ชิษณุพงษ์ ตั้งคุณาพิพัฒน์
ชิษณุพงษ์ ตั้งคุณาพิพัฒน์
บริษัท บริหารสินทรัพย์ เพิร์ล จำกัด
บริษัท ราชพฤกษ์แคปปิตอล จำกัด
“คุณค่าของคน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเป็น ไม่ใช่สิ่งที่คุณมี”
“ถ้าชีวิตเกินความคาดหวังของคุณ คุณต้องถามตัวเองเรื่อย ๆ ว่า … เมื่อคุณทำอะไรจบอย่างหนึ่ง ต้องถามตัวเองทุกครั้งว่า วันนี้เราเดินมาทางนี้ได้ยังไง ? ทำไม กำไร – ขาดทุน ? ทำไมวันนี้ยังคงคบเพื่อนคนนี้ แต่ไม่คบเพื่อนคนนั้น ? ถ้ามีคนมาบอกว่าสนิทกับผม ให้ถามเขาด้วยว่า เคยกินข้าวกับผมหรือไม่ สนิทจริงต้องกินข้าวด้วยกัน ถ้ากินข้าวด้วยกันอร่อยแล้วผมจะกินด้วย ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ถ้าวันนี้กินข้าวกับใครแล้วอร่อย เรากินกับคนนั้น”
เถ้าแก่น้อย : อายุแค่สิบกว่า ๆ ผมก็ต้องรับผิดชอบงานเต็มตัวแล้วส่วนหนึ่งคือรับช่วงมาจากคุณพ่อ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการทอผ้า พอคุณพ่อเลิกทำ ผมมาสานต่อด้วยการขายอะไหล่เครื่องทอผ้า ตอนออกจากโรงเรียน บอกเพื่อนว่า พ่อจะส่งไปเรียนต่อเมืองนอก จนเพื่อนแซวว่า “เรียน ๆ ลอก ๆ ไปนอกก็มี” ซึ่งผมจำแม่นมาจนถึงวันนี้ แต่จริง ๆ แล้วผมออกมาทำงาน พอเพื่อนเห็นว่าไม่ได้ไปนอกซะที ก็มาแซวอีกว่า “โดนพ่อหลอก” ซึ่งจริง ๆ แล้ว เราหลอกเพื่อน ๆ เพื่อให้ดูดีต่างหาก
เงินบาทลอยตัว : ธุรกิจไปได้ด้วยดี จนอยากเปิดโรงงานพลาสติกผลิตหลอดด้าย ภาพคือเราเป็นเจ้าของโรงงาน ดูดี โดยที่ยังไม่รู้ว่า นี่คือกับดักชีวิต จริง ๆ โตเร็วเกินไปด้วยเงินคนอื่นที่กู้มา ไม่ได้โตด้วยผลกำไร นั่นคือความไม่มั่นคงและยั่งยืน เมื่อเกิดวิกฤติค่าเงินบาทลอยตัว ประสบปัญหาช่วงปี 2538 -2539 ทุกอย่างคือเกินตัว อยากจะมีเงินในบัญชีเยอะ ๆ ยอดหมุนเวียนหลักหลายร้อยล้าน ทั้ง ๆ ที่ กำไรบางเฉียบ แต่ค่าใช้จ่ายสูงลิบ เพราะรุ่นก่อนโน้นหากมียอดเดินในบัญชีเยอะ ก็กู้ได้เยอะ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พอคนอื่นไม่จ่ายมา เราก็ไปจ่ายต่อไม่ได้
ราดหน้าหรือข้าวมันไก่ : เราเป็นหนี้ ไม่รู้จะทำยังไง ก็เดินไปหาเจ้าหนี้ บอกเขาไปตามตรงเลยว่า ไม่รอด เขาเองก็ทราบถึงสถานการณ์ในช่วงนั้นดี ก็ถามว่า จะเอายังไง ตอนนั้นผมมีโรงงานพลาสติก ก็ตอบไปว่า ให้ซื้อวัตถุดิบให้ แล้วผมผลิตส่งให้ ทำงานใช้หนี้ หักค่าแรงไปเรื่อย ๆ คำถามคือ แล้วเมื่อไหร่จะใช้หนี้หมด ก็ทำไปเรื่อย ๆ ตอนนั้น ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ
อยู่ได้เพราะกอล์ฟ ถึงกับบอกภรรยาเลยว่า จะขายราดหน้าหรือข้าวมันไก่ เพราะวันหนึ่งโรงงานต้องโดนขายแน่นอน
กอล์ฟ : เวลาไปขายของให้กับกลุ่มผู้ใหญ่ในวงการทอผ้า ทั้ง บางปู พระประแดง สมุทรปราการ จนมีความสนิทสม กลุ่มนี้จะนัดรวมตัวสังสรรค์กันอยู่เรื่อย ๆ ถ้าเขาไปดื่ม ผมก็ตามไปชง คอยให้บริการ จนเริ่มชวนกันเล่นกอล์ฟ สมัยนั้นยังมีสนามซ้อมบางจาก สุขุมวิท พอเขาไปไดร์ฟ ก็ตามไปด้วย พี่ ๆ เล่นอะไร ก็เล่นด้วย นั่นคือจุดเริ่ม กลุ่มพี่ ๆ เป็นเถ้าแก่เจ้าของโรงงาน อายุค่อนข้างเยอะ เรายังเป็นเด็ก ได้ความเมตตาจากพวกพี่ ๆ ให้ยืมอุปกรณ์เล่น ฝีมือพอออกรอบได้ก็ไปซื้อ แข่งจนถ้วยรางวัลเต็มบ้าน, ปี 2538 – 2539 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ธุรกิจมีปัญหา ทำให้ต้องเล่นกอล์ฟจริงจัง สมัยนั้นเล่นกันถือว่ามูลค่าสูงพอสมควร มีได้ มีเสีย แต่รวม ๆ แล้วได้มากกว่า อาศัยเรายังหนุ่ม พวกพี่ ๆ ที่เล่นด้วยกันบอกว่า “เอ็งมีพาร์ ข้ามีตังค์” เต็มใจจ่ายให้ เหมือนกับให้ความเอ็นดูเรา เล่นเสร็จขากลับแวะซื้อข้าวให้คนงาน พอเลี้ยงพนักงานที่โรงงานได้ เหมือนออกไปเล่นกอล์ฟเพื่อมาเลี้ยงลูกน้อง เล่นแทบทุกวัน เสาร์ ออกต่างจังหวัด อยู่บ้านแค่วันอาทิตย์ ตัวดำเมี่ยม แต่พอมาเริ่มทำอสังหาฯ ได้เงินก้อนแรกมาก็หยุดเล่นกอล์ฟ เพื่อเริ่มศึกษางานจริงจัง เพราะมันเป็นโอกาส วันนั้นต้องคิดแล้ว ทุกคนมีทางสองแพร่งให้เลือกตลอด คุณต้องเลือก ถ้าโอกาสมาถึงจะไปทางไหน จะเล่นกอล์ฟต่อไปเพื่อเป็นโปรฯ หรือจะหยุดเพื่อมาทำธุรกิจ

วิกฤติคือโอกาส : ด้วยความที่ยังอยากจะรักษาโรงงาน ทำให้ต้องไปติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จนมีทนายมาแนะนำเรื่องการขายที่ดิน ผมไปติดต่อจนรู้ว่าการขายทอดตลาดต้องทำยังไง ด้วยจังหวะและอาจเป็นโชค ผมนำที่ดินที่ขายทอดตลาดไปให้เพื่อน เป็นเจ้าของโรงงานทอผ้าขนาดใหญ่ พอดีพ่อเขาจะซื้อ ผมก็ติดต่อกรมบังคับคดี ขอทราบรายละเอียดและขั้นตอน จนเพื่อนสามารถประมูลที่ดินผืนนั้นมาได้ ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้ค่านายหน้า เพื่อนก็บอกว่าพ่อจะให้เงินก้อนนี้ สำหรับผม นี่คือเงินล้านครั้งแรกที่ได้จับจริง ๆ แล้วก็นำมาแบ่งให้กับผู้ที่ช่วยเหลือเราจนงานสำเร็จ
ครูพักลักจำ : จากเงินที่ได้รับก้อนนั้น ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปทันที หันมาทำงานด้านที่ดินเต็มที่ โรงงานพลาสติกก็ส่งต่อให้คนอื่นไป ผมก็สอบถามถึงกระบวนการดังกล่าว ทั้งจากธนาคารและกรมบังคับคดี เพราะผมอยากรู้รายละเอียด ยังต้องการไปต่อ ขณะนั้นทุกคนเจอกับวิกฤติทำนองเดียวกันหมด จากนั้นผมก็ศึกษาเรื่องที่ดินมาตลอด เป็นช่วงที่รัฐบาลตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ ผมก็ได้เข้าไปเรียนรู้เรื่องการประนีประนอมหนี้จากทนายที่อยู่ในธนาคาร ได้เข้าไปคุยกับลูกหนี้ เป็นตัวแทนลูกหนี้ ประนีประนอมหนี้ ตัดหนี้ ทุกอย่าง คนที่คุยกับเราคือคนสอนเรา ถามมาก รู้มาก สิ่งที่เขาตอบมา คือความรู้ วิธีการทั้งหมด จะเป็นมายังไง คุณเรียนรู้จากฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งหมด ลูกหนี้มอบอำนาจให้เราไปคุยกับธนาคาร ธนาคารก็จะคุยกับเรา อะไรอยากรู้ ต้องถาม จนสุดท้ายเมื่อคุณทำไปเรื่อย ๆ ก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาเป็นที่ปรึกษา อย่างผมก็มีเจ้าหน้าที่เกษียณมาช่วยให้คำปรึกษา ความรู้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรียนยังไงก็ไม่มีวันหมด
ล้มแต่ไม่เหลว : กว่าจะประสบความสำเร็จก็ราว ปี 2557 ใช้ระยะเวลายาวนานมาก โดนหลอกไปหลอกมา ทุกทิศทุกทาง บางครั้งถึงกับเก็บมาฝันว่า เขามาซื้อแล้วจะได้เท่านั้นเท่านี้ จะแบ่งกันยังไง วางแผนการใช้เงินก่อนล่วงหน้า ทั้ง ๆ ที่เงินยังไม่อยู่ในกระเป๋าเลย แล้วมันก็ไม่มาจริง ๆ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้ง แต่ในความล้มเหลวนั้น เรายังได้ความรู้ คุณได้ความรู้จากมัน แล้วค่อยมาถามตัวเองว่า ทำไมงานนี้ไม่จบ ทำไมเราพลาด ทำไมคิดแล้วไม่เป็นตามคาด ต้องถามตัวเองให้เป็น แล้วสิ่งเหล่านี้จะอยู่ในหัวสมอง เวลาเจอเหตุการณ์อีก จะรู้ทันทีว่า จริงหรือปลอม
ของจริงต้องพิสูจน์ได้ : โดนหลอกไปเรื่อย ๆ จนเป็นประสบการณ์ว่า ‘การเชื่อคนอื่นง่าย จะประสบความสำเร็จยาก’ ต้องเชื่อในสิ่งที่คุณเห็นจริง ๆ อะไรที่เราคิดว่าไม่จริง คุณต้องให้ฝั่งตรงข้าม ทำให้เห็นว่านั่นคือของจริง
นายหน้านำที่ดินมาเสนอ ผมตั้งกำแพงไว้สูงลิบเลย คิดไว้ก่อนว่าไม่ใช่ของจริงแน่ เขาก็ต้องพิสูจน์ ทำยังไงให้ผมเชื่อ ให้พาไปเจอเจ้าของ ดูหลักฐานกรรมสิทธิ์ ถ้าเราอายเขา ก็จะไม่เจอความจริง ถ้าคุณเป็นเจ้าของจริง ไม่มีอะไรต้องอาย ผมกล้าต่อ ผมกล้าซื้อ ไม่ใช่ต่อรองเล่น ๆ ไม่มีกำไรก็ต้องถอย ให้ความชัดเจนดีกว่า ให้ความหวังแล้วไม่ซื้อ
ยุ่งแต่ไม่ยาก : โครงการที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในปี 2557 เป็นงานที่ยากมาก ต้องเจรจากับเจ้าหนี้หกร้อยกว่าราย แล้วจะทำอย่างไรให้ทุกคนพอใจ มีเวลา 16 เดือน ในการทำงานให้กระบวนการจบอย่างถูกต้องทางกฎหมาย ทำให้เรามีชื่อเสียงขึ้นมา ถือเป็นจุดเริ่มของความเชื่อถือ หลังจากนั้นก็มีโครงการใหญ่ ๆ เข้ามาอีกมากมาย เป็นความภาคภูมิใจ และความทรงจำที่ดีที่สุด สามารถนำบทเรียนที่ได้เจอ มาใช้กับทุกโครงการ เราทำแต่เคสยาก ๆ จนมีคนถามว่า ทำไมทำแต่ที่ดินที่เป็นคดี ผมตอบได้เลยว่า ‘คดียุ่ง แต่ไม่ยาก’ เพราะจบด้วยขบวนการทางกฎหมาย, ส่วนที่ไม่เป็นคดีนั้น ‘ไม่ยุ่ง แต่ยากมาก’ เพราะเป็นเรื่องความพึงพอใจ ซึ่งหาบทสรุปและความลงตัวได้ไม่ง่ายเลย แล้วเวลางานยาก ๆ จบ ชื่อคุณจะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง บริษัทใหญ่ ๆ จะตามหาตัวทันที
โชคเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนขยัน : ผมเป็นลูกศิษย์ ‘หลวงปู่ วัดเปร็ง’ แปดริ้ว ท่านบอกว่า ‘วาสนาคนเราสร้างได้’ แค่เป็นคนดี ไม่เบียดเบียน ไม่โกง ไม่เอาเปรียบ แล้วสิ่งที่คุณทำ ทุกคนเห็น คุณจะมีวาสนาที่เขาหยิบยื่นโอกาส นำงาน นำของดี นำความจริงใจมาให้ แค่นี้คุณไปต่อได้แล้ว ถ้าคุณมีเพื่อน แล้วทุกคนจริงใจ ของแบบนี้ไหลเขามายังตัวคุณ คุณทำเงินได้หมด คุณสร้างวาสนาให้ตัวเองได้, ‘เงินหมดได้ แต่ความเป็นตัวตนของคุณ หมดไม่ได้’ ต้องรักษาความเป็นตัวตนของคุณไว้ให้นาน ๆ มันคือเครดิต สร้างยากมาก แต่ลบง่ายมาก หากทำไม่ดี แค่ในพริบตาสิ่งที่สะสมมาก็หายไปหมดแล้ว ถ้าคุณเกิดมาบนกองเงินกองทอง คุณมีวาสนา แต่หากไม่เคยสร้างความดีเลย วาสนาคุณหมดได้

คุณค่าของคน : คุณกินอะไร ได้อย่างนั้น, ทำอะไร เป็นแบบไหน ก็เป็นแบบนั้น หลอกลวงกันไม่ได้ในระยะยาว คุณค่าของคน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเป็น ไม่ใช่สิ่งที่คุณมี คุณเป็นยังไง มันแก้ไขไม่ได้, ถึงแม้คุณมี คุณอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ได้ บางคนรวยมาก แต่ทำให้คนเกลียดมากด้วย การทำให้คนรักนั้นง่าย แต่การทำให้คนเกลียดง่ายมากกว่า หากคุณไม่เคยแบ่งปัน เอาเปรียบผู้อื่น
จำเป็น หรือ ต้องการ : อะไรที่คุณไม่มี แล้วอยากมี นี่คือเกินตัว, หากคุณไม่รู้จักคำว่า ความ “ต้องการ” กับ ความ “จำเป็น” นี่คือชีวิตลำบาก อย่างคุณใช้นาฬิกาเรือนละไม่กี่พัน เพื่อใช้ดูเวลา นี่คือความจำเป็น แต่ถ้าไปซื้อยี่ห้อหรูหลักล้าน นี่คือความต้องการ, ถ้าคุณรู้ว่า ความต้องการ กับ ความจำเป็น มันแยกกันได้ ถึงจุด ๆ หนึ่ง หากความต้องการมันทำได้ ให้ทำ นั่นคือความสุข, แต่หากความต้องการยังทำไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลาแต่คุณไปรีบทำ แบบนี้เรียก เกินตัว นั่นคือทุกข์ หากผ่านไปได้ ถือว่าเรามีวาสนา แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ชีวิตและครอบครัวจะพบแต่ปัญหา ทุกอย่างเราจะนึกได้ เมื่อโดนไปแล้ว ต้องถามตัวเอง ทำไมถึงต้องการ ไม่ได้บอกว่าซื้อไม่ได้ แต่ต้องตอบให้ได้ว่า ถึงเวลานั้นแล้วหรือยัง หากยังไม่ถึงเวลา ได้มาเร็วเกินไปก็เหนื่อย
เรียนรู้ ก้าวให้ทัน : เดินทางมาถึงทุกวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งคือการได้ไปเรียน ครั้งแรก คือ The NEXT Real เป็นหลักสูตรสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้รู้ว่า เพื่อนสำคัญ ทำให้ได้รู้จักเพื่อนอีกหลากหลาย ความรู้ของเขาที่ประสบความสำเร็จ เราได้เรียนรู้จากเขา ซึ่งต้องเกิดจาก เราเดินไปหาเขา พูดคุยกัน ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ จากนั้น ข้ามไปเรียนหลักสูตร อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป (Ultra Wealth Group) เน้นการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการการลงทุน การเงิน ในหลากหลายรูปแบบ ได้เรียนรู้จากคนเก่ง ๆ การเรียนในหลักสูตร ช่วยเปิดวิสัยทัศน์กว้างมาก ทำให้รู้ว่า คนเก่ง ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ จับเงินหลักร้อยล้านได้เร็ว เขาคิดยังไง แต่ละสาขาอาชีพเขาทำงานกันยังไงให้ประสบความสำเร็จ เราถามเขา เขาถามเรา แลกเปลี่ยนกัน ต้องก้าวให้ทัน ยุคสมัยเปลี่ยนไป โลกเปลี่ยนไปเร็ว เราต้องตามให้ทัน หยุดอยู่กับที่ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ ไม่เคยรู้จักโซเชียลต่าง ๆ เลย พอไปเรียนหลักสูตร ทุกคนมาช่วยกันทำให้ สอนวิธีเล่น ทำให้ได้รู้เรื่องต่าง ๆ กว้างขึ้นไปอีก ส่วนแต่ละเรื่องนั้น จะจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ ต้องเรียนรู้ พิจารณา แต่อย่าไปหลง เพราะเหรียญมีสองด้านเสมอ
รู้จักพอ : เงิน จะมากหรือจะน้อยแค่ไหนย่อมมีคุณค่าเสมอ อย่าไปมองข้าม ถ้ามองว่าทำแล้ว “เหลือแค่ 1 บาท” ชีวิตก็จะทุกข์ทันที แต่ถ้าเปลี่ยนมามองว่า “ได้ตั้ง 1 บาท” คุณมีความสุขมาก ไม่ว่างานนั้นจะสำเร็จหรือไม่ เพราะนั่นคือประสบการณ์ คือสิ่งที่คุณได้ เป็นกำไรชีวิตที่หาซื้อไม่ได้จากที่ไหน โรงเรียนไม่มีสอน มีเท่านี้ แค่ใช้น้อยกว่าที่มี ก็มีความสุขแล้ว แต่หากไปใช้มากกว่าที่มี ก็เป็นความทุกข์ ถ้ารู้จักตัวเอง รู้ว่าอะไรคือความจำเป็น อะไรคือความต้องการ แค่รู้จักพอ ก็มีความสุขทั้งชีวิตแล้ว
กอล์ฟคือความสุข : ผมบอกเสมอว่า กอล์ฟ ‘ไม่ใช่อาชีพ’ แต่คือ ‘ความสุข’ ทำยังไงให้มีความสุขในสนามได้ ไม่ได้ไปเพื่อจะกินเขาแล้วมีความสุข หัวเราะได้มากเท่าไหร่ในสนาม นั่นคือกำไรชีวิต ผมเคยได้กอล์ฟหลักพันแต่เลี้ยงหลักหมื่น เพราะนั่นคือความสุข หากเจอแบบต้องคอยถามว่าคุณตีกอล์ฟไปกี่ช็อตแล้วยังตอบไม่ได้ คุณรู้แต่ไม่พยายามจะนับ แล้วจะทำธุรกิจใหญ่ ๆ ได้ยังไง ผิดบ้างไม่ได้ว่า แต่อย่าผิดบ่อย จะทำอะไรกับเราก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เราจึงต้องเลือกเพื่อนร่วมก๊วนที่มีนิสัยใจคอเหมือนกัน กินข้าวด้วยกันแล้วอร่อย นั่นคือกำไรและความสุขของชีวิตแล้วครับ
