คอลัมน์ในอดีต

สายใยสองภพ : ความรัก คือ สายรุ้ง

ความรัก คือ สายรุ้ง

ตะวันคล้อยต่ำ หญิงชรา นั่งตำหมากอยู่บนชานบ้านเรือนไทยหลังเก่า บรรยากาศดูเงียบเหงากว่าทุกวัน เพราะเจ้าจุกกับเจ้าเปียกลับไปแล้วตั้งแต่กลางวัน หญิงชราเพ็งมองไปบนฟากฟ้าไกล ทำไมวันนี้แสงพระอาทิตย์ที่ส่องมายังพื้นโลกดูร่มเย็น ไม่ร้อนแรงอย่างทุกวันที่ผ่านมา แสงของพระอาทิตย์ดูคล้ายแสงของพระจันทร์ที่ส่องลงมาในยามค่ำคืน…หญิงชรายังคงนั่งอยู่ที่เดิมค่อยๆบรรจงเอาหมากที่ตำแล้วเข้าปากเคี้ยวอย่างช้าๆตายังคงจับจ้องอยู่บนฟากฟ้า พระจันทร์มาแล้ว ขณะที่พระอาทิตย์ยังคงส่องแสงสีนวลไม่ยอมลับขอบฟ้า หญิงชรา…นิ่งคิด พระอาทิตย์ พระจันทร์ แสงนั้นแตกต่าง แต่วันนี้ช่างแปลกเสียเหลือเกิน พระอาทิตย์เย็น พระจันทร์เย็น มันมีอะไรบางอย่างกำลังจะบอกกับมวลมนุษย์แน่แท้…เมฆค่อยๆกระจายวงกว้างบดบัง…ฝนเริ่มโปรยปรายเสียงจิ้งหรีดเรไรส่งเสียงร้องกันระงม ค่ำคืนนี้ ขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันไหว้พระจันทร์ หรือชาวอีสานเรียก พระเพ็ง พระจันทร์เต็มดวง จะมีไหมหนอในคืนนี้…เมื่อพระพิรุณโปรยปรายมาอย่างนี้ พระอาทิตย์ลับไปแล้ว พระจันทร์ที่พึ่งโผล่ขึ้นมาส่องแสงเย็นอ่อนหวานก็มามีสายฝนบางเบาเป็นสายโปรยปรายบังแสงเอาไว้ เป็นความนัยอะไรบางอย่าง หญิงชรายังคงเตรียม ผลหมากรากไม้ ขนมไหว้พระจันทร์ ทั้งที่พระจันทร์ถูกบดบังจากก้อนเมฆ ด้วยประเพณีที่สืบทอดกันมาของชาวจีนสมัยโบราณ การไหว้พระจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญจึงยังคงเป็นประเพณีปฏิบัติกันเรื่อยมา

การไหว้พระจันทร์ เป็นวันที่พระจันทร์ส่องแสงงดงามที่สุด และเต็มดวงที่สุด ชาวจีน ชาวไทยเสื้อสายจีนจึงไหว้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของความสวยงาม เป็นสื่อกลางของการคิดถึงซึ่งกันและกัน เมื่อคนในครอบครัวจากบ้านไปไกลคิดถึงครอบครัว ก็ให้แหงนมองพระจันทร์ส่งความรู้สึกที่ดี ส่งความคิดถึงไปสู่ครอบครัวและคนที่รักผ่านพระจันทร์ หญิงชราก็เช่นกัน บอกผ่านความรักไปยังทุกคนที่คงเหลือแค่ความคิดถึง…เท่านั้น

ใกล้จะสองยามแล้ว เมฆเริ่มกระจายเป็นแผ่นจางๆ ฝนที่โปรยปรายลงมาประดุจน้ำทิพย์ก็ค่อยๆจางหาย พระจันทร์กำลังคืบคลานออกจากเงาเมฆ ส่องแสงประกายสว่างสุกใสเต็มดวง เป็นอัศจรรย์ยิ่งยามค่ำคืนที่ฝนโปรยปรายในวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ หญิงชรา…บรรจงปูผ้าขาวที่ชานหน้าบ้านเรือนไทยหลังเก่าแล้ววางเครื่องสักการะพระเพ็งพร้อมสรรพ หญิงชรา…จุดธูปเทียนบูชาแล้วกล่าวคำอธิษฐานสั้นๆว่า ข้าพเจ้าขอสักการบูชาพระเพ็ง ขอให้พระเพ็งส่องสว่างกลางใจข้าพเจ้าเป็นนิรันดร์ ทันใดนั้น เสียงฟ้าคะนองร้องกึกก้องสนั่นหวั่นไหวแสงแปลบปลาบท่ามกลางพระจันทร์ส่องเต็มดวง และแล้วเพียงในเวลาไม่กี่วินาที พระจันทร์ดวงงามก็คืบคลานเข้าไปซ่อนในกลีบเมฆดังเดิม ฝนเริ่มโปรายปรายจากสายบางเบา จนกลายเป็นเส้นทึบหนา และกระหน่ำตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาลงมาทั่วฟ้าในเวลาสองยามของคืนเดือนเพ็ญ

ฤดูฝนปีนี้ดูท่าทีจะยังตกไปตลอดทั้งที่ใกล้ออกพรรษาแล้ว ได้เวลาเหล่าพญานาคทั้งหลายจะออกมาฉลองชัยส่งแสงบั้งไฟถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ริมแม่น้ำโขงเต็มเปี่ยมแทบจะล้นตลิ่ง บ้านเรือนที่อยู่ใกล้ริมน้ำก็เตรียมขนข้าวของขึ้นที่สูง โชคดีที่บ้านเรือนไทยของหญิงชราอยู่ห่างจากริมแม่น้ำโขงกว่าบ้านหลังอื่นและยกเรือนขึ้นสูง น้ำมากแค่ไหนก็ไม่ท่วมถึง ฝนยังไม่หยุดตก ล่วงเวลาสองยามไปแล้ว หญิงชราค่อยๆล้มตัวลงนอน แต่ภายในจิตใต้สำนึกยังคงได้ยินเสียงฟ้าร้องคะนองกึกก้องอยู่ไม่ขาดสาย ท่านปู่พญานาคราช-ท่านย่าพญานาคี ท่านคงรับรู้ในการปฏิบัติของหญิงชรา ด้วยวัยและสังขารอันร่วงโรยใกล้ฝั่ง หญิงชราจึงใช้วิธีการนอนสมาธิกำหนดจิตทันทีไปที่พระธาตุพนม

ซึ่งเป็นเสมือนเมืองของพญานาคในภพมนุษย์ที่เหล่าพญานาคจะขึ้นมากราบไหว้สักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ปุริมายะ ทักขิณายะ ปัจฉิมายะ อุตตะรายะ เหฏฐิมายะ อุปะริมายะ
ทิสายะ กะปะณะศิริสะมิง ปันพะเตมะหากัสสะเปนะ ฐาปิตัง
พุทธะอุรังคะธาตุง สิระสา นะมามิฯ เสตะฉัตตัง สุวัณณะระชะตัง ระตะนัง
ปะณีตัง พุทธะอุรังคะเจติยัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา

ซ้ำๆไปมา จนหญิงชราหลับไปในที่สุด สายฝนก็ยังคงความชุ่มช่ำจนย่ำรุ่งของวันใหม่

พระอาทิตย์แย้มยิ้มส่องแสงผ่านละอองน้ำฝนในอากาศที่ยังคงมีฝนโปรยปรายเบาบางคล้ายฝนโบกขรพรรษ (เป็นฝนสีแดง ถ้าผู้ใดปรารถนาจะให้เปียกจึงจะเปียก หากมิได้ปรารถนาแม้แต่เม็ดหนึ่งก็มิได้เปียก เมื่อถูกกายแล้วจะหล่นสู่พื้นดินเสมือนหยาดน้ำที่ตกลงสู่ใบบัวแล้วกลิ้งตกลงไปฉันนั้น) ในยามรุ่งของเช้าวันใหม่ ทำให้เกิดสายรุ้งสองสายโค้งเข้าหากันส่งประกาย ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง รับกับขอบฟ้า แสงพระจันทร์ยังคงส่องแสงสีนวลจางๆ ช่างงดงามเสียเหลือเกิน หญิงชรารำพึง พระอาทิตย์พระจันทร์เป็นดวงเดียวกัน ฉับพลันสายรุ้งสองสายก็เกี่ยวก้อยรัศมีรวมตัวโค้งข้ามขอบฟ้าเป็นวงกลมเหมือนคันธนูที่โก่งเต็มที่ เลียมริมฝั่งโขง

เจ้าจุก เจ้าเปีย ที่กุลีกุจอเก็บดอกบัวเพื่อให้หญิงชราใส่บาตรหลวงตา ถึงกับตะลึงในความงดงามของสายรุ้ง ส่งเสียงร้องเรียกหญิงชรามาแต่ไกล ยายจ๋าๆดูนั่นซิ ในชีวิตหนูไม่เคยเห็นเลยสวยจริงๆจ๊ะยาย ยายเล่าเรื่องสายรุ้งให้หนูฟังหน่อยซิจ๊ะ เจ้าเปียทำหน้าฉอเลาะประจบหญิงชรา…จุกก็พยักหน้าตาม ใช่ๆยายอยากอยากรู้จริงๆหญิงชรายิ้มตอบอ่อนโยนด้วยสายตาที่มีความรักความเมตตาให้กับเด็กทั้งสอง ได้ลูกไปไปตักบาตรหลวงตากันก่อนเสียงไม้พายกระทบน้ำดังมา เรือหลวงตาใกล้จะถึงตลิ่งข้างบ้านเราแล้วลูก เจ้าเปียจูงมือหญิงชราเช่นเคย ซึ่งมืออีกข้างของหญิงชราถือไม้เท้าเพื่อพยุงตัวเอง เจ้าจุกมีหน้าที่ถือผลหมากรากไม้อาหารที่เตรียมใส่บาตรหลวงตา หลังจากใส่บาตรหลวงตาๆก็ให้พรและกรวดน้ำ

พระจตุโลก พระยมกทั้ง 4 ส่งน้ำอุทิศนี้เข้าไปในลังกาทวีป ในห้องพระสมาธิ เป็นที่ประชุมการใหญ่ ของพระแม่ธรณี ขอให้พระแม่ธรณีจงมาเป็นทิพยาน เป็นผู้ว่าการในโลกอุดร ขอให้แม่พระธรณีจงนำเอากุศล ผลบุญของข้าพเจ้า ที่ได้กระทำในครั้งนี้ นำส่งให้แก่ข้าพเจ้า ในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด นิพพานปัจจโยโหตุ