คอลัมน์ในอดีต

สายใยสองภพ : ความรัก กับ ศาสนา (2)

ความรัก คือ ศาสนา 2

หญิงชราหยุดนิ่งครู่หนึ่ง แล้วเล่าต่อว่า

เออ..ลูก หลวงพ่อพระสุก ยังมีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาอีกนะ ว่าหลังจากหลวงพ่อพระสุกผู้เป็นพี่เสียสละดำดิ่งลงไปสู่เมืองบาดาลนั้นเล่าขานกันถึงความศรัทธาของท่านปู่พญานาคราช ท่านย่าพญานาคี และรวมทั้งเหล่าพญานาคผู้มีความเคารพและศรัทธาในพระพุทธเจ้ามาก หลังจากอาณาจักรล้านช้างโดยมีพระราชธิดาทรงสร้างพระพุทธรูป 3 องค์ คือ พระสุก พระใส พระเสริม ความทราบถึงท่านปู่พญานาคราชจึงแปลงกายขึ้นไปขอพระพุทธรูปกับเจ้าเมืองล้านช้าง โดยเฉพาะเจาะจงขอรับพระสุกไปสักการบูชาเป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าในเมืองบาดาลดังที่ยายเคยบอกแล้ว ท่านปู่พญานาค ท่านย่าพญานาคีและเหล่าพญานาคเป็นผู้อยู่ในศีลแปดโดยเคร่งครัดมาก ไม่ทำร้ายผู้ใด ยกเว้นพญานาคที่เกเรทำร้ายมนุษย์อยู่ในชั้นต่ำ ซึ่งมีหลายต่อหลายครั้งที่หลายคนพยายามจะอัญเชิญหลวงพ่อพระสุกขึ้นมาจากเมืองบาดาล เพื่อนำขึ้นมาที่เมืองมนุษย์ให้ทุกคนได้กราบไหว้ แต่ก็ไม่สำเร็จ และก็ไม่มีใครสามารถนำองค์หลวงพ่อพระสุกขึ้นมาได้จนในที่สุด พระอาจารย์สีทัตย์ สุวรรณมาโจ จึงได้คิดสร้าง หลวงพ่อพระสุกองค์จำลองซึ่งมีพระพักตร์เหมือนหลวงพ่อพระสุกองค์จริงที่อยู่ในเมืองบาดาล และประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีคุณเมือง หนองคายเรานี่เองลูก เพื่อให้ประชาชนในเมืองหนองคาย ชาวไทยชาวลาวที่ศรัทธาได้มีไว้สักการะกราบไหว้บูชา

อิมินา สักกาเรนะ สุกัง นามะ พุทธะรูปัง อภิปูชะยามิ
ตะมะหัง สุกะพุทธะรูปัง สิระสา นะมามิ
ตัสสานุภาเวนะ นิหาลาโภ โหมิ สุขิโต โหมิ อะโรโค
โหมิ สัพพะสัมปัตติ สัทธิโย โหนตุ จะ มะมะ สัพะทา

หลวงพ่อพระสุกซึ่งพระราชธิดาองค์โตของสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ชื่อสุก เป็นคนสร้างและนำชื่อของตนเองมาตั้งถวายเป็นพุทธบูชา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ศิลปะล้านช้าง หน้าตักกว้าง 91 เซนติเมตร สูง 114 เซนติเมตร ฐานกว้าง 94.5 เซนติเมตร หลังจาก พระอาจารย์สีทัตย์สุวรรณมาโจสร้างหลวงพ่อพระสุกองค์จำลองสำเร็จ และประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีคุณเมือง ซึ่งแต่เดิมชื่อวัดป่าขาว และท่านขุนพิพัฒน์โรคาเป็นผู้เริ่มสร้างอุโบสถ และสร้างเจดีย์ธาตุ ซึ่งต่อมา พระอาจารย์สีทัตย์ สุวรรณมาโจ นี่แหละ ได้เปลี่ยนชื่อวัดให้คล้ายกับชื่อของโยมอุปถัมภ์วัด คือ นางคูณ ทวีพาณิชย์ และยังมีศาลาหลวงพ่อพระสุกเป็นแหล่งพักพิงให้กับสาธุชนที่หลั่งไหลมาทำบุญในเทศกาลต่างๆไม่ว่าช่วงวันสงกรานต์หรือมาชมบุญบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษา หรือช่วงเทศกาลอื่นๆก็สามารถพักนอนได้ ศาลากว้างขวาง ซึ่งทางวัดก็ไม่คิดค่าใช้จ่าย แล้วแต่ใครจะทำบุญตามศรัทธาที่จะบริจาค

ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระสุกจำลองที่วัดศรีคุณเมืองเล่าขานเป็นตำนานสืบต่อกันมาอย่างเช่น เมื่อไหร่ที่อัญเชิญหลวงพ่อพระสุกจำลอง ออกมาจากพระอุโบสถไปตากแดดอยู่ได้ไม่เกินสามวัน จะทำให้เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะฝนจะตกเป็นอัศจรรย์ก็จะนำความชุ่มชื่นมาสู่พื้นที่นั้น และจะไม่แห้งแล้งและขาดน้ำ เพราะหลวงพ่อพระสุกองค์จริงซึ่งลงไปอยู่กับน้ำ คือเมืองบาดาล มีแต่ความร่มเย็น

และที่วัดศรีคุณเมืองเวลาจัดงานบุญทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นหน้าแล้งหรือหน้าฝนหรือหน้าหนาว ฝนก็จะตกลงมาทุกครั้ง เหมือนประทานพรให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ถ้าใครมีทุกข์ร้อนมาขอพรอธิษฐานก็จะได้สมปรารถนา และเล่าสืบต่อมาอีกเหมือนกันว่า พระยาปทุมเทวาภิบาล เจ้าเมืองหนองคาย ได้เคยไปอธิษฐานขอบุตรให้กับลูกหลานที่แต่งงานกันมาถึง 12 ปีแล้วไม่มีบุตรกับหลวงพ่อพระสุกก็ได้สมปรารถนาเช่นกัน

หลวงพ่อพระสุกจำลอง จึงกำเนิดเกิดขึ้นในเมืองมนุษย์โดยพระพักตร์และเต็มองค์ทั้งหมดจะเหมือนกับหลวงพ่อพระสุกองค์จริงที่จมลงไปในเมืองบาดาลบริเวณตรงบ้านเวินแท่น ซึ่งต่อมาเรียกว่า เวินสุก อยู่ตรงข้ามกับบ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ตรงนั้นเป็นบริเวณปากลำน้ำงึมไหลลงมาแม่น้ำโขง จึงเป็นแม่น้ำสองสี ทำให้หลวงพ่อพระสุกอยู่ทั้งสองมิติสองภพซ้อนกันอยู่ คือ ภพมนุษย์กับภพบาดาล หากผู้ใดนับถือก็เสมือนหนึ่งเป็นพลังยกกำลังสอง ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอทั้งสองภพพร้อมกันเลยทีเดียว สายใยเชื่อมโยงกันดังเช่นสายรุ้งที่โยงกันระหว่างภพสวรรค์กับภพมนุษย์ฉันใดก็ฉันนั้น

สายใยรักของหลวงพ่อพระสุกผู้เป็นพี่ที่เสียสละครั้งยิ่งใหญ่จึงทำให้เกิดสายใยรักขึ้นทั้งสองภพเชื่อมโยงกันทั้งวันและเวลา ระหว่างภพมนุษย์กับภพบาดาล ผูกพันหล่อหลอมเป็นดวงเดียว ยืดโยงเหนียวแน่นเหมือนจิต-วิญญาณ เป็นสัจจธิษฐานร่วมกัน แม้กายอยู่คนละภพ แต่หล่อหลอมให้เป็นจิตดวงเดียวกันได้ จึงทำให้เกิดความสำคัญ คงความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก จิตที่เกี่ยวกันเหนียวแน่นข้ามภพข้ามชาติ จึงเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ เมื่อสองภพรวมเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะอยู่ภพมนุษย์หรือภพบาดาลก็สามารถสื่อสารต่อกันได้ดังโทรจิต ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระสุกจึงพิสูจน์ให้ประชาชนชาวหนองคาย ไทย-ลาวที่เคารพและศรัทธา อธิษฐานขอสิ่งที่ปรารถนาได้ตลอดกาล หลวงพ่อพระสุกจึงศักดิ์สิทธิ์เป็นนิจนิรันดร

มณีจันทร์ฉาย