ปีทองของโปรไทย ช่วยกันสร้างชื่อเสียงเข้าประเทศ
ปีทองของโปรไทย ช่วยกันสร้างชื่อเสียงเข้าประเทศ
ปี 2560 สำหรับกีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่มีผู้คนชื่นชอบทั่วโลก และมีเงินรางวัลในการแข่งขันสูงมากในทัวร์ใหญ่ สำหรับเมืองไทยเป็นประเทศที่มีนักกีฬากอล์ฟอยู่ในแถวหน้าของเอเชียเช่นกัน ได้ออกไปล่าเงินรางวัลกันมากกว่า 100 ชีวิต และนำเงินเข้าประเทศอย่างมากมายในแต่ละปี ในปีที่ผ่านมา ผลงานของโปรไทยทั้งชายและหญิงยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เรียกว่าปีทอง เพราะในแอลพีจีเอโปรเม เอรียา จุฑานุกาล ของเราเคยขึ้นไปถึงมือ 1 ของโลก ฝ่ายชาย กิรเดช อภิบาลรัตน์ มืออันดับ 51 ของโลก สร้างชื่อเสียงและนำเงินตราเข้าประเทศอย่างมากมาย คนไทยไเล่นในทัวร์ใหญ่ ไม่ว่จะเป็น แอลพีจีเอ ทัวร์ ยุโรเปี้ยนทัวร์,เอเชี่ยนทัวร์,เจแปนทัวร์ ยังขาดทัวร์เดียวที่ไม่มีนักกีฬาไปสร้างชื่อนั่นคือพีจีเอทัวร์ โดยในปีนี้จะนำเสนอผลงานเด่นๆของแต่ละทัวร์มาดังนี้
เริ่มกันด้วยโปรสุภาพสตรี สร้างชื่อเสียงและเงินตราเข้าประเทศ จะเอาเฉพาะที่เด่นๆในปีที่ผ่านมาเริ่มกันที่ โปรเม เอรียาจุฑานุกาล มือ 5 ของโลก คว้าไป 2 แชมป์ในแอลพีจีเอ คือรายการ Manulife LPGA Classic และรายการ CME Group Tour Championship รับเงินรางวัลมา 1,549,858 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 51 ล้านบาท, โปรโม โมรียา จุฑานุกาล มือ 21 ของโลกรับจากแอลพีจีเอมา 1,320,900 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 43 ล้านบาท, โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ มือ 80 ของโลกเก็บเงินจากแอลพีจีเอ 447,393 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 14 ล้านบาท
ส่วนทัวร์เล็กของผู้หญิง เบญญาภา นิภัทรโสภณ คว้ามือ 1 ของซีเมนตร้าทัวร์ ทำเงินรางวัลรวม 124,492 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 4 ล้านบาท และได้สิทธิ์ขึ้นไปเล่นแอลพีจีเอเต็มฤดูกาล เจแปนแอลพีจีเอ โปรหมู อรนรินทร์ สัตยาบรรพต คว้าแชมป์รายการGolf 5 Ladies Professional Golf Tournament มือ 48 ทำเงินรางวัล 23,900,500 เยน หรือประมาณ 7 ล้านบาท เลดี้ยุโรเปี้ยนทัวร์ ศุภมาส แสงจันทร์ มือ 25 ทำเงินรางวัล 107,211 ยูโรฯ ประมาณ 4,160,625 บาท
สำหรับฝ่ายชายในยุโรเปี้ยนทัวร์ โปรอาร์ม กิรเดช อภิบาลรัตน์ มือ 49 ของโลก ทำเงินรางวัล 1,922,192 ยูโรฯหรือประมาณ 74,596,089ล้านบาท โปรช้าง ธงชัย ใจดี ปีนี้ผลงานไม่ค่อยดีทำเงินรางวัลมา416,037 ยูโรฯ หรือประมาณ 16,145,490 บาท ซีเนียร์ ยุโรเปี้ยนทัวร์ โปรเล็ก ถาวร วิรัตน์จันทร์ มืออันดับ 9 คว้ามา 1 แชมป์จากรายการ MCB Tour Championship ทำเงินรางวัล 136,878 ยูโรฯ ประมาณ 5,311,937 บาท
เอเชี่ยนทัวร์ เป็นทัวร์ที่นักกอล์ฟไทยออกไปล่าเงินรางวัลมากที่สุด ปีนี้ดาวรุ่งทำผลงานดีเริ่มกันด้วย โปรเพชร พชร คงวัดใหม่หนุ่มน้อยจากสงขลา รั้งมือ 3 ของเอเชี่ยนทัวร์ ทำเงินรางวัล 447,299 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 14,644,988 บาท ตามมาด้วยภูมิ แสนศักดิ์ศิลป์ ที่รังมือ 8 ของเอเชี่ยนทัวร์ คว้ามา 1 แชมป์ TAKE Solutions Masters ทำเงินรางวัล 331,417 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 10,850,903 บาทโปรแจ๊ส อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ มือ 9 ขอเอเชี่ยนทัวร์ คว้ามา 1 แชมป์จากรายการ Bashundhara Bangladesh Open by four shots ทำเงินรางวัล 314,988 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 10,313,330 บาท โปรหมาย ประหยัด มากแสง มือ 14 ของเอเชี่ยนทัวร์ คว้าแชมป์ SMBC Singapore Openทำเงินรางวัล 272,308 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 8,915,619 บาท,โปรมะพร้าว ภาณุพล พิทยารัฐ คว้าแชมป์ Indonesia Open ทำเงินรางวัล 218,373 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 7,149,736 บาท,พรหม มีสวัสดิ์ มือ 30 ของเอเชี่ยนทัวร์ 134,192 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,393,571 บาท รฐนนท์ วรรณศรีจันทร์ เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น มือ 32 ทำเงินรางวัล 131,242 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,296,986บาท
ส่วน เอเชี่ยนดีวิล็อปเมนท์ทัวร์ โปรฮาย ภันกร อุทัยพัฒน์ คว้ามือ 1 มาได้และได้สิทธิ์ขึ้นมาเล่นในเอเชี่ยนทัวร์ ทำเงินรางวัล 54,827 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 1,795,087 บาท เจแปนทัวร์ ประหยัด มากแสง มือ 18 ทำเงินรางรางวัล 50,389,244 เยนหรือประมาณ 18 ล้านบาท โปรโม ธันยากร ครองผา มือ 60 ทำเงินรางวัล 15,716,525 เยน หรือประมาณ 5 ล้านบาทพีจีเอ ซีเนียร์ เจแปน โปรหมาย ประหยัด มากแสง คว้ามือ 1 ด้วยการคว้ามา 4 แชมป์ ทำเงินรางรางวัล 70,004,791 เยนหรือประมาณ 25 ล้านบาท ไชน่าทัวร์ กัญจน์ เจริญกุล หนุ่มน้อยจากพังงา มืออันดับ 7 คว้าเงินรางวัล 449,092 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 14,703,693 บาท
บทสรุปที่ผลงานโปรไทยมีผลงานที่ดี มาจากที่มีทัวร์นาเมท์ให้แข่งขันเยอะมากขึ้นในประเทศ เมื่อเริ่มเก่งขึ้นก็ออกไล่ล่าเงินรางวัลกลับเข้าประเทศ แต่ยังคงต้องเน้นย้ำว่าการที่จะให้ภาคเอกชนสนับสนุนอย่างเดียว คงจะไม่เห็นผล ภาครัฐฯคงต้องทุ่มเงินลงมาสร้างพื้นฐานให้แข็งแรงมากกว่าเดิม ในปัจจุปัน ทัวร์ของโปรชายมีประมาณ 20 รายการ เงินรางวัลเฉลี่ยประมาณ 2.5 ล้านบาท ถ้าเพิ่มทัวร์นาเมนท์ให้เป็น 30 รายการ เงินรางวัลเฉลี่ย 3 ล้านบาท รับรองจะมีโปรชายไทยลุยในเวทีโลกอีกเพียบ ส่วนโปรหญิงทุกวันนี้มีประมาณ 10 รายการ เงินรางวัลเฉลี่ย 1 ล้านบาท อยากให้เพิ่มสัก 20 รายการเงินรางวัล 2 ล้าน รับรองเราจะมีสาวไทยลุยแอลพีจีเอไม่น้อยกว่าเกาหลีใต้อย่างแน่นอo และในอนาคต คงจะมีโปรไทยนำธงชาติไปลุยพีจีเอทัวร์ ที่อเมริกาอย่างแน่นอน