สัพเพฯ กอล์ฟ

เที่ยวแบบ V.I.P. ปัตตานี กับ ยะลา ( 1 )

เที่ยวแบบ V.I.P. ปัตตานี กับ ยะลา ( 1 )

ตั้งแต่จำความได้ กระพ้มเองก็รู้ตัวดีเลยว่าชอบ “การท่องเที่ยวเป็นที่สุด” นับแต่เด็กเรื่อยมา บ้านช่องก็จะอยู่ใกล้กับ ป่า, คลอง, ทะเล แต่สามสิ่งนี้อยู่รวมกันมันก็มีเรื่องมีราวให้สนุกันแทบจะทุกนาทีแล้วครับ การที่เด็กคนนึงชอบลงน้ำลงท่า หรือเข้ารกเข้าพงมันก็คงเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์นะครับ เด็กๆ ที่เคยรู้จักชีวิตแบบครูไก่คงเห็นอะไรที่คนเมืองเห็นแล้วต้องขนลุก โดยเฉพาะคราบงู หรือตัวงูแบบเป็นๆ “คราบงู” เราก็เรียนรู้มาถึงความแตกต่างของ “งูเห่า” หรือ “งูปลา” ตลอดจนงูมีพิษหรือไม่มีพิษ

จะว่าไปผมเคยพาเพื่อนไปเที่ยวบ้านสมัยที่เราเป็นเด็กๆ… เราก็เข้ารกเข้าพงเหมือนเมื่อก่อน เพื่อนก็เหมือนกัน ไปกับเรา แต่แค่คำเตือนจาก “แม่” ไม่กี่คำ พวกเพื่อนทำเป็นปอดกระเส่า ขี้ขึ้นสมองกันหมด… แม่บอก “เมื่อวานเจองูเห่า 2 ตัวเท่าขนาดแขนในป่า” แค่นั้นเอง… นี่คือการที่เราอยากรู้อยากเห็นมาแต่เด็กแต่เล็กแล้ว

ส่วนการเที่ยวแบบ V.I.P. ของครูไก่คืออะไรกัน…? ก็อย่างที่ทราบกันแล้วว่า ช่วงเดือนครึ่งที่ผ่านมา ผมขึ้นล่องทั้ง เกาหลี จีน เป็นเรื่องสนุกสนานกันทีเดียว แต่ทริปที่เพิ่งจะผ่านมา สดๆ ร้อนๆ ก็นี่ครับ “เราจะไปปัตตานีกับยะลา” โดยเริ่มแรก ก็คงจะมีแนวร่วมราว 10 ท่าน แต่พอข่าวกระจายออกไปในหมู่เพื่อนรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก  จำนวนพุ่งกระฉูดไป 30 โน่น เล่นเอาผมเองสะอึกแล้วสะอึกอีก แต่ละท่านที่ไปล้วนมีหน้ามีตาในหลายธุรกิจ เรื่องก็ต้องวางแผนกันแบบหลายชั้นหลายขั้นตอน

สรุปได้ว่า เครื่องลงหาดใหญ่แบบสบายใจ… ด้วย Thai Smile สายการบินนี้เขาดูแลดีสมชื่อ “สายการบินไทย” นี่แหล่ะ อะไรดีเราก็ขอชื่นชม ไม่ใชด่าทออะไรกันตะพึดตะพือ จากหาดใหญ่เราต้องประสานกับ “ตำรวจชายแดน” ให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ ด้วยสายใยของท่าน รองผู้การ “วัลลภ” ความจริงแล้วท่านคือ พล.ต.ต.วัลลภ คอยดูแลความสะดวกแทบจะทุกนาที คืนแรกเราพักกันที่ “ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้” หรือเรียกกันว่า ศูนย์ ศ.ช.ต. ช่วงที่เราไปถึงกันท่านรองก็จัดการต้อนพวกเราเข้าห้องประชุม ฟังการบรรยายการทำงาน แล้วก็เหตุการณ์ที่เราๆ ท่านๆ อาจจะไม่พบเจอกันแน่นอนในชาตินี้

กว่าสิบเรื่องราวที่รับรู้รับทราบกัน มันรู้สึกรันทดจิตต่อพวกเราทุกคนยิ่งนัก แล้วเหตุการณ์ทั้งหมดที่เราทราบ มันส่งผลกระทบต่อบรรดาตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่หลายนาย ทั้งเสียอวัยวะที่มันควรจะอยู่กับตัวในยามมีชีวิตจนถึงหมดลมหายใจ… แต่ที่แย่สุดๆ ก็จบชีวิตของการทำงานไปในบัดดล ทิ้งไว้เพียงความเศร้าโศกเสียใจของคนข้างหลัง… ฟังไปก็เศร้าไป ห้องประชุมเงียบสนิท ทั้งๆ ที่มีคนอยู่เกือบครึ่งร้อย…ท่านรองฯ เองก็เป็นห่วงกลุ่มเราเป็นอันมาก  นั่นคงเพราะในกลุ่มนี้มี “ภรรยา” ของท่านมาด้วยนั่นเอง

หลังจากฟังบรรยายสรุปจบสิ้นลง หมายต่อไปคือ “วัดช้างให้, ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว แล้วก็ปิดด้วย มัสยิด กรือเซะ” ถูกแล้วครับ กลุ่มเราเข้ามาอยู่ในจังหวัดปัตตานี แล้วก็เข้ามาอยู่ในช่วงที่น่าจะ “ผิดเวลาเอามากๆ ” เสียด้วย แน่นอนครับ สายตาที่ผมเคยอยากรู้อยากเห็นยามที่ออกท่องเที่ยว แต่ครานี้สายตาของผมมันเปลี่ยนเป็นการจดจ้องในทุกเมตรทุกหลาที่เราเดินทางกันไป

กว่า 30 ชีวิตมันไม่ง่ายเลยที่จะไม่เป็นที่เพ่งเล็งของอะไรสักอย่าง พวกเราไปด้วยกันด้วยรถตู้ 3 คัน แล้วก็ปิดหัวท้ายด้วยรถตำรวจที่ไม่แจ้งหน้าตาว่านี่คือใคร ทุกที่ทุกแห่งที่ไปก็ดูสงบสบายกันดีโดยรวมรวมครับ จากวัดที่เป็นสิ่งเคารพบูชาที่เรารู้จักกันดีคือ “หลวงปู่ทวด” และไปไหว้ “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” บางทีอาจดูเงียบเหงาไปกันบ้างในช่วงนี้ นั่นคงเพราะเหตุการณ์ที่เรารู้เราทราบกันดี กลุ่มเรานี่แหล่ะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่มากที่มากันช่วงนี้ของปี ภายในศาลเจ้านั้น ตลบอบอวลทั้งกลิ่นธูปควันเทียนที่บรรดาผู้มีความศรัทธามากันชนิดไม่กลัวตาย เริ่มจากจุดที่ 1 ถึงจุดที่ 10 ของการนมัสการที่มีระบบเวียนตามเลขหมายนั้น ทำให้เราเห็นว่า “อะไรก็ตามที่เรายึดถือเคารพกราบไหว้ไม่ว่าจะลำบากยากเข็ญเพียงใดเราก็จะไป”

จบจากสองสถานที่เป้าหมาย เหลือสุดท้ายก็ “มัสยิด กรือเซะ” แล้ววันที่เราไปเป็นวันศุกร์เย็นๆ อันเป็นช่วงเวลาที่พี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนา “อิสลาม” มาทำการ “ละหมาด” กันเป็นประจำ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทเราคงได้แต่จอดรถแล้วลงไปดูเพียงเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง แต่จะด้วยอะไรก็แล้วแต่นะครับ “มัสยิด”แห่งนี้มีความเป็น “ชีวิตจิตใจ” ของบรรดาชาวไทยทั้งทุกศาสนาต้องรู้สึกได้นะครับ

การเที่ยวครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ซึ่งเราไปถึง ณ สถานที่ใดๆ ก็ตามเราจะเห็นบรรดา ทหารที่แต่งเต็มยศคอยดูแลอยู่ทุกฝีก้าว เท่าที่ดูแล้วมีไม่ต่ำกว่า 10 นาย ที่คอยดูแลพวกเรา… กราบขอบคุณทุกท่านจริงๆ นะครับ นี่เป็นเพียงเริ่มต้นวันแรกเท่านั้น ติดตามต่อไปนะครับฉบับหน้า หนุกหนานสุดๆ