ลิเดียเผยเปลี่ยนโค้ชเพื่อฟิลลิ่งใหม่
ลิเดียเผยเปลี่ยนโค้ชเพื่อฟิลลิ่งใหม่
ลิเดีย โค นักกอล์ฟสาวหมายเลขหนึ่งของโลกออกมาปกป้องผู้ปกครองของเธฮ บอกว่าไม่มีพวกเขาก็ไม่มีเธอในวงการ พร้อมบอกด้วยว่าตอนนี้เธอสามารถตัดสินใจอะไรต่างๆด้วยตัวเองได้แล้วรวมถึงการตัดสินใจแยกทางกับ ผู้ฝึกสอนชื่อดังอย่าง เดวิด เลดเบทเทอร์ ด้วย
ลิเดีย โค นักกอล์ฟสาวจากนิวซีแลนด์ โชว์ผลงานในสนามได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์แอลพีจีเอมาครองได้ถึง 12 รายการตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 19 ปี และตอนนี้เธอกำลังเรียนรู้เรื่องราวนอกสนามและการตัดสินใจครั้งสำคัญที่รวมถึงการแยกทางกับโค้ชอย่าง เดวิด เลดเบทเทอร์ และ ฌอน โฮแกน
“แน่นอนว่าฉันได้พูดคุยเรื่องราวเหล่านี้กับพ่อแม่ของฉันด้วย” นักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกเปิดเผยผ่าน เว็บไซท์แอลพีจีเอดอทคอม “พวกเขาก็ได้แสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ แต่สุดท้ายแล้วเป็นตัวฉันเองที่ตัดสินใจสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้”
“ผู้ปกครองเป็นส่วนสำคัญมากในชีวิตและอาชีพการเล่นกอล์ฟของฉัน และฉันรู้ดีว่าฉันคงไม่สามารถมายืนตรงจุดนี้ได้โดยปราศจากพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม ลิเดีย โค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองของเธอถูกโจมตีอย่างหนักหลังจากแยกทางกับโค้ชอย่าง เลดเบทเทอร์ และ โฮแกน หลังจากร่วมงานกันมา 3 ปี โดยหลังการแยกทาง เลดเบทเทอร์ ออกมากล่าวหาว่าผู้ปกครองเข้าไปก้าวก่ายกับพัฒนาการของลูกสาวตนเองมากเกินไป
“ในช่วง 2-3 เดือนหลังเป็นการทำงานที่ค่อนข้างยากลำบาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เธอต้องฟังคำแนะนำที่มากกว่าหนึ่งเสียง” เลดเบทเทอร์ เปิดเผยกับ กอล์ฟชาลแนลดอทคอม
ทางด้าน ลิเดีย โค ที่ออกมาเปิดเผยกับสาธารณะเป็นครั้งแรกหลังจากแยกทาง โดยนักกอล์ฟสาววัย 19 ปีจากอ็อคแลนด์ ยอมรับว่าบางครั้งเรื่องบางเรื่องก็แล้วแต่การตัดสินใจของผู้ปกครองของเธอ
“ฉันคิดว่าบางครั้งก็ใช่ บางครั้งฉันก็ไว้วางใจผู้ปกครองของฉันเป็นอย่างมาก เนื่องจากฉันอยู่กับพวกเขามาตลอด” โค กล่าวกับ แอลพีจีเอดอทคอม “แต่ฉันคิดว่าฉันต้องเรียนรู้ความเป็นตัวของตัวเอง และเรียนรู้การตัดสินใจต่างๆด้วยตัวเอง”
โค กล่าวว่าความสำเร็จตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีครั้งไหนแม้แต่ครั้งเดียวที่เธอจะสามารถประสบความสำเร็จได้โดยปราศจากการสนับสนุนของพ่อแม่
“ฉันสนิทกับพ่อแม่ของฉันมาก แต่มันก็คงจะเป็นเรื่องโกหกหากจะบอกว่าไม่เคยโต้เถียงกัน หรือ ฉันต้องอารมณ์เสียบ่างในบางเรื่องที่เกิดจากพวกเขา
“แต่ท้ายที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนั้นฉันอาจจะยังไม่รู้เรื่องอะไรมากมายนัก แต่พวกเขาก็เป็นคนที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีที่สุดและอวยพรให้ฉันประสบความสำเร็จอยู่เสมอ เนื่องจากพวกเขาแคร์และรักฉันมาก”
แต่เมื่อถามถึงเรื่องพัฒนาการก็ไม่สามารถจะโต้เถียงได้ว่าโค้ชช่วยให้เธอประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่เพียงการคว้าแชมป์เมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2 รายการ แต่ โค ยังเป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก และยังเป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุดที่ชนะรายการเมเจอร์
ผลงานของ ลิเดีย โค นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ มิเชลล์ วี ลูกศิษย์อีกคนหนึ่งของ เดวิด เลดเบทเทอร์
มิเชลล์ วี นักกอล์ฟอเมริกันวัย 27 ปี ทำงานร่วมกั้บ เลดเบทเทอร์ มายาวนานถึง 14 ปี ถึงแม้ว่าเธอได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นดาวดวงใหม่ของวงการ แต่ว่า วี จะชนะรายการแรกในแอลพีจีเอต้องรอนานถึง 4 ปี และต้องรอเป็นทศวรรษกว่าจะชนะรายการเมเจอร์
ในฤดูกาล 2016 ลิเดีย โค คว้าแชมป์ฒาครองได้ถึง 4 รายการ รวมถึงคว้าเหรียญเงินให้กับนิวซีแลนด์ในโอลิมปิคฤดูร้อน แต่เธอยังตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลง ในเดือนตุลาคมเธอแยกทางกับแค็ดดี้ เจสัน แฮมิลตัน รวมึงการเปลี่ยนอุปกรณ์กอล์ฟจากยี่ห้อหนึ่งไปอีกยี่ห้อหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนโค้ช เลดเบทเทอร์ ในที่สุด
“ใครๆต่างก็พูดกันว่าถ้าทุกอย่างมันดีอยู่แล้วทำไมจะต้องเปลี่ยนแปลง” โค กล่าวผ่านเว็บไซท์ “ถึงแม้ว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาฉันจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร 2-3 อย่าง แต่ฉันก็ยังไม่ตระหนักอะไร กระที่งเริ่มมีคนพูดถึงหลังการเปลี่ยนโค้ช แต่ฉันยืนยันว่าไม่รู้สึกเสียดายอะไรกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงปิดซีซั่นครั้งนี้”
โค กล่าวว่าตอนนี้เธอพร้อมที่จะเริ่มต้นฤดูกาบใหม่กับสิ่งใหม่ๆที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วของเธอ “ฉันคิดว่าฉันจะได้ลงเล่นรายการแรกของฤดูกาล 2017 ด้วยฟิลลิ่งใหม่ๆ เหมือนสมัยที่ฉันลงเล่นที่ บาฮามาส ซึ่งเป็นรายการแรกที่ฉันลงเล่นในฐานะรุ๊คกี้”
“เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของฉันคือมีความสุขและเล่นกอล์ฟให้สนุก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับฉันมากยิ่งขึ้น” โค กล่าวในที่สุด