ศรัทธาสร้างพลัง (3)
ศรัทธาสร้างพลัง (3)
หลังจากกลับจากอินเดีย
25 เมษายน 2547
ผู้เขียนฝันเห็นภาพ เทียนล้อมรอบด้วยดอกลีลาวดี (ลั่นทม) ที่ประดิษฐ์ด้วยเทียน ผู้เขียนจึงประดิษฐ์เทียนขึ้นตามภาพฝัน และจุดถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในห้องพระที่บ้านผู้เขียน คืนนั้นเองผู้เขียนก็เกิดฝันขึ้นอีก โดยฝันเห็น ภาพพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พร้อมพระโอรส และพระราชธิดายืนอยู่เคียงข้าง
26 เมษายน 2547
ผู้เขียนและน้องสาว(ไก่)ที่เกิดวันนี้พอดี นำเทียนล้อมด้วยดอกลีลาวดีที่ประดิษฐ์ขึ้นไปจุดถวาย สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทกุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ที่พระราชานุสาวรีย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา อย่างไม่รีรอ และอย่างอัศจรรย์ คืนนั้นผู้เขียนฝันเห็นภาพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5) ทรงประทับยืนและแย้มพระสรวลให้กับผู้เขียน สายพระเนตรเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา แววพระเนตรมีความสุข ในฝันนั้นผู้เขียนก้มศีรษะลงมองที่สร้อยคอที่สวมอยู่ ผู้เขียนยังคงสวมสร้อยที่แขวนด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทกุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5)ที่ได้รับจากหลวงพ่อวัดไตรมิตร เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งผู้เขียนแขวนติดตัวอยู่เป็นประจำตั้งแต่จบการศึกษาปริญญาตรีจากสถาบันแห่งนี้
30 กรกฎาคม 2547
ผู้เขียนฝันว่า พระธาตุเสด็จที่มือซ้าย 3 องค์พร้อมดอกบัว องค์หนึ่งหล่นจากมือ ผู้เขียนก้มลงเก็บขึ้นมาใหม่ แล้วจึงสะดุ้งตื่น วันนั้นเป็นวันที่ หลวงพ่อโสปาโก โพธิ (หลวงพ่อโสบิน)กลับมาเยี่ยมแผ่นดินไทยอีกครั้ง หลังจากเผยแพร่ศาสนาทั่วโลก หลวงพ่อตั้งจิตปณิธานว่าจะกลับมาสร้าง องค์พระพุทธเมตตามหาเจดีย์ (พุทธคยาจำลองจากประเทศอินเดีย)ที่บ้านวังปลาโด จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของหลวงพ่อ
16 สิงหาคม 2547
ผู้เขียนได้พบ หลวงพ่อโสบิน ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต และได้ทราบรายละเอียดการสร้างองค์มหาเจดีย์พุทธคยาจำลอง ประดิษฐานที่ วังปลาโด ห่างจากพระธาตุนาดูน ประมาณ 40 กม. ซึ่งอยู่ในอาณาเขตนครจัมปาศรี ตั้งแต่สมัยโบราณครั้งกระโน้น นับว่าเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง เพื่อให้สมพระเกียรติ คณะกรรมการจึงเปลี่ยนชื่อจากวัดวังปลาโด เป็น วัดพระพุทธเมตตาสว่างรังษี
20 สิงหาคม 2547
ผู้เขียนพร้อมคณะเดินทางไปจังหวัดมหาสารคาม เพื่อกราบถวายสักการะ “พระธาตุนาดูน” โดยนำเทียนล้อมดอกลีลาวดี(ลั่นทม) จุดถวาย ซึ่งพวกเราเรียก เทียนพุทธบูชา (เทียนพระนาง) คำอธิษฐานขอสืบสานพระศาสนาในฐานะสื่อมวลชน สิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นในทันใด คุณกิตติ(ลุงแก้ว)ร้องบอกกับทุกคนให้มองขึ้นบนฟ้า “พระอาทิตย์ทรงกลด!พระอาทิตย์ทรงกลด!” ฝนได้โปรยปรายลงมาเสมือนหนึ่งเบื้องตนตอบรับแล้ว ผู้เขียนนำเอาภาพเทียนล้อมลีลาวดี(ลั่นทม) มาเป็นปกหนังสือประวัติ พระธาตุนาดูน อย่างเหลือเชื่อ! จังหวัดมหาสารคาม ต้นไม้ประจำจังหวัดคือ ดอกลั่นทม หรือ ดอกลีลาวดี นั่นเอง
ลั่นทม นามนี้นี่เองที่ทำให้คนกลัวนักหนาที่จะนำดอกไม้ชนิดนี้มาปลูกไว้ในบ้าน โดยมีความเชื่อผิดๆว่าลั่นทมมาจากระทม คือทุกข์ แท้ที่จริงแล้วลั่นทม แปลว่าการละทิ้งแล้ว จากความทุกข์โศก ลั่นทม เพี้ยนมาจากภาษาเขมร สรัลทม แปลว่า รักอันยิ่งใหญ่ ประเทศลาว เรียก จำปาลาว เป็นดอกไม้ประจำชาติลาวอีกด้วย
ลั่นทม ฝรั่งเศสนำเข้ามาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ สมัยอยุธยาครั้งกระโน้น ในสมัยก่อนเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ในรั้วในวังเท่านั้นที่จะได้รับเพื่อเป็นของกำนัล
ลั่นทม หรือปัจจุบันนิยมเรียก ลีลาวดี ซึ่งมิใช่นามพระราชทานอย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่หาผู้ตั้งชื่อนี้ยังมิได้
ลีลาวดี (ลั่นทม) เป็นดอกไม้ที่มีความงามทั้งรูป รส กลิ่น สี และลีลา “ลีลาวดี” ลีลาอันงดงาม ชื่อนี้ช่างเหมาะเจาะเหลือเกิน โดยส่วนตัวผู้เขียนประทับใจชื่อนี้มานานเท่าที่ได้ยินได้ฟัง เป็นความรู้สึกส่วนตัว และผู้เขียนก็ไม่เคยเรียก ลั่นทม อีกเลย
ลีลาวดี (ลั่นทม) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ “Plumeria spp.” เป็นต้นไม้ในตระกูล ชวนชม บานบุรี รำเพย ฯลฯ และเป็นต้นไม้อยู่ในวงศ์ เออะโพซีนาเซ มีขนาดกลาง มีใบสีเขียว ออกดอกเป็นช่อ ยางสีขาว ถูกผิวหนังจะระคายเคือง เป็นต้นไม้ในเขตร้อน ชื่อสามัญที่ใช้ “ฟรังกีปานี” (Frangipani) แต่โดยทั่วไปจะเรียก “พลัมมีเรีย” (Plumeria) ซึ่งถูกเรียกตามชื่อนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ ชาร์ล พลัมเมอร์ บุคคลผู้นี้เป็นผู้จัดหมวดหมู่ให้กับดอกไม้และต้นไม้ในเขตร้อน ซึ่งกษัตริย์ของฝรั่งเศสได้ให้นายชาร์ล พลัมเมอร์ ไปหาพันธุ์ไม้แปลกๆในเขตร้อน ชาร์ล พลัมเมอร์ ได้เดินทางไปยังหมู่เกาะ แคริเบียน เป็นเวลาถึง 3 ครั้ง และได้พบต้นไม้ที่มีดอกสวยงาม รูปทรงลีลาแปลกตา จึงนำกลับมาที่ฝรั่งเศส และนักพฤกษศาสตร์ ชื่อ นายทัวนีฟอร์ท ได้ตั้งชื่อต้นไม้นี้ว่า พลัมเมอร์เรีย หรือ พลูมีเรีย (Plumeria) อย่างไรก็ดีศัพท์ทางวิชาการเรียกชื่อต้นไม้ ฟรังกีปานี (Frangipani) ซึ่งมาจากคำภาษาฝรั่งเศสมาจากรากศัพท์ Fragrance แปลว่า กลิ่นหอม และอีกนัยหนึ่ง ฟรังกีปานี หมายถึง ยางสีขาวเหนียวเหนอะนะเมื่อถูกตัด ฟรังกีปานีเออร์ (Frangipanier) แปลว่า นมข้น แต่ละประเทศก็จะมีซึ่งแตกต่างกันไป
มณีจันทร์ฉาย