พีจีเอทัวร์กับสถิติในเดือนมิถุนายน

พีจีเอทัวร์กับสถิติในเดือนมิถุนายน
วินด์แฮม คลาร์ก ครองแชมป์เมเจอร์ ยูเอส โอเพ่น, วิคเตอร์ โฮฟแลนด์ คว้าแชมป์แรกบนแผ่นดินสหรัฐฯ
โดย Helen Ross

วินด์แฮม คลาร์ก ผู้ซึ่งไม่เคยผ่านตัดตัวเลยในการลงแข่งขันศึกยูเอส โอเพ่น ก่อนหน้านี้ และสถิติผลงานดีที่สุดในการลงเล่นรายการเมเจอร์ 6 ครั้งที่ผ่านมาคืออันดับ 76 ร่วม ในการแข่งขันรายการ ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ ปี 2020 จึงถูกมองว่าโอกาสแย่งแชมป์เมเจอร์มีน้อย แต่เมื่อโอกาสมาถึงเจ้าตัวก็พร้อมประกาศศักดาคว้าโอกาสนั้นไว้ได้สำเร็จ

คลาร์กประเดิมรอบแรกด้วยการหวด 6 อันเดอร์พาร์ 64 และเป็นผู้นำร่วมเมื่อเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายก่อนเฉือนชนะ รอรี่ แม็คอิลรอย หนึ่งสโตรก ผงาดครองแชมป์เมเจอร์รายการแรกในอาชีพสำเร็จ พร้อมเก็บแต้มสะสมเฟดเอ็กซ์คัพ 600 คะแนน พุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง

โปรกอล์ฟวัย 29 ปีชาวอเมริกัน ปิดฉากการแข่งขันด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ และไม่เคยหลุดจาก 3 อันดับแรกเมื่อจบการแข่งขันในแต่ละรอบที่สนามลอสแองเจลิส คันทรีคลับ ปัจจัยที่ทำให้เขาคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จคือความแกร่งของสภาพจิตใจและการตีที่แม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสามหลุมสุดท้ายที่สุดแสนท้าทาย โปรหนุ่มจากเมืองเดนเวอร์เป็น 1 ในนักกอล์ฟเพียง 4 คนเท่านั้นที่ตีอันเดอร์พาร์ในหลุมที่ 16-18 ระหว่างการแข่งขันยูเอส โอเพ่น ปีนี้ ทำสถิติพัตต์ รวม 109 ฟุต 11 นิ้ว และจำนวนสโตรกรวม +3.18 สโตรกต่อรอบ รั้งอันดับ 1 ของผู้เล่นที่ลงแข่งในสัปดาห์นั้น

หนึ่งในการพัตต์เหล่านั้นคือการแทปอินเซฟพาร์ที่หลุม 17 ในการแข่งขันรอบสุดท้าย ถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักกอล์ฟอันดับ 52 ของโลกที่เข้าร่วมแข่งขันในสัปดาห์นั้น และเป็นช็อตสำคัญ เพราะระยะห่างที่นำอยู่ 3 สโตรกหลังจากเก็บเบอร์ดี้หลุม 14 พาร์ 5 ลดเหลือแค่สโตรกเดียว จากการเสียสองโบกี้ติดที่หลุม 15-16

หลังจากเซฟพาร์สำคัญ การลงเล่นหลุมที่ 72 ซึ่งเป็นหลุมสุดท้ายของการแข่งขันก็ไม่ง่ายเช่นกัน คลาร์กตีช็อตแอพโพรชขึ้นไปออน แต่ทำสองพัตต์จากระยะ 60 ฟุต เพื่อประคองคว้าชัยชนะ โดยมีรอรี่ แม็คอิลรอย ยืนลุ้นหวังไปเล่นเพลย์ออฟ โดยในการแข่งขันแต่ละรอบ ทั้งนี้คลาร์กยังมีสถิติออกสตาร์ทได้ดีทุกรอบ เขาประเดิมทำอีเกิ้ลที่หลุม 1  ในวันพฤหัสบดี เก็บเบอร์ดี้หลุม 10 ในวันศุกร์ และในสองรอบสุดท้ายก็เริ่มต้นด้วยเบอร์ดี้เช่นกัน ทำสกอร์รวมในการออกสตาร์ทหลุมแรกตลอดสี่วัน 5 อันเดอร์พาร์ ซึ่งเป็นสถิติสกอร์ต่ำสุดในการประเดิมหลุมแรกเท่ากับสถิติที่ จอห์น ราห์ม ทำไว้นับตั้งแต่ปี 2003

วิคเตอร์ โฮฟแลนด์ ชนะในรายการของตำนานกอล์ฟ “แจ๊ค นิคลอส”

วิคเตอร์ โฮฟแลนด์ ได้แชมป์พีจีเอทัวร์มาแล้ว 3 รายการ แต่ไม่เคยชนะในสหรัฐอเมริกาเลย ล่าสุดโปรกอล์ฟหนุ่มจากนอร์เวย์ปลดล็อกสำเร็จคว้าแชมป์แรกบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา เมื่อดวลเพลย์ออฟชนะ เดนนี่ แม็คคาร์ธีย์ ที่สนามเมียร์ฟิลด์ วิลเลจ ในรายการเมมโมเรียล ทัวร์นาเมนท์ พรีเซนเต็ดบาย เวิร์กเดย์ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนท์ที่ตำนานโปรกอล์ฟอย่าง แจ๊ค นิคลอส เป็นเจ้าภาพ

ชัยชนะในรายการเมมโมเรียล ทัวร์นาเมนท์ ทำให้โปรกอล์ฟวัย 25 ปี ทำสถิติคว้าแชมป์ในทัวร์ได้ทุกฤดูกาลในสี่ปีหลังสุด โฮฟแลนด์ทำเบอร์ดี้ระยะ 28 ฟุตที่หลุม 17 ก่อนมาเซฟพาร์หลุมสุดท้าย จบสี่วันสกอร์รวมเท่ากับแม็คคาร์ธีย์ ได้ไปลุ้นเพลย์ออฟตัดสินแชมป์ โดยโปรกอล์ฟหนุ่มจากนอร์เวย์มีสถิติทำผลงานดีที่สุดในการเล่น 3 หลุมสุดท้ายในสนามแห่งนี้ที่สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ ทำสโตรกรวม 2.45 สโตรกในรอบสุดท้าย สโตรกรวมตลอดทั้งสัปดาห์ +6.40 รั้งอันดับหนึ่งของการแข่งขันสนามนี้ สถิติ Strokes Gained : Tee to Green + 4.33 และสถิติ Strokes Gained: Putting 2.06 รั้งอันดับ 5 ในการแข่งขันครั้งนี้

ด้านแม็คคาร์ธีย์ พลาดซ้ำสองหนที่หลุม 18 โดยเสียโบกี้ ในการแข่งขันรอบสุดท้าย และมาเสียโบกี้อีกครั้งในระหว่างเพลย์ออฟ ขณะที่สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ มือหนึ่งของโลก ปิดฉากวันสุดท้ายตี 67 เป็นสกอร์ต่ำสุดต่อรอบ และเป็นเพียง 1 ใน 10 นักกอล์ฟที่ทำคะแนนอันเดอร์พาร์ ในการแข่งขันครั้งนี้ และโดยรวมยังทำได้ยอดเยี่ยม จำนวนสโตรกมีสถิติอยู่ในอันดับต้นๆ ของทัวร์นาเมนท์

อย่างไรก็ตาม โปรหนุ่มจากเท็กซัส ซึ่งจบใน 10 อันดับแรก 12 รายการในฤดูกาลนี้และเป็นตัวเลขที่เหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ยังคงประสบปัญหาเรื่องการพัตต์ มีสถิติ  Strokes Gained: Putting ตลอดสัปดาห์อยู่อันดับสุดท้ายจากนักกอล์ฟ 65 คนที่ลงเล่น 72 หลุม แต่สถิติ Strokes Gained: Tee to Green +20.692 เมื่อจบ72 หลุม รั้งอันดับ 2  เป็นรองเพียง วีเจย์ ซิงห์ ทำไว้ +21.140 ในรายการดอยช์แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ปี 2004

นิค เทย์เลอร์ คว้าแชมป์อาร์บีซี แคนาเดี้ยน โอเพ่น ฉลองชัยต่อหน้าแฟนกอล์ฟในบ้านเกิด

มีสองผู้ชนะในการแข่งขันอาร์บีซี แคนาเดียน โอเพ่น นั่นคือ นิค เทย์เลอร์ ที่พัตต์อีเกิ้ลระยะ 72 ฟุตในการดวลเพลย์ออฟหลุมที่ 4 เอาชนะ ทอมมี่ ฟลีตวู้ด และแฟนกีฬากอล์ฟชาวแคนาดาที่รอคอยมานาน 48 ปี สำหรับการคว้าชัยในบ้านและได้เฉลิมฉลองชัยชนะ

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการจุดเปลี่ยนสำคัญ เทย์เลอร์คงไม่ได้มายืนท่ามกลางเสียงเชียร์และการฉลองชัยบนกรีนหลุม 18 ที่สนามโอ๊คเดล คันทรีคลับ หลังจากออกสตาร์ทไม่ดีเท่าไร 75 และรั้งอันดับ 120 ในรอบแรก แต่ในการแข่งขันอีก 54 หลุม เขาทำสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่สามมาครอง

ก่อนหน้านี้มีเพียง เอียน โพลเตอร์ ทำได้เหนือกว่าเทย์เลอร์  โดยออกสตาร์ตรอบแรกอันดับ 123 ก่อนปิดฉากด้วยตำแหน่งแชมป์ในรายการฮุสตั้น โอเพ่น ปี 2018 นับตั้งแต่โพลเตอร์มาถึงเทย์เลอร์ มีนักกอล์ฟ 21,728 คนลงเล่นในรายการสโตรกเพลย์ 72 หลุม และเทย์เลอร์ ซึ่งปิดฉากการแข่งขันรายการ อาร์บีซี แคนาเดียน โอเพ่น ด้วยสกอร์ 66 ทำสโตรกรวม Strokes Gained : Tee to Green 10.29 เป็นสถิติสูงสุดของเขาในการเล่นระดับทัวร์อาชีพ และการทำ 26 เบอร์ดี้ ก็เป็นสถิติสูงสุดในอาชีพของเจ้าตัวเช่นกัน ซึ่งดีกว่าสถิติเดิม 4 เบอร์ดี้

คีแกน แบรดลีย์ สานฝันวัยเด็กซิวแชมป์ที่สองของฤดูกาลที่นิวอิงแลนด์

คีแกน แบรดลีย์ โปรกอล์ฟจากรัฐเวอร์มอนต์ คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ ทราเวลเลอร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามทีพีซี ริเวอร์ ไฮแลนด์ ซึ่งเป็นการแข่งขันพีจีเอทัวร์ เพียงรายการเดียวในนิวอิงแลนด์ บ้านเกิดของเขา และเป็นทัวร์นาเมนท์ที่เขาเข้ามาเฝ้าชมการแข่งขันตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก โดยแบรดลีย์ได้มอบชัยชนะครั้งนี้ให้กับเด็กๆ ในนิวอิงแลนด์และลูกชายสองคนของเขา

แบรดลีย์ เชื่อว่าโอกาสของเขามาถึงมาแล้ว เมื่อเปิดฉากได้ดีทำเบอร์ดี้ใน 5 หลุมแรก เสียเพียงโบกี้เดียวในการแข่งขันวันแรก และรักษาสถิติไม่เสียสโตรกเลยในอีก 52 หลุมต่อมา ก่อนปิดฉากทัวร์นาเมนท์ด้วยสกอร์รวม 23 อันเดอร์พาร์ เป็นสถิติใหม่ของสนามทีพีซี ริเวอร์ ไฮแลนด์ส

ชัยชนะดังกล่าวเป็นแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 6 ในอาชีพของแบรดลีย์ และเป็นรายการที่สองในฤดูกาลนี้ โดยตลอดทั้งสัปดาห์เขาทำ 27 เบอร์ดี้ เทียบเท่าสถิติทำเบอร์ดี้สูงที่สุดในรายการทราเวลเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ นับตั้งตั้งแต่ปี 1983 โดยเก็บเบอร์ดี้ได้มากที่สุดในหลุมพาร์ 4 ทำสกอร์รวมได้ 16 อันเดอร์พาร์  และทำ Strokes Gaines: Total on the field ได้ที่ 22.22 ทั้งนี้แบรดลีย์ใช้เทคนิค Aimpoint ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ในการอ่านกรีนสนามริเวอร์ ไฮแลนด์ส จนประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาครองได้ เขาพัตต์รวมระยะ 419 ฟุต 11 นิ้ว เป็นสถิติดีที่สุดอันดับสามในอาชีพของเขา และไม่พลาดเลยในการพัตต์ในระยะ 7 ฟุต ทั้งหมด 52 ครั้งในการแข่งขันครั้งนี้

ข้อมูลเกี่ยวกับพีจีเอทัวร์

พีจีเอทัวร์ เป็นเวทีการแข่งขันกอล์ฟอาชีพชายของเหล่าโปรกอล์ฟระดับชั้นนำของโลก ที่มีส่วนร่วมในการสร้างแรงบันดาลใจและพลังบวกต่อแฟนกีฬากอล์ฟ เหล่าพันธมิตรและสังคมทั่วโลก

พีจีเอทัวร์ มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ปอนเต เวดร้า บีช ในฟลอริดา ร่วมจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์กอล์ฟในพีจีเอทัวร์ สหรัฐอเมริกา, พีจีเอทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ, คอร์นเฟอร์รี่ ทัวร์, พีจีเอทัวร์ ลาติโนอเมริกา และพีจีเอทัวร์ แคนาดา สมาชิกในทัวร์เป็นตัวแทนนักกอล์ฟฝีมือดีที่สุดของโลกจาก 24 ประเทศ และเป็นพันธมิตรกับซีบีเอส, เอ็นบีซี, กอล์ฟ ชาแนล และอีเอสพีเอ็น ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันไปกว่า 200 ประเทศ 26 ภาษา ผ่าน 44 พันมิตรในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

การแข่งขันทุกรายการจัดโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อระดมทุนบริจาคเพื่อการกุศล โดยจนถึงปัจจุบันสามารถระดมเงินได้มากกว่า 3.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

แฟนกีฬากอล์ฟสามารถติดตามข่าวความเคลื่อนไหวและการแข่งขันพีจีเอทัวร์ได้ทางเว็บไซต์ PGATOUR.COM, แอพลิเคชั่น PGA TOUR และช่องทางโซเซียลมีเดียต่างๆ รวมถึง เฟซบุ๊ก (มีภาษาสเปน,เกาหลีและญี่ปุ่น), อินสตาแกรม, LinkedIn, TikTok, ทวิตเตอร์ (ภาษาอังกฤษและสเปน), WeChat, Weibo, Toutiao, Douyin และไลน์

ภาพ : Getty Images