มองย้อนหลังเมื่อปีกลาย
มองย้อนหลังเมื่อปีกลาย
ในห้วงช่วงเวลาของปี “ระกา 2560”ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ หากเป็นเมื่อหลายปีก่อนหน้าเราคนไทยคงสบายๆชิวๆตามวิถีของเรานะครับ สิ่งที่คนไทยเราต้องเผชิญคือความจริงของมนุษย์ คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย อันที่จริง “มนุษย์”บนโลกใบนี้ก็ล้วนหนีไม่พ้นกับ 4 คำนี้ แต่ชาติเราพบเจอกับความเศร้าที่ต้องยอมรับได้ว่าคนไทย “ใจสลาย”กันแทบทุกหย่อมหญ้า น้ำตานองแผ่นดิน สุดท้ายปลายทางเราคนไทยเหลืออยู่เพียงการระลึกได้ว่าครั้งหนึ่งเรามี “พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงธรรมและยิ่งใหญ่เท่าที่โลกใบนี้มี”…เดินตามโดยพระบาทของพระองค์ท่านแล้วชีวิตจะสงบสุขครับ
เข้าสู่วงการกีฬาเราก็มีความสำเร็จกันพอสมควร จะทั้งสมัครเล่นหรืออาชีพ จะเป็นพวก “ชกต่อย” หรือ “ตบตี” เรามีดีพอจะไปอวดชาวโลกเขาได้แบบไม่ให้ใครมา “ถ่มถุย”เราได้…พวกชกต่อยแบบไทยๆก็หนีไม่พ้น “คนตัวเข้ม”…บัวขาว…ที่เอาหมัด, เท้า, เข่า, ศอก ประเคนคู่ต่อสู้คนแล้วคนเล่าลาโรงก่อนเวลาอันควรหรือบางคนก็ครบยกพกเอาความเจ็บปวดทั้งกายใจพ่ายลงเวที…หรือคิดอีกที “มันหน้าจะดีถ้าไปแต่ยกแรก” จะได้ไม่เจ็บขนาดนี้…อีกคนก็พวกชกต่อยแบบ “ใส่รองเท้า”..เอ้า..จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก “มนุษย์สองหัว”…ศรีสะเกษ ที่พกพาความมั่นใจมนการฝึกซ้อม 400 ยกโขลกเอาผู้ท้าชิงที่เป็นMEXICAN อันตรายในรุ่นหมุนหงายท้องตีแปลง “แลง”ยันสิบยังไม่ลุกทุกหัวใจไทยก็ปลื้มปลิ่มยิ้มกันทั้งประเทศ กลายเป็นมวยเกรด A++ไปในบัดดล มีข่าวว่าจะไปอีกรอบในปี 61 นี่ถึงจะเรียกว่าของจริง
มาเรื่องการ “ตบ” จบปีด้วยพอรับได้แบบไม่ยากเย็น เมื่อเห็น “รัชนก อินทนนท์”วนกลับมารับแชมป์อีกทีหลังจากเงียบฉี่ไปนานพาลให้คิดว่ามันมาจากเหตุอันใดกัน สุดท้ายก็สงบจบอย่างที่เห็น…แต่ที่เค้นเอาไทยฮาทั้งชาติคือ ความผิดพลาดของการเล่นในหลุมสุดท้ายที่ “พลาดแบบไม่น่าเป็นไปได้” ส่วนชื่อเสียงเรียงเสียงไรไม่ต้องเอ่ยถึงแต่พึงคิดถึงแชมป์ที่ทำ 3 อันเดอร์ใน 3 หลุมสุดท้ายกลายเป็นแชมป์ที่เธอเองก็คอยมานาน…ไทยเราก็หน้าบานไปตามๆกัน…ขอบคุณนะ โปร…เม….
แต่ที่เป๋ไปนิดก็คิดถึงวงการ “ฟุตบอล”ที่มีหนอนไชในวันที่มีข่าวของ “การล้มบอล” แบบนี้มันบั่นทอนในเวลานี้ทำให้ผู้เป็นหัวขบวนออกมา “ว๊ากเพ่ย” เฮ้ย…ใครทำต้องโดนแน่…ว่าแต่ตอนนี้เงียบกริบ…ไปแล้วครับ แต่คิดไปคิดมาอาจสืบสวนในทางลับกันอยู่…เอ้าพวกเรา “ดูปายยย…ยาวๆ”
ส่วนการจากไปของ “จ้าวกระทรวงเดิมๆของท่องเที่ยวและกีฬา”ก็อย่าพากันคิดอะไรมาก คือ มี “มา” ต้องมี “จาก” นะของแบบนี้…แต่เวทีชีวิตของปีหน้าต้องกล้าก้าวออกมาทำงาน…สานความคิด…ปิดความเศร้า…เข้าวงใน…ใช้สมอง…กับสองมือ รับรอง “ปีจอ”จะเป็น “หนังกลางแปลง”ที่ทุกคนเข้าถึงได้..คงมิใช่ “จอ”ที่เห่าหอนให้เสียงแห้งจนแรงหมด…ปีหน้าตั้งใจทำงานกันทุกคน…ผลที่ตามจะโลดและโดดเด่นแน่นอน
ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์