อมยิ้มริมกรีน

กายพร้อม – ใจพร้อม ก็ไปต่อได้

กายพร้อม – ใจพร้อม ก็ไปต่อได้

พอเริ่มเปิดประเทศให้รู้สึกว่า มีอิสระมากยิ่งขึ้น อีกเรื่องที่ตามกันมาติด ๆ ก็คือ ความกังวลใจ ถึงแม้จะยอมรับกันว่า มาตรการที่ช่วยกันคิด ช่วยกันค้น “ดีที่สุด” ณ เวลานี้แล้ว แต่ก็นั่นล่ะครับ คำว่า ปลอดภัย 100% มันไม่มีในโลก แต่ชีวิตยังไงก็ต้องดำเนินเดินกันต่อ

เจาะจงไปที่ “กอล์ฟ” เรื่องใกล้ตัวของพวกเราเลยนะครับ หลังจากเริ่มให้ลงสนาม ทำความรู้จักกับ New Normal กันไปบ้างแล้ว วงการกอล์ฟมีการตื่นตัว กระแสตอบรับเด้งกลับขึ้นมาทันที อาจจะเป็นเพราะพวกเรา “อั้น” กันอยู่ยาวนานหลายเดือน บางท่านร่วมปีด้วยซ้ำ ประกอบกับ เดี๋ยวเปิด เดี๋ยวปิด จากเหตุการณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของยอดผู้ป่วย ทำให้ผลกระทบส่งมาโดยตรงกับกีฬา ซึ่งเป็นกิจกรรมแรก ๆ ที่มักจะโดยสั่งให้หยุด เช่นเดียวกับเรื่องทางด้านบันเทิงที่มักจะปิดก่อน เปิดทีหลัง กันทุกครั้งไป เพราะถือว่า เรื่องชีวิตและสุขภาพ ย่อมสำคัญกว่าความบันเทิงเริงใจ นั่นก็จริง และไม่จริง ด้วยนะครับ

เพราะถึงแม้ว่า คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วย สุขภาพที่แข็งแรง แต่ จิตที่แจ่มใส ย่อมอยู่กายที่สมบูรณ์ แล้วการที่กายจะสมบูรณ์ได้ ก็ต้องอาศัย จิต ที่แจ่มใส ด้วยเช่นกัน ทำให้เรื่องความแข็งแรงทางกาย และความสดใสทางจิต แยกออกจากกันไม่ได้ ทั้งสองเรื่อง กาย – ใจ ยังไงก็ต้องผูกมัดติดรวมไปเป็นเรื่องเดียวกัน นั่นก็คือ คุณจะมีความสุขทางกายได้อย่างไร หากทางจิต เต็มไปด้วยความทุกข์ระทม หรือจะให้จิต แจ่มใสได้อย่างไร เมื่อสุขภาพทางกายไม่มีความพร้อมสมบูรณ์

ย้อนมาที่ โควิด เรื่องใหญ่ของมวลมนุษย์ ที่นับวัน อยากจะเลิกกลัวกันไปทุกขณะ ทั้ง ๆ ที่พิษร้ายก็ยังคงกระจายต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แต่ ณ เวลานี้ อันตรายจากโควิด กับความทุกข์ยากจากการใช้ชีวิต มันสูสีกันจนผู้คนเริ่มยอมรับความเสี่ยง อย่างเมื่อระบาดระรอกแรก ผู้คนกลัวและให้ความร่วมมือเต็มที่ (กว่า) เพราะยังไม่รู้อะไรแน่ชัด ประกอบกับชีวิตยังมีทุนสำรองอยู่บ้าง การได้หยุดพัก อยู่นิ่ง ๆ ถึงจะไม่มีใครชอบ แต่ก็ไม่ขัดขืน เนื่องจากมองว่าอนาคตคงจะน่ากลัวกว่าที่คิด ปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไปสักช่วง แล้วทุกอย่างคงดีขึ้น

ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ แต่แค่เพียงเพราะ ช่วงที่เราเคยเก็บกักตัวระยะหนึ่ง จนคิดว่าเรา “เอาอยู่” ทั้ง ๆ ที่ เราคิดผิดกันมหันต์ นั่นก็เพราะ “ของจริง” ยังเข้ามาไม่ถึง ทำให้มีการละเลย รื่นเริงบันเทิงใจ มั่นใจว่ามาตรการของเราดีแล้ว จึงไม่มียอดการติดเชื้อมากนัก แท้ที่จริงแล้ว เจ้าเชื้อร้าย “ยังไม่มา” ต่างหาก, แล้วพอมาถึง ก็กลายเป็นวิกฤติอย่างที่เราเผชิญ

สิ่งที่กล่าวมานี้ อยากให้ดูนานาประเทศ ที่เขามียอดติดเชื้อมหาศาล แต่กลับปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลัก ๆ ที่เห็นก็คือ ขอให้ทุกคนทำ “หน้าที่” และ “รับผิดชอบ” กันให้ดีที่สุด ความรู้จัก “กลัว” เป็นสิ่งที่ดี แต่ความ “ระแวง” จะทำให้ชีวิตไปต่อไม่ได้ เพราะตอนนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชน คงไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออย่างที่ต้องการได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว พวกเราต้องช่วยเหลือ พึ่งพากันและกันให้มากขึ้น โดยอาศัยความรู้ ความเข้าใจ เพื่อที่จะได้อยู่กับ “โควิด” กันแบบ ต่างคนต่างอยู่ทางด้านกายภาพ แต่ความสัมพันธ์เหนียวแน่นทางด้านจิตใจ

กีฬากอล์ฟ เริ่มแสดงให้เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ แล้วครับ ว่า New Normal เราทำได้ เราอยู่กับวิถีใหม่ได้จริง ๆ ขอเพียงแค่เคารพในกติกาสากลมาตรฐานใหม่ที่ตั้งขึ้นมา เพราะนี่คือ กิจกรรมต้นแบบอีกอย่าง ที่จะนำไปใช้อ้างอิงเพื่อทำให้เกิดการเปิดใช้ชีวิตให้มีอิสระมากขึ้น ขอเพียงอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งเบื่อ อย่าเพิ่งแหกกฎ อย่าทำให้คนส่วนใหญ่ต้องเจอกับความลำบากเพราะคนส่วนน้อยเลยครับ จากประสบการณ์ตรงที่พบก็คือ “ไม่เป็นไรหรอกน่า”, “นิดเดียวเอง”, “ไม่มีใครรู้หรอก” คำคุ้นเคยของพวกเราในสภาวะปกติ ซึ่งเคย “หยวน ๆ” มา ณ ตอนนี้ ต้องบอกเลยว่า ต้องใจแข็ง และยืนกรานขอให้ทำในสิ่งที่เป็นข้อตกลงของสังคม ไม่ใช่แค่เพื่อเราเท่านั้น แต่ยังเหมารวมไปถึงทั้งระบบ ที่มีทั้งคนในและคนนอก คอยจับจ้อง ถ้าหวังดี คอยเตือน คอยให้คำแนะนำก็ดีไป แต่ถ้าเป็นในอีกทาง จะพากันลำบากยาวนี่สิ่

ทำใจ แต่ไม่ต้อง ท้อใจ กันนะครับ ระหว่างการทำอะไรไม่ได้เลย กับทำได้แบบมีเงื่อนไขบ้าง ก็นับว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญก่อนจะเริ่มออกวิ่งกันอีกครั้ง สัญญาณความสุขเริ่มส่งออกมาชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ อดทนรออีกไม่นาน เมื่อทุกคนรู้รับผิดชอบในหน้าที่ ไม่มีการซิกแซก อย่าคิดแค่เอาแต่ใจ ห่วงตัวเอง ห่วงคนอื่น ห่วงสังคม ทุกอย่างจะกลับมา อย่างแน่นอนครับ