อธิวัฒน์ เกียรติปิยะขจร
อธิวัฒน์ เกียรติปิยะขจร
A.P.P. SEALTECH CO., LTD
“คนเราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองเป็นอันดับแรก”
ขนมหวาน : คุณแม่ผมเป็นคนดำเนินสะดวก มีฝีมือเรื่องการทำขนมหวานไทย ๆ ผมก็ช่วยท่าน เป็นลูกมือมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตื่นตั้งแต่เช้ามืด จนไปวางขายที่ตลาด ถึงจะได้ไปโรงเรียน ผมยังจำวิธีการทำขนมได้หมด เช่น ขนมใส่ไส้ ขนมตาล ข้าวต้มมัด แล้วก็มีน้องสาวรับธุรกิจตัวนี้ไปทำต่อ เรามีพี่น้องกัน 5 คน ผมเป็นคนที่สอง คุณพ่อทำธุรกิจเกี่ยวกับก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต่อมาผมก็ทำธุรกิจก่อสร้างตามรอยคุณพ่อ
ความรู้นอกห้องเรียน : พอจบ ม.ศ. 3 ผมก็ไม่ได้เรียนต่อ ต้องไปช่วยงานคุณพ่อ ทำเรื่องรับเหมาก่อสร้าง ที่ดิน อสังหาฯ คุณพ่อก็สอนวิชาพวกนี้ให้โดยตรง แล้วผมก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง สมัยที่ผมเป็นวัยรุ่น คุณพ่อจะส่งให้ไปเป็นลูกน้องคนอื่น ซึ่งคุณพ่อรู้จัก เป็นเพื่อนกัน ผมเข้าไปอยู่ในคลองถม อยู่กับร้านขายพวกสกรู น็อต เครื่องมือต่าง ๆ, ไปอยู่กับเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ไปเรียนรู้งาน เริ่มต้นตั้งแต่กวาดพื้น ทำความสะอาด มีหน้าที่คอยรับใช้ เถ้าแก่ หลงจู๊ จนกระทั่งผมไต่เต้าขึ้นมาระดับเป็นหลงจู๊ ถึงได้ออก กลับมาช่วยงานคุณพ่อ
ทหารเกณฑ์ : บ้านเราไม่ใช่คนรวย แต่ก็ค่อย ๆ สร้างตัวจนครอบครัวเริ่มมีฐานะมั่นคงขึ้น พอผมก็ถึงวัยเกณฑ์ทหาร คุณพ่อก็ให้ผมไปลุ้นคัดเลือกจับใบดำใบแดง ผมจับได้ ทบ.1 ผลัดแรกเลย คุณแม่ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ด้วยความเป็นห่วง แต่คุณพ่อกลับไม่พูดอะไรเลย ผมเข้าไปเป็นทหาร อยู่ ร.1 พัน 1 รอ. กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ สมัยนั้น รุ่นผมได้เป็นที่ 1 ของประเทศ ในการตรวจสอบทหารใหม่ ฝึกหนัก เหนื่อยมากจริง ๆ แต่ก็ทำให้รู้ว่า การที่พ่อให้ไปเป็นทหาร เป็นฝึกให้มีความอดทน ทำงานเป็น เพราะหลังจากนั้น ผมจะต้องพบกับมรสุมชีวิต พบกับปัญหาหลายสิ่งหลายอย่าง ทำให้เราแกร่ง เจอกับอะไรก็ไม่กลัว จนครบกำหนดทหารเกณฑ์ ก็กลับมาช่วยคุณพ่อทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ทำถนน ฯลฯ จนถึงจุดหนึ่งจึงได้ขอคุณพ่อแยกออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ท่านก็ไม่ได้ห้ามอะไร อยากให้ออกไปลองต่อสู้เองบ้าง
ศูนย์พัฒนาบุคลิกภาพ : หลังเสร็จภาระกิจทางทหาร คุณพ่อได้ส่งผมไปเรียนการพัฒนาบุคลิกภาพ กับ อาจารย์ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ โดยมีนักพูดเก่ง ๆ อีกหลายท่านร่วมให้การอบรม ทำให้ผมได้วิชาความรู้ ในเรื่องการเข้าสังคมเยอะมาก แม้กระทั่งการเข้าพบลูกค้า เพราะธุรกิจที่ผมจะเริ่มทำนั้น เกี่ยวพันกับผู้คนมากมาย ต้องเข้าไปพบฝ่ายจัดซื้อ เข้าหาผู้จัดการแผนกนั้น แผนกนี้ บางครั้งเจอเหตุการณ์ที่ยื่นนามบัตรเข้าไป แล้วต้องนั่งรออีกเป็นชั่วโมง ๆ แต่เขากลับไม่คุยกับเราเลยก็มี ซึ่งเรื่องนี้เราได้เคยเรียนรู้แนวทางมาแล้วจากการเข้าไปอบรม ทำให้มีภูมิคุ้มกันอยู่ในตัวพอสมควร และยังรู้ว่าจะต้องทำยังไงในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นการนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี
เจ็บจนเกือบท้อ : แต่กว่าจะได้ผลสำเร็จ ก็นานพอควร เพราะในชีวิตจริง ไม่ได้เหมือนกับหลักสูตรร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังพอช่วยกันได้ อย่างบางครั้ง ไปขอพบผู้จัดการ รอนานมากกว่าจะได้พบ แล้วเขาก็คุยกับเราเหมือนไม่สนใจ ไม่อยากจะคุยด้วย จนรู้สึกว่าท้อใจเหมือนกัน, เราขายอะไหล่อุตสาหกรรม ถ้าเขาไม่รู้จักเรา ความน่าเชื่อถือก็ไม่รู้ว่าจะมีแค่ไหน จำเป็นต้องสร้างความเชื่อถือขึ้นมาก่อนให้ได้ โดยการนำความรู้จากที่เคยเรียนมา ให้รู้จักเป็นคนช่างสังเกต มองสิ่งแวดล้อม ดูบนโต๊ะ ว่ามีอะไรบ้าง เช่น ถ้ามีรูปเกี่ยวกับพระ แทนที่จะคุยเรื่องงาน ก็ชวนคุยเรื่องเกี่ยวกับพระ พอเริ่มเท่านั้น เขาก็อาจจะทิ้งงาน หันมาคุยกับเรา ต้องเริ่มสร้างความสนิทสนมจากตรงนั้นก่อน แล้วค่อยจะไปถึงเรื่องการขาย แต่กว่าจะใช้ได้ผล ก็เจ็บมาเยอะ บางรายถึงกับไล่ออกมาเลย ไม่ให้เวลา ไม่ให้เข้าพบก็ยังมี โดนมาแล้วทุกรูปแบบ กว่าจะค้าขายกันได้ จนสนิทสนมกันมากระทั่งถึงทุกวันนี้ ลูกค้าที่รู้จักกันมากว่าสามสิบปี ก็ยังค้าขายกันอยู่ จากความมีอัธยาศัย ใส่ใจเขา มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่หลอกลวง ทำแต่สิ่งที่มีคุณภาพ จับต้องได้ ตรงกับคำพูดที่เราให้ไว้
ล้มลุกคลุกคลาน : ธุรกิจ ก็อิงกับการเมืองด้วยเหมือนกัน ขึ้นลงตามกระแส เจอมาสารพัด หนักที่สุดจนถึงขั้น ล้มละลาย ตอนนั้น คิดอย่างเดียวเลยว่า จะต้องประคองตัวเราให้รอดไปได้ จนกระทั่งปัจจุบัน เราก็กลับมายืนได้อีกครั้ง เพราะถึงแม้เราจะโดนปัญญาหนักแค่ไหน แต่ถ้าไม่ท้อ ต้องกลับมานับหนึ่งใหม่ มันก็ต้องทำ ต้องใช้ทั้งความอดทน เวลา และกำลังใจ ความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง พี่ ๆ น้อง ๆ ผมถนัดในเรื่องการทำงานซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และบางช่วงยังเคยร่วมกับเพื่อน ญาติ ทำตกแต่งภายใน มีผลงานอยู่พอสมควร ทำได้อยู่สักพัก รู้สึกเบื่อ ก็ยกให้กับลูกน้อง ญาติ ๆ ส่วนอะไหล่อุตสาหกรรม ผมทำควบคู่มาตลอด คุณป้ามีโรงงานผลิตอะไหล่ที่เกี่ยวกับยาง ส่งให้กับบริษัทรถยนต์ ทำให้ผมมีประสบการณ์ ได้เรียนรู้ แต่ผมมาแตกไลน์ ทำเป็นอะไหล่สำหรับบำรุงดูแลเครื่องจักรตามโรงงานต่าง ๆ เพราะอะไหล่บางชิ้นที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มีราคาสูง เราก็สามารถผลิตทดแทนขึ้นมาได้ ในราคาต่ำกว่ามาก ทำให้คนรู้จักเรา ที่สำคัญ ต้องมีความกตัญญูรู้คุณ เป็นสิ่งที่ครอบครัวผมปลูกฝังกันมา และเราต้องช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า เท่าที่เราจะช่วยได้
เพื่อนเยอะ ต้องแยกแยะ : คุณพ่อเคยพูดไว้ว่า คนเราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองเป็นอันดับแรก และสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ เพื่อน, นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน มันบินขึ้นที่สูงไม่ได้ ผมมีเพื่อนเยอะ มีทั้งดีและไม่ดี ในยุคผม สมัยวัยรุ่น ยาเสพติดมีเยอะมาก เพื่อน ๆ ที่อยู่ในซอยเดียวกัน ติดยากันแทบทุกคน มีเว้นแค่บ้านผมที่รอดมาได้ แล้วยังพาเพื่อน ๆ ไปเลิกยาที่ถ้ำกระบอกกันอีกด้วย ทั้งนี้เพราะความแข็งแกร่งของครอบครัว คุณแม่พูดเสมอว่า พวกเราลำบากเรื่องทำมาหากินกันอยู่แล้ว อย่าไปยุ่งเกี่ยว อย่าไปลองยาเสพติดเด็ดขาด เพื่อน ๆ จะคบหากันได้ ไม่ได้ห้าม ทำให้ผมมีเพื่อนสารพัดทุกรูปแบบ ไปตีกับเขาก็เคยมาแล้ว ผ่านชีวิตอันตรายแบบนี้มาหมด จนรู้แล้วว่า อะไรดี หรือไม่ดี
เล่นกีฬา : สมัยเด็ก ๆ ก็เล่นกีฬา เตะฟุตบอล แบดมินตัน จนเมื่อแยกออกมาทำงานเอง ถึงได้หัดเล่นกอล์ฟ เพราะคุณพ่อเริ่มเล่นกอล์ฟกับเพื่อน ๆ ที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผมก็ตามไปด้วย จนคุณพ่อบอกให้ผมเริ่มเล่นบ้าง ตอนนั้นก็ยังไม่สนใจมาก แต่คุณพ่ออยากให้ผมได้เข้าไปอีกสังคมหนึ่ง ได้รู้จักผู้ใหญ่ โดยผ่านกีฬากอล์ฟ ท่านพูดอยู่เป็นปี กว่าที่ผมจะเริ่มไปเรียนกับโปรอุทัย ทัพวิบูลย์ ที่สนามซ้อมกรุงไทย และเล่นต่อเนื่องตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
กอล์ฟ : เป็นกีฬาที่เล่นไม่ได้ง่าย แล้วก็ไม่ยาก แต่ทำให้ปวดเมื่อยไปทั้งตัว เดี๋ยวตีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ทำให้เกิดความท้าทาย ออกรอบครั้งแรกที่ราชนาวี ทีออฟครั้งแรก ตีลูกออกไปโดนอัฒจันทร์ แล้วเด้งกลับมาที่ทีออฟ เกือบถูกก๊วนหลังที่รออยู่ จนเขาขอออกไปก่อน ส่วนผมก็ใจสั่น ตกใจ หลังจากนั้น ผมจึงมีความมุ่งมั่นกับกอล์ฟ ขยันซ้อม จนเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ออกรอบเกือบทุกวัน
เริ่มกอล์ฟให้ลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง : ผมกับภรรยา ชอบอ่านหนังสือ ได้เรียนรู้ว่า การปลูกฝังให้เด็กอยากไปทางไหน สามารถเตรียมการตั้งแต่ยังอยู่ในท้องคุณแม่ได้ ตอนที่ทราบว่าจะมีลูกชาย ก็อยากให้เขาสนใจในเรื่องกอล์ฟ เริ่มตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ ก็ให้ดูกอล์ฟ อ่านหนังสือกอล์ฟ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นภรรยายังไม่มีความสนใจในเรื่องกอล์ฟเลย แต่ก็ไม่ขัดในความตั้งใจของผม พอลูก (น้องนะโม) เกิดมาได้สักพักเริ่มเดินได้ ผมซ้อมสวิงที่หน้าบ้านทุกวัน เขาก็จะมาหยิบไม้กอล์ฟ ทำท่าซ้อมเลียนแบบ ผมยังถ่ายคลิปเก็บไว้ คิดว่าสิ่งที่เราปลูกฝังมาตั้งแต่ในท้องน่าจะได้ผล
อนาคตลูก : เรามองว่ากีฬากอล์ฟ น่าจะเป็นอาชีพหนึ่งของลูกในอนาคต เป็นช่องทางที่ทำเงินได้ มองเป็นเส้นทางลัดทางหนึ่ง วันข้างหน้าหากลูกเรียนจบ ก็ต้องไปแข่งขันกันหางานทำ เงินเดือนอาจจะได้ไม่เท่าไหร่ แล้วยังต้องทำงานหนักอีก ถ้าเผื่อคุณเป็นนักกีฬา มีพรสวรรค์ แล้วยังชอบอีก ก็สามารถสร้างรายได้ เปรียบเทียบกับคนอื่นที่ทำงานเป็นปี แต่คุณอาจจะชนะได้เงินรางวัลเยอะแยะภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน ถึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำกันได้ทุกคน แต่มันก็เป็นไปได้
ช้าง พีจีเอ จูเนียร์ กอล์ฟ แคมป์ : ก่อนหน้านี้ น้องนะโมเคยได้เข้าแคมป์ของช้างฯ จนกระทั่งจบระดับสูงสุด นั่นคือ เลเวล พีจีเอ ซึ่งคุณแม่ก็เข้าไปนั่งฟังด้วยตลอด ทำให้ซึมซับ เข้าใจการเล่นกอล์ฟ ไม่ใช่ว่าไปถึงแล้วจะตี ๆ อย่างเดียว ต้องใช้ความคิด ศึกษาทุกอย่างก่อน แล้วค่อยมาวางแผนในการเล่นแข่งขัน เราได้ความรู้จากการเข้าแค้มป์ช้างฯ มากมาย ถ้าคิดเป็นมูลค่าก็นับว่าเยอะมาก คุ้มค่ากับผู้ที่ได้รับการอบรมเป็นอย่างยิ่ง ต้องขอขอบคุณ ช้างฯ สำหรับการจัดกิจกรรมให้เยาวชนที่มีความมุ่งมั่นในกีฬากอล์ฟ
วัคซีนชีวิต : พยายามกล่อมเกลาเขาอยู่ตลอด เหมือนกับการฉีดภูมิคุ้มกันให้ คุยกันด้วยเหตุด้วยผล พ่อแม่ทำให้ทุกอย่างไม่ได้ ทุกสิ่งที่คุณจะได้มา คุณต้องทำด้วยตัวคุณเอง เรายังห่วงเรื่องทุน หากไม่มีการสนับสนุน เราคงไปได้แค่ตามกำลังของเราเอง ซึ่งนั่นไม่เพียงพอ นักกีฬาที่เก่ง ๆ บางคนไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะเป็นเพราะขาดการสนับสนุน อย่างถ้าอยากไปแข่งต่างประเทศ เขาต้องได้ทุนสนับสนุนทั้งหมด ต้องฝึก ต้องซ้อม ต้องชนะ ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ลองไปถามเพื่อน ๆ ที่อายุอยู่ในรุ่นเดียวกัน จะมีสักกี่คน ที่มีโอกาสได้ประสบการณ์แบบนี้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่พ่อแม่ออกทุนให้ ดังนั้น อยากไปไหน ก็ต้องทำเอง แล้วเมื่อทำได้ เขาก็ภูมิใจ เราก็ภูมิใจ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเกิดจากตัวเขาเอง ไม่มีการบังคับ การที่เด็กจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องให้เขาสัมผัสกับความสุข ความสนุกของกีฬา มีเพื่อน ทำอย่างไรถึงจะทำให้เขาชอบ ยิ่งพอร่างกายดี มีวินัย ตั้งใจฝึกซ้อม ทุกอย่างส่งเสริมกัน แล้วจะสามารถพัฒนาในด้านความคิด วงสวิง ต่อยอดไปได้อีกไกล เราต้องปลูกฝังเด็ก ๆ กันแบบนี้ก่อนครับ