คุณภาพกับปริมาณในการเล่นกีฬา
คุณภาพกับปริมาณในการเล่นกีฬา
ในการเล่นกีฬาเพื่อการแข่งขัน นักกีฬาควรจะฝึกซ้อมหนักขนาดไหนถึงจะพอหรือมากพอ เพราะประเด็นของความโต้แย้งระหว่างนักกีฬาและโค้ช รวมถึงผู้ปกครอง ความเห็นต่างนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา บางครั้งนักกีฬาบอกว่าหนักมา บางครั้งโค้ชและผู้ปกครองบอกว่าหนักมาก ขณะที่บางครั้งโค้ชและผู้ปกครองบอกว่าไม่หนักพอ ยังฝึกหนักได้อีก หรือมีความคิดในทางตรงข้ามกัน ซึ่งการประเมินนี้ และปัญหานี้ก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่ส่งผลต่อความสำเร็จ ช้าหรือเร็วที่ต่างกัน
เชื่อว่า การบอกว่านักกีฬาต้องซ้อมหนัก เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เป็นเรื่องที่เรามองว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่นักกีฬาต้องทำ เห็นชอบและนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติกันเป็นส่วนใหญ่ แต่มีสิ่งหนึ่งจะขอนำมาพูดถึงในวันนี้คือ หนักแค่ไหนและแนวทางใดที่เหมาะสม ฝึกฝนอย่างหนักแค่ไหน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หลักการเบื้องต้นที่นักกีฬา โค้ชและผู้ปกครองควรยึดเป็นแนวทางในประเด็นของความหนักในการฝึกซ้อม คือ การซ้อมทุกครั้ง ไม่ว่าหนักหรือเบา ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน คุณภาพของการฝึกซ้อมต้องยังคงมีอยู่ โดยคำว่าคุณภาพที่มีอยู่หมายถึงว่า ขณะที่ฝึก สมาธิในการฝึกยังมีอยู่ไหม ยังสนุกอยู่กับการฝึกซ้อมไหม ยังควบคุมสิ่งต่าง ๆที่กำหนดให้ทำอย่างมีประสิทธิภาพไหม
การฝึกและแข่งขันที่มีคุณภาพ จะทำให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนา เพราะเมื่อเรามีสมาธิ สนุก สนใจและตั้งใจในการฝึกซ้อมการเล่นก็จะดีขึ้น ถ้าเราฝึกซ้อมและแข่งขันที่ขาดคุณภาพ สักแต่ทำไป เท่ากับการเรียนรู้จะเกิดน้อยลง ดังนั้นเมื่อมีการฝึกซ้อมที่หนักมากขึ้นและยังคงคุณภาพไว้ได้ ประสิทธิภาพในการเล่นยิ่งจะมีมากขึ้นและเร็วขึ้นเท่านั้น
แล้วใครคือคนที่จะบอกว่าการฝึกซ้อมหนักได้ หนักได้อีก หนักอย่างเหมาะสม
นักกีฬาคือ คนที่สามารถว่าการฝึกนี้เมื่อเพิ่มความหนักแล้ว เขายังชอบ สนุก ควบคุมทักษะ ร่างกายได้ไหม ถ้านักกีฬาบอกว่าได้ เท่ากับว่ายังสามารถหนักขึ้นได้อีก อย่างไรก็ตามเมื่อการฝึกซ้อมมีคนที่เกี่ยวข้องหลายคน ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ควรจะเชื่อในการพิจารณาของนักกีฬา เมื่อนักกีฬาบอกว่าสามารถฝึกซ้อมหนักต่อไปได้ ความยากของระดับของความหนัก มักจะอยู่ที่การประเมิน ที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือประเมินผลการฝึกซ้อมในปริมาณไม่เท่ากัน โค้ชจึงควรที่จะให้โปรแกรมารฝึกที่แน่ใจว่าจะทำให้ทีมบรรลุเป้าหมาย และสร้างบรรยากาศที่ทำให้เกิดความมั่นใจ หรือเชื่อใจว่าสิ่งที่โค้ชพิจารณา จัดโปรแกรมการฝึกให้มีความเหมาะสมกับเป้าหมายความต้องการ
ดังนั้นทุกครั้งที่มีการฝึก นักกีฬาควรฝึกที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการฝึก เพื่อให้เกิดการเรียนรู้
และสอดคล้องไปกับความพร้อมทางด้านร่างกายและระดับของทักษะที่มี และเป็นความหนักของการฝึกซ้อมเป็นความหนักที่แท้จริง ที่ตัวเอง โค้ชร่วมกันพิจารณา
ผศ. ดร. นฤพนธ์ วงศ์จตุรภัทร
คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา
นายกสมาคมจิตวิทยาการกีฬาประยุกต์แห่งประเทศไทย