อภิมหาเศรษฐีจากการตีกอล์ฟ
อภิมหาเศรษฐีจากการตีกอล์ฟ
คงเดากันได้ไม่ยากนะครับ ว่าหัวข้อนี้ ‘ใคร’ น่าจะอยู่แถวหน้า ซึ่งไม่ผิดกันหรอก ‘ไทเกอร์ วูดส์’ เขาแบเบอร์มาแบบไร้คู่แข่งตั้งเนิ่นนานแล้ว แต่สำหรับพวกมือรอง ๆ ลงไป ดู ๆ แล้วก็มีสูสีดู๋ดี๋กัน เข้าข่ายอยู่หลายเจ้า พอดีว่าไปเจอข้อมูลสนุก ๆ ที่เพิ่งรายงานไปเมื่อไม่นานมานี้เอง จึงใคร่ขอนำมาเสนอ ให้พวกเราได้อิจฉากันเล่น ๆ
เนื้อหาสาระนี้อาจไม่จำเป็นต้องทราบเป็นสาระสำคัญ แต่หากรู้แล้วจะสนุก ทำให้ทราบว่า คนเรานั้น ถ้าเก่งจริงซะอย่าง หากจะสอยดาวสอยเดือนให้ร่วงลงมาสู่มือ มันมีทางเป็นไปได้จริง ๆ ซึ่งบทความชิ้นนี้ เก็บเกี่ยวมาจาก wealthygorilla.com โดย Matt McIntyre เป็นผู้เรียบเรียงไว้ ก็ขอนำมาถ่ายทอดแบบเบา ๆ เอาแค่พอรกหัวเล่น ๆ, อ่อ… จำนวนเงินทั้งหมด เป็นเหรียญสหรัฐฯ นะครับ
ขอตัดอันดับ ไล่ย้อนนับถอยหลังตั้งแต่อันดับที่ 5 ขึ้นไปนะครับ
5. ‘แกรี่ เพลเยอร์’ (250 ล้าน) นักกอล์ฟรุ่นคุณปู่ มาดเท่ เก๋ไก๋กับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ฉายา ‘Black Knight’ อัศวินดำ จาก อัฟริกาใต้ ติด 1 ใน 3 อันดับ ผู้ชนะรายการใน PGA มากที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นผู้สร้างแฟนคลับของตัวเองมากที่สุดอีกรายในวงการกีฬา ทั้งนี้มาจากทักษะฝีมืออันน่าทึ่ง ซึ่งมาพร้อมกับอัธยาศัยที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนได้อย่างไม่มีข้อกังขา ทำให้เขาเป็นที่รักและได้รับการยกย่องให้ขึ้นหิ้งระดับตำนานไปอีกคน
4. ‘เกรก นอร์แมน’ (300 ล้าน) เจ้าฉลามขาวตัวร้าย จากฝั่งทวีปออสเตรเลีย ประสบความสำเร็จจากการสะสมแชมป์ในอาชีพได้นับร้อย เริ่มเทิร์นโปรตั้งแต่ ปี 1976 เมื่ออายุเพียง 21 ปี และได้ขึ้นหิ้งอยู่ในหอเกียรติยศ Golf Hall of Fame ในปี 2001 ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของเขา รวมไปถึงการคว้าแชมป์ บริติช โอเพ่น และครองบัลลังก์มือหนึ่งของโลกรวม 331 สัปดาห์
ไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้เล่นเท่านั้น เกรก ยังเป็นเจ้าของธุรกิจ ออกแบบสนามกอล์ฟ ที่มีผลงานสำคัญอยู่ทั่วทุกมุมโลก, ก่อตั้งบริษัทผลิตเสื้อผ้า ภายใต้สัญลักษณ์ฉลามขาวอันโดดเด่น แถมยังมีบริษัทไวน์อีกด้วยตั้งแต่ปี 1996 และล่าสุดที่สร้างกระแสให้กับวงการกอล์ฟได้กล่าวถึง นั่นคือ LIV กอล์ฟ ซึ่งเกิดจากมันสมองของสุดยอดนักกอล์ฟคนนี้ด้วยเช่นกัน
3. ‘แจ็ค นิคลอส’ (320 ล้าน) ‘เจ้าหมีทอง’ ตำนานกอล์ฟที่ยังเดินได้ชาวอเมริกัน ที่ต้องเอ่ยเสมอเมื่อนึกถึงเรื่องกอล์ฟ คุณปู่แจ็ค เทิร์นโปรตั้งแต่ปี 1961 และได้สร้างผลงานจนยอมรับกันว่า นี่คือ ‘นักกอล์ฟที่ดีที่สุดของโลกตลอดกาล’ อย่างไม่ต้องสงสัย
ตลอดอาชีพ ปู่แจ็ค คว้ารางวัลไป 115 หน เป็น PGA ถึง 73 ครั้ง และ แชมเปี้ยนทัวร์ 10 ครั้ง จนได้รับการเสนอให้ World Golf Hall of Fame เมื่อปี 1974 ขลังซะขนาดนี้จะไม่เป็นอภิมหาเศรษฐีได้อย่างไรล่ะครับ
2. ฟิล มิคเคลสัน (400 ล้าน) ‘ซ้ายมหากาฬ’ เกิดเมื่อปี 1976 ประสบความสำเร็จมาจากการเป็นนักกีฬากอล์ฟมหาวิทยาลัย ฟิล ได้รับเกียรติเป็นนักกีฬาทรงคุณค่า คว้ารางวัล Haskins Awards ถึงสามครั้งติด ระหว่างปี 1990 – 1992 จากผลงานอันโดดเด่นเมื่อเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น
ในการเล่นอาชีพ ฟิล สะสมเงินรางวัลไปเกินกว่า 87 ล้าน จากทัวร์นาเมนต์ เป็นสถิติอันดับสองตลอดกาลของทัวร์ฯ และยังได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากการเซ็นสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ อาทิ KPMG, Titleist, Ford, Callaway, Rolex ถ้านับเฉพาะ ‘ซ้าย’ ด้วยกันแล้ว ยังไง ฟิล ก็เป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาลอย่างแน่นอน
1. ‘ไทเกอร์ วูดส์’ (800 ล้าน) ที่สุดของความมั่งคั่งในหมู่นักกีฬากอล์ฟมหาเศรษฐี ก็ ‘พญาเสือ’คนนี้แหล่ะ ไทเกอร์ ครบเครื่องทั้ง ความสำเร็จ ความดึงดูดใจ ความประทับใจ มีมาแจกจ่ายให้ทั้งกับผู้ชมและสปอนเซอร์ ตัวเขาจึงเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดเรื่องราวสารพัดให้เข้ามาสู่ชีวิต ในส่วนของกอล์ฟ ก็เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการกอล์ฟอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หากไม่มีอุบัติเหตุชีวิตตามที่ทราบ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า ตำนานในอดีตอีกหลายบท อาจจะถูกเขาผู้นี้ฉีกทำลายเป็นว่าเล่นอีกไม่จะเท่าไหร่
ตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 1996 ไทเกอร์ มีรายรับจากกอล์ฟไปแล้วเกินกว่า 1.5 พันล้าน จนกลายเป็นนักกอล์ฟที่มีรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไทเกอร์ ชนะใน PGA มาแล้ว 81 ครั้ง, European Tour 41 ครั้ง และ มาสเตอร์ อีก 5 ครั้ง ที่สำคัญที่สุดคือ ไทเกอร์ เป็นนักกอล์ฟที่ครองบังลังก์มือหนึ่งของโลกอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด และคาดว่ายากที่จะมีใครมาทาบสถิตินี้ได้ง่าย ๆ
มาสรุปส่งท้ายกันครับ ว่านักกอล์ฟถ้าเรียงจากผู้ที่รวยที่สุด ไล่เรียงกันลงไปตามข้อมูล ก็จะได้ดังนี้ครับ
1.Tiger Woods – $800 Million
2.Phil Mickelson – $400 Million
3.Jack Nicklaus – $320 Million
4.Greg Norman – $300 Million
5.Gary Player – $250 Million
6.Rory McIlroy – $130 Million
7.Fred Couples – $120 Million
8.Jordan Spieth – $100 Million
9.Ernie Els – $85 Million
10.Vijay Singh – $75 Million
11.Sergio Garcia – $70 Million
12.Ian Poulter – $60 Million
13.Nick Faldo – $60 Million
14.Davis Love – $50 Million
15.Pete Dye – $50 Million
16.Adam Scott – $40 Million
17.Justin Rose – $40 Million
18.David Toms – $35 Million
19.Darren Clarke – $30 Million
20.Henrik Stenson – $25 Million
21.Zach Johnson – $25 Million
22.Martin Kaymer – $22 Million
23.Paul Casey – $21 Million
24.Chad Campbell – $20 Million
25.Francesco Molinari – $20 Million
ทราบความรวยของเขาแล้ว อาจจะใช้เป็นแรงใจ ให้พอมีแรงกาย หยิบจับไม้กอล์ฟบ้าง ถึงไปเล่นแล้ว จะมีแต่รายจ่าย มิมีรายรับใด ๆ ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ได้กำไรถือเป็นการพักผ่อน เป็นเรื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง แค่นี้ก็นับว่าคุ้มแล้วครับ
Mr.AAA
ที่มา : wealthygorilla.com โดย : Matt McIntyre