Interview

“เคนจิ” ไกรภวีร์ จันทร์วีระยุทธ

“เคนจิ” ไกรภวีร์ จันทร์วีระยุทธ

“เคนจิ” ไกรภวีร์ จันทร์วีระยุทธ นักกอล์ฟตัวน้อย ที่มาพร้อมกับความสามารถในการเล่นกอล์ฟที่ไม่เหมือนใครในวัยเพียง 8 ขวบ กับภาพเด็กชายขี้อายกำลังหวดไม้กอล์ฟแบบสุดสวิงในสนามกอล์ฟด้วยความสนุกสนาน เป็นที่ชื่นชอบและเอ็นดูกับคนที่ได้พบเห็น

กีฬากอล์ฟกับเคนจิต้องย้อนกลับไปเมื่ออายุได้ประมาณ 4 ขวบกว่าๆ คุณพ่อ-คุณแม่ อยากหากิจกรรมให้น้องได้เล่นได้เรียนรู้ มีการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นกีฬาที่ไม่มีการกระทบกระแทก ก็เริ่มจากไม้กอล์ฟพลาสติกให้เคนจิได้สวิงเล่น

ขวบปีแรกที่เคนจิได้เข้ามาสู่วงการอย่างเต็มตัวมีโปรช่วยดูแลเรื่องของวงสวิงมาเป็นระยะ และมีการเข้าร่วมการแข่งขันที่เป็นทางการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้เข้าร่วมการแข่งขันของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ส่วนกลางที่สนามรอแยลฮิลล์ ในคลาส เอฟ โดยตัวของเคนจิเองสามารถสร้างผลงานได้ดีในรอบแรก แต่ก็มาเสียในรอบหลัง

ซึ่งหลังจากกลับมาทั้งการฝึกซ้อมและการแข่งขันก็ไม่สู้ดีนัก มีการปรับเปลี่ยนผู้ฝึกสอนอยู่เป็นระยะจนกระทั่งได้พักกีฬากอล์ฟไปจนเกือบจะเลิกเล่นไปจริงๆ เพราะการฝึกซ้อมนั้นก็ทำได้ไม่ดีนักเมื่อไม่มีผู้รู้มาช่วยขัดเกลา ได้แต่ฝึกซ้อมกันไปโดยมีคุณพ่อ-คุณแม่ ซึ่งไม่ได้เล่นกอล์ฟอย่างจริงๆช่วยกันแนะนำ

คนที่คุณพ่อ-คุณแม่ ยกให้เป็นผู้มีพระคุณสำหรับครอบครัวเลยก็คือ คุณลุงชนา จริตงาม ผู้ที่ช่วยให้คำปรึกษาตอนที่ครอบครัวไม่เห็นแสงสว่างในเส้นทางสายกอล์ฟให้กับเคนจิ ลุงชนาเอ็นดูเคนจิเหมือนหลานชายแท้ๆ ให้การดูแลอบรมสั่งสอนในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวงสวิงไปจนถึงเรื่องของการวางตัวให้เหมาะสมในสนามกอล์ฟ

ที่พอจะให้คำแนะนำกับเคนจิได้เพราะลุงชนาเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นมือซิงเกิลแฮนดิแคป และเป็นตัวแทนของจังหวัดภูเก็ต ที่เพิ่งมาคว้าแชมป์การแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ที่จังหวัดนครสวรรค์ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เมื่อได้พบเจอกับลุงชนานักกอล์ฟมือดีของจังหวัดภูเก็ต จึงถือเป็นการเปิดโลกของวงการกอล์ฟให้กับครอบครัว “จันทร์วีระยุทธ” ให้กว้างขึ้นอีก

ลุงชนาได้แนะนำผู้ฝึกสอนกอล์ฟให้กับคุณพ่อ-คุณแม่ ของน้องเคนจิให้ได้ทดลองเรียนรู้ซึ่งก็คือ “โปรนิ่ว” จักรภพ เวชยันต์วุฒิ จาก Hole 14 Golf Academy เพื่อวิเคราะห์วงสวิงให้กับเคนจิ

80 หลา คือระยะของไดร์ฟเวอร์ที่เคนจิทำได้ช่วงก่อนที่จะมาพบกับโปรนิ่ว ซึ่งเป็นระยะที่สั้นมากหากเทียบกับสรีระและวงสวิง โปรนิ่วได้ทำการวิเคราะห์วงสวิงโดยใช้เครื่องซิมมูเลเตอร์วิเคราะห์การเคลื่อนไหวอย่างละเอียด ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นที่ประทับใจเพราะนอกจากการพบเจอปัญหา และทำการแก้ไขได้อย่างถูกต้องทำให้ระยะไดร์ฟกลับมาอยู่ที่ราวๆ 120 หลา

จากการพบเจอกันในครั้งแรก การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของกอล์ฟ ทำให้ทุกคนในครอบครัว รวมทั้งตัวน้องเคนจิเองเกิดความศรัทธาในตัวของโปรนิ่วเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการวิเคราะห์วงสวิง ความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ของ Hole 14 Golf Academy และที่สำคัญที่สุดเรื่องจิตวิทยาการกีฬา ที่พร้อมจะปลุกพลังบวกในตัวของนักกีฬา รวมทั้งตัวของผู้ปกครองให้กลับมามีพลังต่อสู้อีกครั้ง

แนวทางอนาคตหลายอย่างเปลี่ยนไปเมื่อได้มาพบกับโปรนิ่ว การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมถึงการมารับพลังบวกถึงแนวทางด้านการจัดการกอล์ฟให้กับลูก คุณพ่อ-คุณแม่ กล่าวว่า “จากที่คุณพ่อ-คุณแม่เคยมุ่งเน้นผลักดันลูกไปมากจนเกินไป ทำให้ครอบครัวเกิดความเครียด ลูกก็เล่นกอล์ฟไม่มีความสุข อาจด้วยความเป็นห่วงลูกมากจนเกินไป ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก พ่อ-แม่ เริ่มเรียนรู้กีฬากอล์ฟมากขึ้น อยากให้ลูกเล่นกอล์ฟอย่างมีความสุข ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ดี เมื่อลูกมาความสุข ผลงานในสนามก็ดีขึ้น พัฒนาการทางด้านต่างๆก็ดีขึ้นด้วย”

การปรับตัวมีมากขึ้นในครอบครัวไม่ใช่แต่ในตัวเคนจิ คุณพ่อ-คุณแม่ ก็ต้องทุ่มเทและเรียนรู้ในกีฬากอล์ฟไปด้วยในทุกๆวันแต่จะต้องต่อท้ายไปด้วยคำว่า “อย่างมีความสุข” เพราะการที่เด็กหนึ่งคนจะเดินทางตามความฝันในเส้นทางสายกอล์ฟได้นั้นต้องใช้เวลาอีกนับ 10 ปี หากทำด้วยความรักและเป้าหมายที่ชัดเจน พัฒนาไปตามขั้นตอนและหลักการ ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้ในที่สุด

มาถึงจุดนี้ครอบครัวก็ภูมิใจกับสิ่งที่เคนจิได้เพียรพยายามทำมาตลอด แต่หนทางข้างหน้านั้นยังต้องมีบทพิสูจน์อีกมากมายหลายเรื่องกว่าจะถึงความฝันที่อยากเป็นนักกอล์ฟอาชีพเหมือนกับ รอรี่ แม็คอิลลอย อดีตนักกอล์ฟมืออันดับ 1 ของโลก ได้เป็นนักกีฬากอล์ฟอาชีพแข่งขันในรายการ LIV GOLF ร่วมกับนักกอล์ฟชั้นนำของโลก ซึ่งคุณพ่อ-คุณแม่ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขอเพียงเป็นสิ่งที่ลูกมุ่งหวังและอยากทำจริงๆ แต่ข้อแม้ที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมีความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่ดีทางบ้านก็พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ท้ายที่สุดคุณพ่อ-คุณแม่ กล่าวว่า วงการกอล์ฟเมืองไทยตอนนี้พัฒนาไปมาก นักกีฬารุ่นใหม่มีความสามารถในระดับโลก ด้วยแรงทุ่มเทของผู้ปกครองที่มีความเชื่อมั่นในตัวลูกหลานที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักกอล์ฟอาชีพในอนาคต ครอบครัวจึงต้องวางแผนกันให้ดีที่สุด และที่สำคัญ “เคนจิ” จะเป็นคนสำคัญที่สุดในการตัดสินใจที่จะก้าวต่อไปในอนาคตด้วยความรักในกีฬากอล์ฟ