สุวิทย์ ปราณีนิจ
สุวิทย์ ปราณีนิจ
ศูนย์เพชร – พลอย รุ่งทรัพย์
“หาให้เหลือใช้ แล้วจะมีเก็บ”
ทำบาปไม่ขึ้น : ในชีวิตเคยทำสิ่งไม่ดีอยู่หลายอย่าง แต่เมื่อทำลงไปเมื่อไหร่ จะเกิดผลลัพธ์สะท้อนกลับมาทันที ราวกับว่า เมื่อเราทำไม่ดี ไม่ว่าจะเรื่องใด จะถูกตัดสิทธิ์ โดนลงโทษ ในสิ่งไม่ดีที่ทำลงไปทันทีเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนรู้สึกว่า ตัวเองทำบาปไม่ได้เลย จะเรียก กรรมทันตาเห็น ก็ว่าได้ ทำให้เป็นคนคิดมากในเรื่องการกระทำ ต้องไตร่ตรองทุกเรื่องให้ถ้วนถี่ก่อน ว่าสมควรจะทำลงไปหรือไม่ ทำแล้วจะส่งผลอะไรกลับมา มีคนต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าคิดแล้วว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ก็จะไม่ทำตั้งแต่เริ่ม
เคยโดนดูถูก : มนุษย์เรา ย่อมมีการอิจฉาริษยา หรือดูถูกกัน เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น ในสังคมที่เรารู้จัก คบค้าสมาคม ย่อมยากที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องแบบนี้ สำหรับผมเองก็หนีไม่พ้นเช่นกัน มีครั้งหนึ่งผมโดนดูถูกจนรู้สึกว่า เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ผมก็ได้นำคำพูดถากถางเหล่านั้น กลับมาเป็นพลังบวก ทำให้เกิดมานะที่จะต่อสู้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ตอนนั้นยังบวชเป็นเณร เคยมีญาติผู้ใหญ่ที่บวชเป็นพระ ท่านดูถูกผมไว้ว่า น้ำหน้าอย่างผม ถ้าเรียนจบ ม.ศ.3 ได้ เจอที่ไหนจะกราบทุกแห่ง ซึ่งเป็นคำดูถูกที่ผมฝังจิตฝังใจมาตลอด ทำให้ผมได้เก็บไว้คอยเตือนสติตัวเอง คอยผลักดันให้มีชีวิตที่ดี ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดมา ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำพูดเหล่านั้นที่ท่านเคยสบประมาทเราเอาไว้ มาถึงวันนี้ ต้องกราบขอบพระคุณ ที่คำดูถูกของท่านทำให้ผมเกิดความมานะ ต่อสู้ ขยัน จนมีชีวิตที่ดีในทุกวันนี้ได้
คำทำนาย : เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล หลายคนยากจะเข้าใจ แต่เมื่อเกิดขึ้นกับตัวเอง ก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน เรื่องมีว่า พอดีน้องสาวเป็นร่างทรง เจ้าแม่สองนาง มีศาลอยู่ทางภาคอีสาน ผมได้รับคำทำนายผ่านร่างทรงว่า เจ้าแม่จะยกสมบัติให้ ตอนนั้นพวกเราอยู่กันหลายคน ร่างทรงก็ชี้ไปที่คนนั้นคนนี้ แล้วบอกว่าจะให้ทรัพย์สมบัติ สองหีบบ้าง สามหีบบ้าง แต่พอชี้มาทางผมกับภรรยา ร่างทรงบอกว่า จะให้เป็นเรือกำปั่น ไม่ใช่แค่หีบสองหีบ วันนั้นเราฟังแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่เก็บมาเป็นกำลังใจ เพราะไม่รู้ว่าคำทำนายจะกลายเป็นเรื่องจริงได้ยังไง แล้วก็ลืม ๆ เรื่องนี้ไป แต่หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปี เราก็สร้างตัวขึ้นมาได้อย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเหมือนกัน ทำให้นึกย้อนไปถึงเรื่องที่เคยได้รับคำทำนายไว้ ก็รู้สึกว่า เป็นเรื่องแปลก มหัศจรรย์สำหรับชีวิตผม
เกือบหมดตัว : ผมทำธุรกิจการค้ามาหลายอย่าง ทั้งขายของเงินผ่อน ปล่อยเงินกู้ ค้าสิ่งมีชีวิต อาหารทะเล ขับแท็กซี่ รถสองแถว ฯลฯ แม้กระทั่งตอนเริ่มทำงานใหม่ ๆ ก็เคยรับราชการตำรวจ ชีวิตเคยผ่านมาหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร กว่าจะตั้งตัวได้ เรียกว่าเคยเจ๊งหมดตัวมาแล้วหลายครั้ง หนักที่สุดก็คือ ช่วงสงครามอ่าวซัดดัม ช่วงนั้นเล่นหุ้น หักกลบ ลบหนี้แล้ว บวกด้วยหนี้อีกก้อนใหญ่ ชีวิตแทบไม่มีอะไรเหลือ
ยกหนี้เพราะสงสาร : อาชีพหนึ่งที่ผมเคยทำผ่านมาแล้ว คือการขายของเงินผ่อน ขายเฟอร์นิเจอร์ ทีวี ตู้เย็น แล้วก็ปล่อยเงินกู้ ที่ตลาดแถว ๆ ห้วยขวาง สมัยก่อนคิดดอกร้อยละยี่สิบ เก็บเงินรายวัน ขายของเงินผ่อนก็เก็บรายวันเหมือนกัน พอผ่านมาได้ระยะหนึ่ง ลูกค้าเยอะขึ้น ปัญหาก็มีมากขึ้นตามมาด้วย จนถึงจุดหนึ่งเริ่มมีความรู้สึกว่า สงสารและเห็นใจลูกหนี้ เพราะดอกเบี้ยที่คิดมีอัตราค่อนข้างสูง บางคนไปทวงก็ไม่มีจ่าย ก็ไม่รู้จะทำยังไง จนรู้สึกสงสาร ประกอบเราได้อาชีพใหม่ นั่นคือการทำการ์เมนต์ ธุรกิจด้านการตัดเย็บเสื้อผ้า มีรถสองแถวด้วย ลูกค้าที่เก็บหนี้ไม่ได้ ไม่ยอมจ่ายก็เยอะ รวม ๆ แล้วเป็นเงินจำนวนมากพอสมควร แต่ผมก็มาปรึกษากับภรรยา แล้วคิดว่า เราน่าจะยกหนี้ให้ลูกค้า ไม่ต้องไปตามเก็บแล้ว จากนั้นเราก็หยุดเก็บเงินจากลูกหนี้ ใครไม่ส่งก็ไม่ตามไปทวง ยกหนี้ให้ทั้งหมด ถึงจะสูญเสียรายได้ไปก้อนใหญ่ แต่เราก็ได้ความสุข ความสบายใจกลับมา
ดวงสมพงษ์กับทรัพย์ในดิน : ชีวิตผมก็ขึ้น ๆ ลง ๆ มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงยุค พลเอกชาติชาย เป็นนายกฯ ถึงได้รู้ว่าตัวเองเริ่มค้าขายได้เป็นกอบเป็นกำ ถูกโฉลกกับเรื่องทรัพย์ในดิน อสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการค้าขายที่ดิน ยุคนั้นแค่เดือนเดียว ขายที่ชาวบ้านไปได้ถึงยี่สิบกว่าแปลง ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เพราะเป็นไปได้ยากมาก แต่ก็เกิดขึ้นกับผมจริง ๆ หลังจากนั้น พอเริ่มหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับ หยก พลอย อัญมณีต่าง ๆ ซึ่งเป็นทรัพย์ในดินด้วยเช่นกัน กิจการก็เจริญก้าวหน้า ธุรกิจไปได้ด้วยดีมาตลอด นับว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับผม
HOTEL M : ธุรกิจนี้เป็นเรื่องต่อเนื่องกันมาจากทรัพย์ในดินด้วยเช่นกัน, หากผมจะได้ที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ หรืออะไรต่าง ๆ จะมีความรู้สึกว่า สิ่งนั้นเหมือนเป็นสมบัติของเราแต่ชาติปางก่อน สิ่งใดที่จะมาเป็นของเรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มาเป็นจนได้ ทั้ง ๆ ที่บางเรื่องไม่ได้คาดคิดไว้เลย อย่างโรงแรมแห่งนี้ มีวันหนึ่งผมไปเล่นกอล์ฟ มีทนายรุ่นน้องมาบอกว่า มีอาคารอะพาร์ตเมนต์จะขาย มีคนซื้อแล้ว แต่เงื่อนไขไม่ผ่าน ถ้าสนใจจะติดต่อให้ ผมก็ลองไปดู ตอนนั้นคิดว่ายังเฉย ๆ แต่พอมองเห็นชื่ออาคาร ก็รู้สึกว่า ที่นี่เป็นของลูกชายเรานี่ เลยกลับมาเล่าให้ภรรยาฟัง แล้วพากันไปดูอีกที แต่ผมก็ยังคิดว่าแม่บ้านคงไม่ชอบ เพราะที่นั่นสุนัขเยอะมาก จนภรรยาไม่ยอมลงจากรถ ผมก็ลงไปคุยกับเจ้าของ ต่อรองราคากัน แล้วกลับมาที่รถ ถามอีกครั้งว่า ที่นี่เป็นยังไงบ้าง ภรรยาก็ตอบว่า ชอบ ในใจผมก็คือ จบ ทุกอย่างสำเร็จแน่ และดำเนินธุรกรรมต่อจนเสร็จสิ้น ได้กรรมสิทธิ์เป็นของเราอย่างลงตัว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อตั้งแต่แรก แล้วช่วงไหนที่ผมจะได้อสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดินแปลงไหน ก็จะมาในลักษณะโดยบังเอิญตลอด จนรู้สึกว่า เราถูกชะตากับทรัพย์ในดิน ทำธุรกิจแนวนี้ดีกว่าอย่างอื่นแน่นอน
กอล์ฟ : ผมเคยเล่นกีฬามาหลายอย่าง วอลเลย์บอล ฟุตบอล ตะกร้อ เล่นเป็นหมด สมัยเป็นวัยรุ่น คิดว่าตัวเองชอบตะกร้อมากที่สุด จนมาถึงราวปี 2544 ตอนนั้นกีฬากอล์ฟกำลังได้รับความนิยม เลยพาลูกชายไปให้โปรช่วยหัด ผมก็ไปด้วย ระหว่างที่โปรสอนลูกชาย ผมก็จับไม้กอล์ฟเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ลองตี ลองเล่นไปเรื่อย จนรู้สึกชอบ จึงถามโปรว่า ผมเป็นคนถนัดซ้าย ช่วยแนะนำหน่อยว่า จะเล่นข้างขวาหรือข้างซ้ายดี โปรก็ตอบว่า ธรรมชาติถนัดข้างไหน ก็ตีข้างนั้น ถนัดซ้ายก็ตีซ้าย ผมเลยให้เพื่อนพาไปซื้อไม้กอล์ฟ ที่ธนิยะ ด้วยความยังไม่มั่นใจว่าจะเล่นกอล์ฟจริงจัง จึงเริ่มจากการซื้อไม้มือสองมาหัดก่อน แล้วมาให้โปรจับวง เรียนอยู่ได้ไม่กี่ครั้ง ก็เริ่มออกรอบ ครั้งแรกเล่นกับชมรมใบหยก สนามไพน์เฮิร์ส ตอนไปออกรอบ เสื้อ ถุงมือ แว่นตา แม้กระทั่งรองเท้า ต้องไปซื้อที่คลับเฮ้าส์ทั้งหมด เพราะใส่เสื้อคอกลมไป ลงสนามไม่ได้ วันนั้นคะแนนออกรอบละราวหกสิบกว่า มีบางหลุมที่ทำพาร์ได้ แล้วยังได้ถ้วยบู้บี้อีกด้วย เป็นความประทับใจครั้งแรกในการออกรอบ และกอล์ฟยังทำให้เราได้แสดงความสามารถด้วยตัวเองได้ ตีคนเดียวก็ได้ กับเพื่อนก็ได้ รับแขกก็ได้ แต่สำหรับผม ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยตีคนเดียวเลย เพราะมีเพื่อนร่วมก๊วนกันตลอด สิ่งสำคัญคือ กอล์ฟเป็นเรื่องสังคม ทำให้ได้เพื่อนดี ๆ นิสัยใจคอคล้าย ๆ กัน เพราะถ้านิสัยใจคอ บุคลิก ไม่ถูกใจกัน เขาจะค่อย ๆ หายไปจากก๊วน คนใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่, ส่วนสิ่งที่เป็นเรื่องน่าพิศวงสำหรับผมก็คือ กอล์ฟทำให้เห็นธาตุแท้ของแต่ละคนได้ง่ายมาก คนไหนเห็นแก่ตัว ขี้โกง ชอบเอารัดเอาเปรียบ หรือมีน้ำใจ ซื่อสัตย์ ก็จะเห็นได้จากการออกรอบ เพื่อนที่เข้ากันได้ คบกันได้ มีนิสัยใจคอ ในแนวทางเดียวกัน ก็จะอยู่กันเป็นก๊วนกอล์ฟที่มั่นคง
คติพจน์ประจำใจ : ผมได้เรื่องราวคำสั่งสอนนี้มาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น เมื่อครั้งบวชเป็นเณร ได้รับการปลูกฝัง จนมีประสบการณ์ว่า จะทำอย่างไรให้ชีวิตเราประสบผลสำเร็จ นั่นคือ กตัญญู ซื่อสัตย์ ขยัน ซึ่งผมได้ยึดเหนี่ยวสิ่งเหล่านี้ไว้ตลอดมา ขอให้ทุกคนมีความกตัญญู โดยเฉพาะกับบิดามารดา แล้วสิ่งเหล่านี้จะเป็นบารมี คุ้มครองให้ชีวิต มีความร่มเย็นเป็นสุข ด้วยจิตใจที่งดงาม, มีความซื่อสัตย์ ทั้งกับตัวเอง เพื่อน ธุรกิจ การค้า แล้วจะนำพาความเจริญเข้าสู่ชีวิต สู่ธุรกิจ, มีความขยัน เพราะทำให้ชีวิตมีกิน มีอยู่ ถ้าไม่ขยัน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะได้อะไรขึ้นมา
หาให้เหลือใช้ แล้วจะมีเก็บ : รู้จักแค่ทำมาหากินอย่างเดียวยังไม่พอ เรายังต้องรู้จัก หาให้เหลือใช้อีกด้วย ต้องหาให้มากกว่าที่ใช้ เพราะเมื่อเหลือใช้แล้ว จะมีเก็บ นาน ๆ ไปยอดเงินเก็บก็จะสูงขึ้น เมื่อมีเงินเพิ่มพอกพูน เงินจะต่อเงิน เหมือนเงินจะดึงดูดกันมาเอง ถึงเวลานั้น เราก็จะคิดออกว่า จะนำเงินไปทำอะไรให้งอกเงย เพราะฉะนั้น หาให้เหลือใช้ แล้วจะมีเก็บ เพื่อความมั่นคงของชีวิต เพื่อลูกหลาน เพื่อสร้างบุญ สร้างกุศล เพื่อแบ่งปันผู้อื่น แล้วชีวิตจะอยู่ดีมีสุขตลอดไปครับ