เที่ยวสีชัง ที่ศรี’ชา
เที่ยวสีชัง ที่ศรี’ชา
พาเที่ยว ศรี’ชา ที่อำเภอเล็กสุดชื่อสีชัง
วันนี้จะพาไปเที่ยวกันที่ศรีราชา เมืองที่ใครหลายคนอาจคิดว่าเป็นทางผ่าน เพื่อเดินทางไปพัทยา ระยองเท่านั้น เอาจริงๆเด็กๆหลายคนอาจไม่คุ้นหูด้วยซ้ำกับชื่อศรีราชา เพราะตอนนี้มีทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเกิดขึ้นส่งผลให้หลายพื้นที่ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีตเป็นอันตกยุกต์ไป
สมัยก่อนการเดินทางยังไม่สะดวกสบายเท่าสมัยนี้ ทางหลวงแผ่นดินมีแค่ 4 สาย 1 สายเหนือ 2 สายอีสาน 3 สายตะวันออก 4 สายใต้ อาจมีบางส่วนข้ามภาคบ้างในส่วนเชื่อมต่อ แต่หลักๆก็จะมีอยู่เท่านี้ ซึ่งวันนี้เราจะพาเดินทางไปในสาย 3 ซึ่งเป็นการเดินทางไปในสายสุขุมวิทที่เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามแนวผืนแผ่นดินฝั่งอ่าวไทยสมุทรปราการ บางปะกง ชลบุรี ทอดยาวไปจนสุดที่จังหวัดตราด ในสมัยนั้นใช้เวลาเดินทางร่วม 10 ชั่วโมง
เส้นทางที่ถูกเรียกว่าทางหลวงหมายเลข 3 หรือที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสุขุมวิทนั้น เป็นเส้นทางที่ผู้คน นักท่องเที่ยวใช้เดินทางร่ายมาตั้งแต่ บางปู บางปะกง บางแสน ศรีราชา พัทยา สัตหีบ ไปจนสุดประเทศไทยที่จังหวัดตราด
แต่วันนี้เราไม่เดินทางไปไกลขนาดนั้นครับ เราจะไปกันแค่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อพาไปเที่ยวเกาะสีชังกัน ทริปนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนะครับ เพราะรถตู้สาธารณะก็พาเรามาถึงศรีราชาได้เช่นกัน สะดวกสบายลงรถตู้ต่อวินมอเตอร์ไซค์ไปที่ท่าเรือไม่ลำบากอะไร หลังจากนั้นจะมาโดยรถส่วนตัว หรือ รถสาธารณะก็เท่าเทียมกันครับ เพราะต้องนั่งเรือข้ามฟากลำเดียวกัน ต่อรถสองแถว หรือขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวเกาะเหมือนกันครับ
เพื่อจะได้รู้จักที่นี่กันมากขึ้นเผื่อใครไม่เคยมากันที่นี่ “สีชัง” เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ที่มีขนาดเล็กที่สุดของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 17 ตารางกิโลเมตร มีคนอยู่อาศัยทั้งสิ้นประมาณ 8 พันคนห่างจากฝังอำเภอศรีราชา 12 กิโลเมตร นั่งเรือประมาณ 30–45 นาที ในราคาคนละ 50 บาท มีแอบกระซิบว่าเมื่อก่อนสีชังขึ้นกับจังหวัดสมุทรปราการครับผม
ที่นี่เราสามารถมาเที่ยวได้ทั้งแบบมาเช้า-เย็นกลับ หรือจะมาค้างคืนก็ได้ เพราะที่นี่มีที่พักเลือกหลายแบบหลายสไตล์ แต่ที่เรามากันในครั้งนี้เลือกแบบมาเช้า กลับเย็น ตั้งธงไว้ว่าจะมาขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะเลยเลือกหาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ในทันทีใช้บริการได้ทั้งวัน 300 บาท ไม่ต้องเติมน้ำมัน ขากลับจอดไว้ที่ท่าเรือได้เลยเค้าไม่กลัวรถหายนะครับ แต่หากใครไม่สะดวกขี่รถเที่ยวเอง เค้ามีทั้งสามล้อเครื่อง และรถสองแถวไว้คอยบริการเช่นกันครับผม
จริงๆแล้วสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะมีหลายที่ แล้วแต่ใครจะวางแผนไปเที่ยวที่ไหนก่อนจัดได้ตามสะดวก แต่วันนี้ที่แรกที่ไปเลยคือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่นี่เป็นที่เคารพบูชาของผู้คนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีการตกแต่งและก่อสร้างให้ดูสวยงาม สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากอ่าวไทย ภายในประกอบด้วยศาลเจ้าเทพเจ้าจีนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระฤาษี เจ้าแม่กวนอิม เทพเห้งเจีย พระสังกัจจายน์ โดยเทพเจ้าหลักของศาลเจ้าคือ “เจ้าพ่อเขาใหญ่” มีลักษณะเป็นหินที่เกิดจากการสร้างตัวตามธรรมชาติ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นที่สักการะของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโบราณ หากไม่ติดช่วงโควิด จะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาสักการะเป็นจำนวนมาก
การเดินทางที่นี่เป็นไปอย่างสบายๆเรียบง่าย ที่มีกังวลก็เป็นในเรื่องเส้นทางที่บางช่วงนั้นคดชัน หากใครที่ขี่รถเองไม่คล่องนักแนะนำว่านั่งรถสองแถวจะดีว่า ตลอดเส้นทางบางช่วงเป็นชุมชนที่พักอาศัย มีร้านอาหารร้านค้าให้บริการอยู่สองข้างทางไม่ขาด

ที่ต่อไปพระจุฑาธุชราชฐาน เป็นพระราชวังแห่งเดียวที่ตั้งอยู่บนเกาะ ที่นี่จะมีลูกๆหลานๆ นักเรียนจากโรงเรียนเกาะสีชัง มารับหน้าที่เป็นผู้นำเที่ยวอาสา เราสามารถแจ้งได้ที่จุดทางเข้าเลยครับว่าต้องการน้องๆมาเดินนำเที่ยวครับ คร่าวคือที่แห่งนี้อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหลังจากเหตุการณ์วิกฤต ร.ศ.112 ก็สิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐาน ทำให้มีหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาขอใช้พื้นที่ ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอใช้พื้นที่บางส่วนเพื่อเป็นสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและศูนย์ฝึกนิสิต และทำหน้าที่ดูแลรักษาพระจุฑาธุชราชฐานไปในคราวเดียวกัน
เมื่อ พ.ศ. 2545 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เริ่มทำการปรับปรุงพระราชฐานขึ้นใหม่ เพื่อจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2547 โดยในส่วนที่ได้ปรับปรุงและจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ และโบราณสถาน
ควรแวะมากครับในส่วนที่เป็นสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล ที่นี่จะมาบ่ออนุบาลสัตว์ทะเลที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งเพาะพันธุ์ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ในบางส่วนจะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อย่างใกล้ชิดยิ่งเด็กๆได้เห็นรับรองตระการตาแน่นอน
วัดอัษฎางค์นิมิต เป็นวัดอยู่ในเขตพระราชวัง มีความแตกต่างจากจากวัดอื่นเพราะพระอุโบสถอยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบลังกาตัวพระอุโบสถสร้างแบบสถาปัตยกรรมโกธิค บริเวณพระเจดีย์อุโบสถยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำหน่อมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดียปลูกไว้ด้วย พระเจดีย์อุโบสถนี้ที่ตั้งอยู่บนเขา จากองค์พระเจดีย์สามารถมองเห็นทัศนียภาพบริเวณพระราชฐานโดยรอบรวมถึงภูมิทัศน์ทางทะเลที่สวย
เดินลัดเลาะไปเรื่อยตามเด็กน้อยสองคนที่สลับกันพูดตลอดเส้นทางก็มาถึง สะพานอัษฎางค์ ปัจจุบันสะพานอัษฎางค์ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทุกคนที่ไปเกาะสีชัง จะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว โดยสะพานอัษฎางค์ ทอดยาวไปกลางทะเล ด้วยเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น จึงเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดแห่งของเกาะสีชัง
ช่องเขาขาด ตั้งอยู่อีกด้านของเกาะ มีสะพานวชิราวุธ สำหรับเดินชมทิวทัศน์สามารถชม พระอาทิตย์ตกได้สวยงาม ในอดีตเคยเป็น ที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 บริเวณนี้มีแหลมมหาวชิราวุธ เป็นจุดชมวิวที่สวยมากมีลักษณะคล้ายกับแหลมพรมเทพ แต่เล็กกว่าเป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง มีนักตกปลาจำนวนมากมาหาความท้าทายที่นี่
จริงๆแล้วบนเกาะสีชังยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายต่อหลายที่ ทั้งวัดทั้งถ้ำ จุดชมวิวต่างๆที่ให้ความสวยงามที่แตกตางกันออกไป แต่ด้วยเวลาที่จำกันเราจึงเลือกที่จะไปกันที่หาดถ้ำพังตามการเรียกร้องของเด็กน้อยที่ทั้งหิวและอยากเล่นน้ำเสียเต็มที่ แต่คาดว่าคงอยากเล่นน้ำเสียมากกว่า
“อ่าวอัษฎางค์” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันง่ายๆว่า “หาดถ้ำพัง” ที่มาของชื่อ “หาดถ้ำพัง” จากการสอบถามคนเฒ่าคนแก่เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งที่นี่เคยมีถ้ำที่พังตัวลงมาบริเวณชายหาดนั้นเองชาวบ้านจึงขนานนามกันว่าถ้ำพัง รวมกันเลยเรียกว่า “หาดถ้ำพัง” ทำไมซื้อหวยไม่เคยถูกเนอะ ที่นี่มีปลผ้าใบ มีอาหารบริการเหมือนชายหาดทั่วไปเลยครับ เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก ส่วนใครที่จะมาปิดทริปเกาะสีชังกันที่นี่ก็คำนวนเวลาไปท่าเรือให้ดีนะครับ ไปถึงแล้วไม่ต้องรอนาน เดินทางกลับได้สบายๆเพราะขากลับคลื่นลมไม่แรงเรือแล่นอย่างราบเรียบกลับเข้าฝั่งศรีราชาโดยสวัสดิภาพ
แต่ช่วงนี้เกาะปิดนะครับตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ที่งดการเดินทางไป – มา ท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอเกาะสีชัง ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึงวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ใครอยากไปติดตามข่าวสารให้ดีครับ ช่วงนี้ไปเที่ยวไหนมีแต่คนไทย ไทยเที่ยวไทย อุดหนุน ช่วยเหลือกันครับ ปลดล๊อคเมื่อไหร่เจอกัน……