เรื่องของเทศกาล
เรื่องของเทศกาล
โลกกลมๆ ใบนี้คงจะมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่มีความรู้สึกมากมายหลายชนิดหลายอย่างที่เราต้องพบเจอ มนุษย์หรือบางทีก็เรียกว่า “คน” มักจะมีอารมณ์แปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความดีใจ เสียใจ ส่วนมากก็จะเกิดกันอยู่แทบจะทุกเมื่อเชื่อวัน ทีนี้ความโศกเศร้าที่พบกันด้วยการจากพรากจะด้วยเป็นหรือตายก็ล้วนเศร้าทั้งสิ้น แต่สำหรับเมืองสยามของเราการจากแบบไปแล้วไปลับไม่กลับมาแน่มีอยู่ตามฤดูกาลที่เรามี
ณ ชั่วโมงนี้เป็นฤดูกาลแห่งความร้อนอบอ้าวกันทั่วบ้านทั่วเมือง ความเย็นจากสายน้ำจึงมีความจำเป็นยิ่งนัก “สงกรานต์” จึงมีบังเกิดขึ้น จะนานแค่ไหนไอ้กระพ้มเองก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ที่เราดังกระฉ่อนไปทั่วโลกนี่แหละ “สงกรานต์” ที่ถนนข้าวสาร หรือในแถบหัวเมืองก็ต้องโน่น “เชียงใหม่” เขามีมานานแล้ว ความสนุกสนานของชาวบ้านในอดีตมันดูจะพลิกแพลงกันแทบจะจำสาระรูปแบบเดิมกันไม่ได้กันแล้วครับ
ทีนี้ความ”โศกเศร้าเคล้าน้ำตา” มันจะมากันในเวลาแบบนี้รึ…? แทบจะทุกปีที่เทศกาลแห่งความสุขกลับกลายเป็นทุกข์ไปเสียฉิบ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยเราถึงได้ไม่กลัวตายกันเล้ย…ยิ่งมีดีกรีของน้ำเมาเข้าไปด้วยแล้วมันกล้าแกร่งกันจริง อะไรที่เคยทำแล้วดีทำแล้วงามพวกลืมกันไปหมดแล้ว รถราขับกับแบบลืมเบรค, ลืมไฟ, ลืมแยก หรือแม้กระทั่งลืมตายก็ไม่ปาน แทบจะทุกปีที่จำนวนคนหมดลมหายใจในช่วงเทศกาลแบบนี้มีเป็นร้อย นี่ยังไม่รวมทรัพย์สินเสียหาย หรือพิกลพิการอีกเพียบ
ทำไมหนอสำนึกดีสำนึกชอบมันไม่เข้าไปจับเกาะจิตใจกันบ้างรึงายย…หรือเมื่อไม่กี่ปีก่อน ความบ้าบอคอแตกของผู้คนก็พวกนุ่งห่มแบบจะยกขายกแขนสักนิดก็จะได้เห็นกันไปยันไหนยันไป นอกจากนั้นยังมีท่าเต้นที่โลดโผนโจนทะยานกันแบบสุดๆ ดูมันกล้ากันจริงๆ ดีนะปีนี้น้ำท่าแทบจะไม่มีกลืนลงกระเดือกกันอยู่แล้ว ทางผู้หลักผู้ใหญ่ก็ยังให้มีความสุขกันพอจับได้ แต่คงจะเล่นกันชนิดเที่ยงวันยันเที่ยงคืนคงไม่มีแล้วในปีนี้
ก็ลองเล่น “สงกรานต์” กันแบบที่ควรจะเป็นดีมั้ยท่าน รดน้ำดำหัวแบบเดิมๆ ประแป้ง พรมน้ำอบน้ำปรุง เฉกเช่นที่ปู่ย่าตายาย เขาปฏิบัติมาเนิ่นนานเป็นร้อยๆ ปี เราลองมาพลิกความทุกข์เป็นความสุขดีมั้ยครับ จะรดน้ำรดท่าก็เอาแค่ท้วมๆ ก็พอ ผมคิดไปคิดมา “สงกรานต์” ปีนี้คงมีอายกันทั้งประเทศ ก็เรื่องที่ถ้าเรายังคงเล่นกันแบบบ้าเลือดเหมือนเมื่อก่อน แต่ขณะที่เรายังแทบจะไม่มีน้ำกินกันอยู่แล้ว มันจะเป็นความพิกลในระดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้
ส่วนกระพ้มเองเทศกาลใดๆ ก็คงอยู่ในกรุงเทพนี่แหละ ไม่เคยคิดจะขับรถกันแบบกิโลละชั่วโมงเหมือนคนอื่นเขา บอกตรงๆ รับไม่ได้จริงๆ จะหนักจะเบาดูมันจะเป็นเรื่องทุลักทุเลกันสุดๆ ก็เอาเป็นว่าจะสนุกกันแบบไหนก็ช่วยคิดถึง “ชาติหน้า” กันบ้างนะ ถ้าบุญท่านทำกันเพียงพอแล้วก็ตามสบายลุยไปเลย แต่ถ้าบุญก็ไม่เคยทำซ้ำกรรมก็ทำเป็นปกติ แบบนี้จะลำบากนะท่านทั้งหลาย
ผลงานของนักกีฬาไทย
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักกีฬาจะสมัครเล่นหรืออาชีพ ความรับผิดชอบของตัวนักกีฬาเอง น่าจะเป็นความสำคัญเป็นอันดับแรกก็ว่าได้ การที่ใครจะกระโดดเข้ามาทำมาหารับประทานบนถนนสายนี้นั้น ดูว่ายากก็ยากหรือจะเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายก็พอจะพูดได้ ความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงคงจะต้องตั้งอยู่บนความ “รับผิดชอบต่อตนเอง” ทั้งสิ้น ช่วงนี้นักต่อสู้ที่เป็น “สตรี” ในเวทีระดับโลกดูจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง บางคนเราเคยแพ้แบบผูกปีแต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาก็สามารถที่จะเอาชัยชนะมาสู่คนไทยให้ได้ชื่นอกชื่นใจกันได้ หรืออีกคนถึงแม้จะได้ลุ้นถึงหยดสุดท้าย ปิดจบลงแบบน่าเสียใจและเสียดายปะปนกันมา…นี่แหละครับ “อาชีพ” ถ้ายังไม่รับเงินรางวัลอย่าแน่ใจอะไรมากนัก ดูไปลุ้นไปสุดท้ายก็หลุดลงไปหลายอันดับได้ ไม่เป็นไรนะสู้กันต่อไปอายุอานามยังไม่มากมายอะไรนัก…เรื่องแบบนี้ยังมีอีกเพียบ
ปิดฤดูกาลของ Chang-Isuzu ไปเป็นที่เรียบร้อย สนามสุดท้ายจบก็ถึงคราวไปลุยเมืองจีนกันอีกรอบ ก็คงสมบูรณ์แบบแล้วกับ 20 สนามกับอีก 1งานใหญ่ ใครเป็นใครคงทราบกันดี จะได้จากฝีมือหรือดวงล้วนเป็นจอมยุทธด้วยกันทั้งสิ้น หลักฐานต่างๆ คงไม่มีอะไรเป็นปัญหามากมายนัก คงจะมีเพียงเวลาเท่านั้น ที่บางท่านคงจะหาได้ยากเย็นเอาเสียจริงๆ แต่ก็น่าเสียดายอยู่ไม่น้อยหากจะติดขัดด้วยเรื่องของเวลา
นอกจากรายชื่อของท่านที่มีสิทธิ์มีเสียงที่จะได้เดินทางไปแล้ว ยังมีหลายท่านประสงค์ที่จะเดินทางไปกับหมู่คณะอีกด้วย เอาเป็นว่าถ้าที่ทางพอจะมีคงจะไม่ใช่เรื่องลำบากยากเย็นมากมายนักนะครับ สำหรับ “Golftime” ก็มีการประชุมกันอยู่เป็นประจำ เพื่อผลที่ดีที่สุดของสมาชิกทุกท่าน อีกเรื่องก็คือสมาชิกภาพที่ต้องยังคงมีอยู่ ช่วยดูกันนิดนึงนะครับ ซึ่งปัจจุบันการทำหนังสือเดินทางก็ไม่ได้ลำบากยากเย็นอีกแล้ว จะไปได้หรือไม่ได้ขอให้แจ้งมาแต่เนิ่นๆดีกว่า ทางเราจะได้หาทางออกกันได้ให้เหมาะสมกันทุกฝ่าย
ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์