส่วนกอล์ฟเหมือนเดิม “นรกชัดๆ” สนุกลำบากแบบหาตัวจับยากมาก…จากตัวเมืองกับเขื่อนห่างกันโขอยู่แต่ก่อนเข้าเมืองเพื่อพบกับอาหารเย็น มีร้านกาแฟที่น่าสนใจชื่อ “ฮอลแลนด์เดียร์” เจ้าของเป็นสาวไทยที่ได้แต่งงานแต่งการกับชาว “ฮอลแลนด์” แล้วก็มาตั้งร้านรวงที่นี่ฝรั่งคนนี้มีฝีม้ายลายมือเรื่องอาหารฝรั่งโขอยู่ พวกไส้กรอกแบบเมืองฝรั่งเขาแน่จริง และอีกเรื่องคือ “ฝีมือทางช่าง” คือร้านนี้เขา “สร้างเอง”ครับ…แค่นี้ก็คงจะนึกออกว่า “ฝีมือเหนือคำบรรยาย” คืออะไร

ส่วนมื้อเย็นก่อนกลับก็ตบท้ายด้วย “ไก่ต้มน้ำปลา” แบบเมืองใต้เขารสชาติกร่อยๆหมอขมิ้นกินกับน้ำจิ้มแบบฉบับของใต้อร่อยโคตร แต่เจ้าปลาเนื้ออ่อนขนาดใหญ่ที่ทอดเรียงบนจานเขาแน่ไม่เบา…จบอาหารเย็นก็เข้าสนามบินเครื่องร่อนขึ้นสามทุ่มถึงสนามบินดอนเมืองสี่ทุ่ม…สบายทั้งคณะอิ่มเต็มกับ 4 วัน แต่ที่เจ๋งสุดคือยอดที่จ่ายมีทอนกลับอีกคนละ 3,500 ด้วยจ้า…ส่วนเช้าวันศุกร์ครูไก่ก็ต้องไปดูแลกอล์ฟของ “กีฬามหาวิทยาลัย” แต่เช้ามีงานต่อเลย..ราคางานท่องเที่ยวคือฟรีครับของครูไก่ขอให้ไปเป็นพอ….

ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์