ของดี 4 อย่างในวัย 60 ขึ้น

ของดี 4 อย่างในวัย 60 ขึ้น

ในยามที่เราต้องทำงานเพื่อเป้าหมายอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือแม้แต่เอกชนร้อยทั้งร้อยก็ต้องมีความหวังไว้บ้างว่าวันหนึ่งฉันจะไปถึงนั่นหรือวันนั้นผมจะเป็นเหมือนคนนี้ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่งานเราทำก็เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและครอบครัวหรือรวมถึงบริวารเมื่อเราอยู่ในตำแหน่งสูงขึ้นไป ลองมองย้อนกลับมาดูตัวเองว่าจากจุดเริ่มต้นยันวันที่ใกล้จะต้องหยุดการทำงานในวัย 60 ปี หลายคนก็อาจทำใจได้จากหัวโขนที่เคยแบกไว้บนหัวเป็นเวลา 30 กว่าปี เคยมีบริวารว่านเครือล้อมหน้าล้อมหลัง สุดท้ายก็คงเหลือตัวคนเดียว จะไปไหนก็ลุงแก่ๆ พอดีพอร้ายเป็นตาเป็นปู่ย่าไปนั้น บางคนรับเรื่องพวกนี้ไม่ไว้พาลเป็นโรคซึมเศร้าเข้าไปน่าน…

แต่นี่นะครับบางทีการที่เราทำงานบางทีทำมากว่า 40 ปี ในสายงานเดิม พอเราเข้าวัยเก๋า 60 ไปแล้ว ผมกลับคิดอะไรต่อมิอะไรทะลุปรุโปร่งมากขึ้นกว่าเดิมอะไรที่เคยแก้ปัญหาไม่ได้ตอนนี้อะไรก็ได้รับไปแบบสบาย…ทีแรกไอ้เรานี่ก็นึกว่าเราฟุ้งซ่านไปเอง หรือหลงตัวเองอะไรทำนองนั้นแต่พอได้อ่านผลงานการวิจัยที่อังกฤษแล้วถึงกับอึ้งกิมกี่ เพราะจากการวิจัยเขาพบว่าคนที่อายุเข้าสู่วัยชรามักจะมีข้อดี 4 อย่างต่อไปนี้คือ

1. ระบบความคิดความอ่านมีความถ้วนถี่มองเห็นอะไรเป็นเรื่องพื้นฐานที่สามารถจัดการกับปัญหาได้แบบสบายคือรับมือกับอะไรก็ได้มาเลย

2. เขาบอกว่าเรื่องของภูมิคุ้มกันโรคที่เป็นพื้นฐานเรามีอยู่อย่างพอดิบพอดีการจะเจ็บจะป่วยอะไรถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงมันมักจะหายเองได้สบาย

3. ความจำและการจัดการกับปัญหามักจะมีการทำงานอย่างมีระบบแบบแผนอะไรมาก่อนมาหลัง มันทำให้คนที่ทำงานด้วยสบายใจไปหลายเปราะ

และ 4. มักจะประสบกับความสำเร็จในเรื่องเพศมากกว่าคนหนุ่มๆ สาวๆ เพราะเกิดจากประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบากับคู่ทุกข์คู่ยากที่อยู่กันมา…

จาก 4 ห้วข้อที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าคนในวัยชรานั้นหาได้หมดแล้วซึ่งอนาคตเสียที่ไหน หากแต่จะเกิดอนาคตใหม่เสียไม่ว่าดังนั้นคนที่อายุอานามเข้าสู่วัยชราไหนก็ตามอย่าหยุดคิดหยุดทำนะครับ เอาไว้สมองปิดสวิทช์ลงเมื่อไหร่เมื่อนั้นค่อยยอมจำนนนะครับ

ครูไก่