มาได้ปานนี้ คือสิ่งมหัศจรรย์
มาได้ปานนี้ คือสิ่งมหัศจรรย์
หนังสือพิมพ์ กอล์ฟไทม์ มีอายุมาถึงปีที่25 แล้วนะครับ
ผมยังจำวันแรกที่ ออฟฟิศกอล์ฟไทม์ ก่อร่าง ผมนั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางโต๊ะเก้าอี้ระเกะระกะที่มุมหนึ่งของวิภาวดีทาวเวอร์ ชั้นแปด ซึ่งคุณนายแจ๋ว ไปติดต่อเช่าพื้นที่ทำออฟฟิศ รอการจัดให้เข้าที่เข้าทาง ในใจก็คิดต่างๆนาๆ ด้วยว่า วิถีมันจะเป็นไปเช่นไรนะ?
กอล์ฟไทม์ เกิดที่ สยามสปอร์ตฯ เมื่อคุณสมพงษ์ อรเอก กรรมการที่ปรึกษา ได้ให้ข้อคิดว่า กีฬากอล์ฟกำลังบูม สยามกีฬา น่าจะออกสื่อที่เป็นกอล์ฟโดยตรง เป็นรูปแบบหนังสือพิมพ์ เพราะเป็นแมกกาซีนมีเป็นสิบๆหัวในวงการ จึงออกมา กอล์ฟไดเจสต์ ก่อน แต่ชื่อนั้นซ้ำกับ แมกกาซีนกอล์ฟระดับอินเตอร์ จึงไปจดหัวเป็น กอล์ฟไทม์
หนังสือพิมพ์กอล์ฟน่ะ ขายไม่ได้นะครับ แต่พิมพ์แจก แล้วหาภาคีสปอนเซอร์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นกลไกในการทำธุรกิจกอล์ฟ คือการตั้งชมรมจัดการแข่งขัน รับจ้างจัดการแข่งขัน โดยจะมีเมนสปอนเซอร์ที่มีงบการตลาดและโฆษณาลงๆไปกับกีฬากอล์ฟ
กอล์ฟไทม์ ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ ของค่ายสยามสปอร์ตฯ คือ ไม่เคยทำหนังสือพิมพ์แจก ถึงจุดๆหนึ่ง นายคือคุณระวิ โหลทอง เลยยกหัวให้ฟรีๆ บอกให้ผมกับคุณนายแจ๋วเอาไปทำเลย
ผมน่ะไม่เอาหรอก ทำธุรกิจไม่เป็น แต่คุณนายแจ๋วเอา บอกว่า แจ๋ว ทำเอง ก็ว่าไป ยกต่อ ให้ไปเลย
ผมก็แค่เพียงเป็นเพียงขวัญกำลังใจ อยู่ในกองบรรณาธิการ ส่วนการหาสปอนเซอร์ หาเงินหาทองมาดำเนินการนั้น เป็นเรื่องของ คุณนายแจ๋วทั้งสิ้น แล้วยิ่งผ่านไปไม่กี่ปี นายเรียกตัวผมกลับอาณาจักรสยามสปอร์ตฯ งานรับผิดชอบที่โรงพิมพ์มากขึ้น ก็เหมือนผมปล่อยให้ คุณนายแจ๋ว ดูแลกอล์ฟไทมส์โดยลำพัง
เธอก็ดั่งกระเตงลูกไปเรื่อย ย้ายออฟฟิศหลายครั้ง แต่ละครั้ง แต่ละทศวรรษ ที่มีภาวะวิกฤติในธุรกิจสิ่งตีพิมพ์ อันหนักหน่วงสาหัส ผมก็มักบอกคุณนายแจ๋วว่า.. ทำหนังสือน่ะ มันยิ่งกว่าเลี้ยงช้าง ต้องตะพุ่นหญ้าให้มันกินตลอดเวลา ช้างผอมก็ไม่ได้ งานของเธอ หยาดเหงื่อแรงงานเธอ ล้วนตะพุ่นหญ้าช้าง เหนื่อยมากนะ ไม่ไหวก็ปล่อยวาง เลิกเถอะ
บอกไปทีไร คุณนายแจ๋วก็กลับมาฮึดสู้ทุกที เธอก็ปะโน้นโปะนี้ เธอเล่าว่า บางทีเหนื่อยสาหัสกับมนุษย์ ก็แทบวางมือแล้ว แต่ก็เหมือนมีบุญ มีวาสนา มาต่อสายใยให้เดินต่อไปได้ทุกที
ก็เห็นๆ วงการหนังสือหัวกอล์ฟทั้งหลาย เลิกรากันไปจนแทบไม่เหลือแล้ว คุณนายแจ๋วก็ยังมี กอล์ฟไทมส์ ที่ตัวเองรักและผูกพัน มาจนถึงวันนี้ เป็นอะไรที่ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ
หากผินหลังมองกลับไปในเส้นทางสองทศวรรษครึ่งของกอล์ฟไทมส์ ก็เพียงสิ่งตีพิมพ์ กระดาษหลากสี มีเรื่องราวเรียงร้อยตัวอักษร มีรูปเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟและนักกอล์ฟ ถ่ายทอดกันมาเล่มแล้วเล่มเล่า
ผมเชื่อว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้กอล์ฟไทม์ มีชีวิตอยู่ได้ ก็เพราะมี… ความผูกพัน
ความผูกพันของเราท่าน สมาชิกกอล์ฟไทม์ที่รักทั้งหลายนี่แหละครับ…เรารู้จักกันมานานเท่าไหร่แล้ว
ยิ่งกลุ่มผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชน เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน (สมัย “พี่อุ๋ย” วิรดา นิราพาธพงศ์ธร เป็นไอดอลของน้องๆนักกอล์ฟเด็กหญิง พรหม มีสวัสดิ์ ยังเป็นเด็กอ้วนจ้ำมั่ม แก้มยุ้ยมาจากหัวหิน ตระกูลชนะชัย ที่ เล่นกอล์ฟกันทั้งตระกูล จับลูกหลานตีกอล์ฟตั้งแต่เป็นลูกเจี๊ยบ) อ่านกอล์ฟไทม์กันมา จนเดี๋ยวนี้เป็นไงบ้าง ลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาว แต่งงานแต่งการ บางคนมีหลานย่าหลานยาย ปู่ ตา ไปตามๆกัน
หนังสือก็อ่าน กอล์ฟก็เล่น เป็นสมาชิกกันอย่างเหนียวแน่น กอล์ฟไทมส์จัด ไปไหนไปกัน จนกลายเป็นญาติกอล์ฟ ไม่ได้ผูกพันกันปีสองปีนะครับ เป็นสิบยี่สิบปี ..ใครก็ทำไม่ได้หรอก (นี่ผมว่า ท่านสมาชิกรุ่นหนึ่งตั้งแต่ปีแรกที่ผูกพันกันมา น่าจะให้คุณนายแจ๋วจัดงานรวมญาติ The First GolfTime Family กันสักเตื้อนะครับ ผมต้องไปพบท่านๆด้วยนับถือเป็นเพื่อนเก่าแต่ก่อนแน่ๆ)
ผมเจอแฟนคอลัมน์รุ่นเก่า เจอผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชน ครั้งที่ผมเดินท่อมๆในสนามกอล์ฟ ตามดูลูกสาวเติบโตในสนามกอล์ฟเมื่อเกือบจะยี่สิบปีก่อน จะดีใจมากๆ ได้คุยรำลึกเรื่องราวเก่าๆ ถามสารทุกข์สุขดิบ สมาชิกกอล์ฟไทม์ รุ่นหลังๆ ไม่ได้เจอหน้าค่าตากันผมเท่าไหร่ แต่กลับเหมือนรู้จักกันดี จากการอ่านคอลัมน์..ยามที่ทักกัน ผมดีใจกว่าคนทักนะ จะบอกให้
..เหล่านี้ก็เหมือน ครอบครัว ที่ผูกพัน เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน
วิสัยอย่างนี้ ไม่เกิดกับหนังสือพิมพ์ สิ่งตีพิมพ์อื่นๆนะครับ
มันดั่งราว มีสายใย เป็นพลังส่วนหนึ่งที่ ทำให้รู้ว่า สิ่งที่ทำมีค่ามีความหมาย มีพรรคพวก บางที คิดจะจบง่ายๆได้อย่างไร
หัวใจสำคัญที่ทำให้คุณนายแจ๋ว ดำเนินกอล์ฟไทม์มาได้ ก็คือ ความเมตตาของสปอนเซอร์ต่างๆ
ทั้งเมนสปอนเซอร์ ทั้งสปอนเซอร์กิจกรรมขาจรต่างๆ ซึ่งพูดให้ตรงก็ ล้วนมาจาก คอนเนคชั่นส่วนตัว ที่รู้จักกันมานาน รู้ว่าคุณนายแจ๋วเป็นคนยังไง สู้อย่างไร เพื่อให้กอล์ฟไทม์อยู่ได้
ช่วยแล้วชื่นใจ มีงานเห็นผล เห็นธาตุหัวใจของคนทำงานไม่รู้เหนื่อย ผลประโยชน์ทางธุรกิจ เป็นเรื่องรองด้วยซ้ำ
ผมที่อยู่ข้างหลังลงมา ก็ต้องขอก้มกราบ คารวะ สำนึกในบุญคุณด้วยครับ ที่ทำให้ กอล์ฟไทม์ ที่เรารักคงอยู่ได้..กราบขอบพระคุณครับ
เลยจากปีที่ 25 ไปแล้ว อนาคตจะเป็นไปอย่างไรต่อ?
ความจริงประการหนึ่งคือ วิถีแห่งสิ่งตีพิมพ์หมดไปตามกาละของโลกแล้ว หนังสือหลายหัวเลิกไปเรื่อยๆ สร้างความสะเทือนใจให้กับคนรักการอ่านหนังสือไม่ใช่น้อย (ขณะที่ผมส่งต้นฉบับนี้ สกุลไทย นิตยสารนวนิยายต่างๆของคุณผู้หญิงที่มีอายุนับหกสิบปี ประกาศปิดตัวแล้ว)
ไม่เพียงแต่การทำสื่อสิ่งตีพิมพ์ องค์ประกอบร่วมบนถนนสายนี้ ตั้งแต่ร้านขายกระดาษ โรงพิมพ์ เอเยนซี่สื่อโฆษณาสิ่งตีพิมพ์ สายส่งหนังสือ ฯลฯ ก็ล้วนเลิกราไป ก็ละลายกันไปทั้งระบบ
กอล์ฟไทม์ จะอยู่ได้ถึงจุดไหน? … ผมตอบไม่ได้จริงๆ
เพียงแต่ มักบอกคุณนายแจ๋ว ที่ผ่านวัยแซยิดแล้วว่า สวดมนต์ทุกค่ำเช้า มีพลังพุทธคุณปกป้อง เป็นการดีต่อตัวเองและบริวารคนรอบข้าง แต่อย่างไรก็ ปล่อยใจว่างๆ ฟังเพลง Let It Be ของ The Beatles บ้างนะ
วันเวลาที่ผ่าน 25ปีของกอล์ฟไทม์ กลับการเดินไปข้างหน้าอีกจะสักอีกกี่ปีก็ตาม ล้วนคุ้มค่า มีค่า มีเรื่องราว มีชีวิตในตัวของมัน อันทั้งสุข ทั้งทุกข์ สมปรารถนา เป็นบทพิสูจน์แห่งการทำงานของตัวตนของคุณนายแจ๋ว
อยากบอกคุณนายแจ๋วว่า ในบรรดาเพื่อนๆในรุ่นที่เรียนกันมา บางคนอาจมีคำนำหน้า ด็อกเตอร์ มีตำแหน่งสูงในสายงานอาชีพ บางคนอาจมีเงินกว่าในอาชีพที่ทำ แต่เชื่อเถอะว่า ไม่มีใครเก่งกว่าเธอหรอก
บทพิสูจน์ 25 ปี กอล์ฟไทม์..หามาเถอะ ไม่มีใครจะมีประสบการณ์ รุ่มรวยเพื่อน อันจะทำได้ ดังเธอทำหรอก
ปริญญาชีวิตใบนี้ มีเธอได้คนเดียวจริงๆ
ยอดชาย ขันธะชวนะ