Sport for Life

จะออกหน้าไหนกับซีเกมส์

จะออกหน้าไหนกับซีเกมส์

รูดม่านปิดฉากไปเรียบร้อยกับ “ซีเกมส์” ที่บ้านลุงโฮ สรุปว่า 200 กว่าเหรียญทองที่ได้มามันก็คุ้มที่เขาลงทุนลงแรงไป ของเราเองได้มาเกือบ 80 เหรียญทอง มันก็พอรับได้อยู่นะครับ กับบางชนิดกีฬาที่เราสามารถสร้างสถิติขึ้นมาได้แบบเหนือเมฆ ในทางกลับกัน กีฬาที่ถือว่าได้เหรียญตั้งแต่ในมุ้ง กลับพลาดที่ตกม้าตายซะง้าน แต่จะอะไรก็ตามที “ซีเกมส์” นั้นเป็นเพียงกีฬาพื้นถิ่น ที่วงการกีฬาสากลอาจชำเลืองตามาดูแค่แว่บนึงเท่านั้น เหตุผลคือ “คนแถวนี้เล่นอะไรกันวะ” เขาคิดแบบนี้หรือเปล่า…

เรามาดูกันว่า ในกีฬาที่เป็นสากล และมีการบรรจุเข้าแข่งขันในครานี้ เวียดนามก็กวาดไปเป็นร้อยเหมือนกัน เราเองมาได้แถว ๆ 60 กว่าเหรียญ สำหรับทอง ส่วนสถิติอะไรต่าง ๆ ก็มีการจัดเก็บกันอยู่บ้าง ก็เอาไว้ดูกันเองเท่านั้นเอง สุดท้ายปลายทางก็ไปเจอกันที่สนามกีฬาเป็นกลางใน “กัมพูชา” เรื่องราวของการแข่งขันคราวนี้ มันถูกเลื่อนถูกยกมาแต่ปลายปีก่อน เพียงแต่ปัจจัยที่จะสนับสนุนในช่วงนั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย จนหลายฝ่ายในมนตรีซีเกมส์แจ้งว่า ไม่เป็นไร ถ้าจัดไม่ได้ต้องรออีกยาวเลยนะจ๊ะ… สรุปก็เวลาที่ได้จัดก็ช่งที่เห็นมันผ่านไปแล้ว แทบจะทุกกีฬามัน “กระท่อนกระแท่นจริง” ได้มาแค่นี้ก็หรูแล้วนะ

ส่วนเหรียญใหญ่ที่สุดในการแข่งขันคราวนี้ คงหนีไม่พ้น “ฟุตบอลชาย” มันคือจุดรวมใจของคนเวียดนามเขาเอง ดังนั้นความพร้อมในทุก ๆ ทีมคงมีอย่างน้อยต้องสองเดือนครึ่ง แต่ทีมไทย กว่าจะลงตัวกันได้ มีผู้เล่นครบตามจำนวน แค่วันกว่า ๆ เองมันสุดยอดขนานแท้ คือซ้อมวันเดียว แล้วบินไปลุยกันเลย สุดท้ายได้เข้าชิงกับเจ้าภาพเวียดนาม จบลงด้วย 1:0 เรารับเหรียญเงินคล้องคอกันปาย…

จากการแข่งขันที่เราคนไทย ได้พบเห็นกับบางชนิดกีฬา ที่เราได้เข้าชิงกันเอง ปรากฏว่า ภาพที่ออกมามีคนดูเพียบทุกเวที นี่คือประเด็นที่น่าสนใจเพราะว่า “วงการกีฬาหากมีคนสนใจที่จะเข้าชม” รับรองรุ่งโรจน์แน่นอน สำหรับตัวนักกีฬาเอง หากมีคนพร้อมที่จะเข้ามาชม ใครมันก็อยากเล่น อยากลงมาประลอง จะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ช่าง กีฬาจะพัฒนาไปได้แบบก้าวกระโดดกันทีเดียว นี่แหละกีฬา “ซีเกมส์” เราจะเอาแบบไหนกันดี อย่าให้โฆษกในสนามกล่าวว่า “สวัสดีครับผู้เล่นต่อไปนี้เป็นรายนามของท่านผู้ชม” ซึ่งสิ่งที่ผมเขียนถึง มันเกิดขึ้นมาแล้วจริง ๆ นั่นคงเป็นเพราะ “คนไทยเราจะเชียร์ใคร ต้องชอบและรู้จักกีฬานั้นจริง ๆ” แล้วแบบนี้ เราดูกีฬากันเพื่อบันเทิงด้วยหรือเปล่า… ภาพการชมการเชียร์กีฬาของเรา ลองมองย้อนกลับไปว่าสมัย “เขาทราย” ขึ้นชกกันในอีกซีกโลก รถรายังบางตาตลอดเวลาการชก หรือเมื่อเป็นครั้ง “ภราดร” ลงแข่งขันใน เทนนิส ไทยแลนด์โอเพ่น ตอนเจ้าบอลลงเล่น เต็มสนามสำหรับผู้คน แต่พอจบลงสนามมีกระทั่งที่นอนไม่มีที่นั่ง ภาพแบบนี้คงมองออกกันนะครับ สำหรับกีฬาบ้านเราจะสร้างคนดูกันอย่างไร เพราะต่อจากคราวหน้า คงมาเป็นบ้านเรา เตรียมตัวกันให้ดีนะครับ… เรากับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องมาจิบน้ำชาคุยกันได้แล้วจ้า

ครูไก่