สัพเพฯ กอล์ฟ

ธรรมชาติจะบอกความสมบูรณ์

ธรรมชาติจะบอกความสมบูรณ์

พื้นที่ของประเทศไทยหากมองให้ลึกเข้าไปในส่วนของธรรมชาติที่เหลืออยู่ นอกจากคำว่า “เขาใหญ่” ที่ได้ยินติดปากถ้าอยากจะเที่ยวเดี๋ยวก็ถึง กับอีกหลายที่ซึ่งถ้าอยากออกไปชมธรรมชาติที่บริสุทธิ์ แถบอุทัยธานีก็มีหรือจะเป็นแถบเมืองกาญฯ ก็ยังพอตะเวนได้ไม่ยาก อีกชื่อหนึ่งที่ครูไก่ไม่ใคร่ได้นึกถึงมากนักทั้งๆ ที่อยู่แค่ปลายจมูกแท้ๆ… ชื่อที่ว่าคือ “แก่งกระจาน” ชื่อนี้บอกได้เลยว่ามันแค่ทางผ่านแท้ๆ เพราะสถานที่แห่งนี้ถูกบดบังด้วย ชะอำ, หัวหิน ฯลฯ ไปเสียหมด ผมเองอายุอานามปูนนี้ยังไม่เคยเข้าไปดูเข้าไปแลกับเขาเลยสักนิด…

ความจริง “แก่งกระจาน” เขามีพื้นที่เชื่อมต่อสายในเข้าไปยัน “ป่าละอู” โน่นเลย บริเวณแถบนี้จะมีหัวใจสายเลือดที่ “แม่น้ำเพชร” สายน้ำแทบจะเป็นเส้นเลือดใหญ่ของพื้นที่เลยก็ว่าได้ จากการได้เข้าไปทำกิจกรรมกับ ม.ศิลปากร ทำให้ผมไปถึงบางอ้อและได้เปิดหูเปิดตาว่า “แก่งกระจาน” มีอะไรที่น่าสนใจมากมายนัก จากสายน้ำที่เรียกขานกันเนิ่นนานนามว่า “แม่น้ำเพชร” ถิ่นนี้ปัจจุบันอุดมด้วยสถานที่พักผ่อนมากมายก่ายกอง นอกจากจะมีสถานที่พักแบบขนาดเล็กใครชอบปลีกวิเวกหรือแบบ “แคมป์” จัดสัมมนา หรือจะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่มีทั้งที่สัมมนา สระน้ำผู้ใหญ่และเด็ก ล่องแพล่องแก่งแบบชนิดจัดเต็ม…

แต่ที่น่าประทับจิตประทับใจมากก็เห็นจะเป็นความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ยังอุดมคล้ายในอดีตที่เคยเป็นมาเพราะหลังจากจบงานเราก็อยากไปเที่ยวเยี่ยมชมธรรมชาติรอบๆ ถนนสายในก็อย่างที่บอก ถนนสายนี้มันร้อยออกไปในหลายเส้นทางทั้ง ชะอำ หัวหิน ป่าละอู แต่ที่น่าประทับใจเป็นที่สุดก็เห็นจะเป็นแถบตำบลที่เขาเรียกว่า “บ้านปืนแตก” อันเป็นตำบลเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าธรรมชาติจริงๆ ด้วยเหตุที่มีพี่ท่านหนึ่งไปซื้อที่ปลูกพี่พักผ่อนส่วนตัวโดยไม่ไปวอแวกับธรรมชาติให้เสียไปมากมายนัก อะไรที่มีก็เก็บเอาไว้ดังเดิม เชื่อมั้ยครับวันที่ไปผมเจอ “นกเงือก” หรือ “นกแก๊ก” แบบตัวเป็นๆ ที่มาอาศัยอยู่ข้างบ้าน โดยเจ้าของบ้านเอาไหน้ำปลาตัดปากแล้วเอาไปแขวนไว้บนคบไม้ นกเงือกก็จะเข้ามาอาศัยแทนโพรงธรรมชาติ ผมถึงบางอ้อโดยทันทีว่า “ธรรมชาติจะบอกความสมบรูณ์” ของพื้นที่ครับ…

ครูไก่