ประวัติศาสตร์มี..แต่ไม่เคยเรียนรู้
ประวัติศาสตร์มี..แต่ไม่เคยเรียนรู้
ยามนี้ หัวอกพ่อแม่ ที่มีลูกกำลังโตในระดับมัธยมต้น พ่อแม่คนโลกเก่า ที่มีลูกเรียนมหาวิทยาลัย ย่อมปวดร้าว ในวิถีแห่งความเปลี่ยนแปลง ระหว่าง แนวคิดของคนรุ่นใหม่กับ วิถีไทยเดิมๆที่เป็นรากเหง้าสืบทอดกันมานับแต่บรรพบุรุษ
ประวัติศาสตร์ทั้งของชาติเอง ทั้ง”ตัวอย่าง”ของชาติอื่นๆ ในทุกยุค ก็มีให้เรียนรู้ กับ วิธีการใช้พลังเยาวชน หนุ่มสาว เข้ามา “หักดิบ” เป็นอาวุธ “หักดิบ” การเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ที่สุด ปลายทางก็เหลือแพ่เพียง “ปมแห่งความร้าวราว” ที่จบแบบ..ขมขื่นกันไปทั่ว หาจำเลยต้นตอมารับความผิดไม่ได้
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมดูสารคดี Declassified ทางช่อง History2 ทรู วิชันส์ เป็นเรื่องราวของ กบถนักศึกษาเทียนอันหมึง พอดี
กระทบใจ กับ สิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราพอดิบพอดี
ปฏิวัตินักศึกษาเทียนอันหมึง ในทศวรรษที่1980 ในยุคที่ เติ้งเสี่ยวผิง คืออำนาจปกครองจีน ก็ก่อเกิดๆไม่ได้ต่างไปจาก”ตำราเล่มเดิม”ที่นักศึกษาหัวก้าวหน้าใช้กัน เรียกร้องประชาธิปไตย โดยที่ยังไม่รู้เลยว่า..นามธรรมนั้นคืออะไร? มันเป็นเพียง อุดมคติยูโธเปีย ที่ไม่เคยเป็นจริงในวิถีรูปธรรม ผลกรรมปฏิวัติฝรั่งเศส ก็เห็นๆ
นักศึกษาจีน เริ่มจากปักกิ่ง จากนั้นก็มีแนวร่วมจากมณฑลอื่นแห่กันมากดดันรัฐบาล ตั้งรัฐอิสระ ตั้งเทพีเสรีภาพที่จัตุรัสเทียมอันหมึง
ผู้นำจีน ยอมให้ผู้นำนักศึกษาเข้าพบเพื่อเจรจา หาจุดประนีประนอม แต่ผู้นำนึกศึกษามาอย่างผู้กล้า ด่าชี้หน้าจิกหัวหงอกผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์แบบไม่รู้สึกรู้สา ( มีเทปภาพในสารคดีประวัติศาสตร์ เพื่อออกอากาศในเคเบิลทีวี เร็วนี้เอง)
ในกลุ่มผู้นำนักศึกษาเอง ก็มีการเปลี่ยนแปลง มากกลุ่มมากพวก เกิดความแตกแยก มีพวกหัวรุนแรง ต้องการจับอาวุธสู้ ดั่งผู้รักชาติกบถบ็อกเซอร์ ปะทะกำลังเจ้าหน้าที่
ที่สุด เติ้ง เสี่ยว ผิง หมดความอดทน ประเทศจีนอับอายโลกมาพอแล้ว สั่งกองทัพปราบเด็ดขาด โดยไม่สนใจโลกติฉิน..กูต้องเอาประเทศกูให้เรียบร้อยก่อน
เมื่อใช้กระสุนจริง ก็ย่อมตายกันเป็นเบือ นับหลายร้อยศพ ทั้งนักศึกษา ทั้งประชาชนปักกิ่งที่ออกมาเข้าข้างนักศึกษา ต่อสู้รัฐบาลที่ตัวเองชิงชังทรราช
ในสารคดีเรื่องนี้ มีสัมภาษณ์ ผู้นำนักศึกษากบถเทียนอันหมึง ที่อยู่ในวัยห้าสิบแล้ว ทำมาหากินในโลกใหม่ของจีน หลายคนบอกว่า..ในยุคโน้น ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าตัวเองคือวีรบุรุษ ตายเพื่อชาติ เพื่อประชาธิปไตยได้ ทั้งที่ไม่รู้ความหมายจริงๆ นั้น แต่อยากกระทำ ตายก็ตายไป ที่ไม่ตาย อยู่รอดมาถึงวันนี้ มีแต่ความเสียใจว่า..ทำไมในครั้งนั้น ต้องพาคนอื่นไปตายมากมายนัก โดยไม่ได้อะไรเลย
ว่าไป เติ้ง เสี่ยว ผิว ก็โดนมาเยอะ กับการถูกแซะให้เซซวนลงจากเก้าอี้อำนาจ โดยคนที่เป็นปรปักษ์ มุ่งใช้พลังเยาวชนเด็ก
แกงค์ออฟโฟร..นำโดย นาง เจียง ชิง เมียน้อยท่านประธานเหมา สร้างวิถีเยาวชนเรดการ์ดขึ้นมา ปฏิวัติวัฒนธรรม ผู้ใหญ่คือศัตรูของเด็กที่มีอุดมการบริสุทธิ์ อ้างว่าเป็นอุดมการณ์ของท่านประธาน ได้สร้างความฉิบหายต่อความเป็นจีนไม่ใช่น้อย เติ้งก็ต้อง “ริด”กลุ่มนี้ไป
จีนก็เดินหน้าต่อไป ประวัติศาสตร์จีน จารึกว่า เติ้ง เสี่ยว ผิง คือผู้นำที่พาประเทศจีนสู่ความสำเร็จยิ่งใหญ่ ตราบจนทุกวันนี้
ใกล้บ้านเราแท้ๆ ประวัติศาสตร์ไม่ถึงสามสิบปี ที่ เขมรแดง นำโดย เขียว สัมพัน เอาเด็กมาเป็นอาวุธ “เลือดใหม่” สั่งสอน ให้ฝังใจว่า การ “ริด”ฆ่าผู้ใหญ่ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์คืองานยิ่งใหญ่ เพราะประชากรเหล่านั้น เป็นเศษสังคม พวกบ่อนทำลายความเรืองรองยุคใหม่ฟ้าใหม่ของชาติ
แล้วเป็นไง เด็กเขมรฆ่าคนเขมรตายเป็นหลายล้าน แทบสิ้นชาติ เด็กพวกนี้คือคนเขมรอายุสี่สิบขึ้นไป ตกนรกในหัวใจตลอดชาติ จากการกระทำของตัวเอง ที่เป็นเครื่องมือชักนำของคนโฉด
หรือวิถีแห่ง “อาหรับสปริง” โซเชียลเน็ตเวิร์ก พลังแห่งการสื่อสารด้วยสมาร์ทโฟน สร้าง ปฏิวัติประชาชน เป็นความสำเร็จ ประเทศตะวันออกกลาง ตั้งแต่อียิปต์ ยัน เลบานอน ลิเบีย ผู้นำรัฐบาลลาออก ล่มสลายทางการปกครอง เป็นชัยชนะแห่งอำนาจประชาชน ขับไล่เผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตยสำเร็จ
ถึงวันนี้ เป็นไง ประชาธิปไตยอยู่ตรงไหน?
ด้วยสันดานมนุษย์ต่างต้องการอำนาจ “หัว”ที่อยุ่มาช้านานตามจารีตประเพณีการปกครองขาดไป “หัวใหม่” ที่งอกผุดขึ้นมา เป็นหลายๆหัว ที่อ้างอำนาจประชาชน ก็ต่อสู้ชิงอำนาจกันเอง เกิดสงครามกลางเมืองไม่สิ้นสุด
ดูประวัติศาสตร์ อิหร่าน เคยเป็นแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ของซีกโลกตะวันออกกลางมานับแต่อดีต เป็นอู่อารยธรรม เอกอุด้วยความเรืองรองในประวัติศาสตร์ สืบทอดการปกครองด้วยกษัตริย์ พระเจ้าซาร์
ในกลางทศวรรษที่1970 ระบอบกษัตริย์ล่มสลาย ด้วยปฏิวัติประชาชน นำโดย นักบวชชีอะห์เคร่งศาสนา โคไมนี ก้าวขึ้นมาเป็นประมุขประเทศ
ถึงวันนี้ อิหร่านเป็นอย่างไร?.. สงครามกลางเมืองไม่สิ้น ทั้งผู้นำเคร่งศาสนา ทั้งการแทรกแซงของมหาอำนาจ
ประเทศฉิบหาย ประชาชนเดือดร้อน ไห้หวนถึงวันเก่าๆ ที่โดนถล่มไป ไม่กลับมาอีกแล้ว
เหล่านี้ คือ”ตัวอย่าง” ในประวัติศาสตร์ ที่เห็นๆ ในชั่วอายุคน ไม่ใช่เรื่องราวเมื่อร้อยๆ ปีก่อน
แต่ มนุษย์ไม่เคยเรียนรู้..ไม่ต้องการรู้ ความตะหนักจึงไม่มี
กงล้อแห่งกรรม การเปลี่ยนแปลงด้วยแรงกระหายของมนุษย์จึงไม่สิ้นสุด ในทุกๆ ทศวรรษ ในทุกๆชั่วอายุคน
ดังนั้น หัวอกพ่อแม่ ที่ตรมระทบผิดหวังจาก การกระทำ แนวคิดของ ลูกวัยรุ่นที่ ดิ้นรนจะร่วมพลัง เรียกร้องประชาธิปไตย ขับไล่ผู้นำรัฐบาล ไม่เอาเจ้า แสดงเจตนาชัดว่า ไม่ต้องการระบบกษัตริย์..ต้องเข้าใจ
พ่อแม่ คนรุ่นเรา ก็ต้องเข้าใจด้วย โลกเป็นของเขา ไม่ใช่ของเรา
รับได้ เพราะ รักลูก จะผิดจะถูก ก็ต้องอดทน
รอเวลาสำนึกเอง รอเวลาที่โดนตียับ ซมซานกลับบ้าน ให้เห็นเป็นชะตากรรม
เกลียดมัน..เลี้ยงดูมาตลอดชีวิต ชะ มันเนรคุณ เชื่อใครก็ไม่รู้ ที่มันชังชาติ เห็นขี้ดีกว่าไส้..ก็จงไปเป็นขี้ตามแต่ปรารถนาเถอะ ฉันตัดได้
บางคนแรงถึงขนาดตัดลูกตัดพ่อ ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเจ็บแค้นหัวใจ ..ถ้าแกเป็นศพข้างถนน แกเลือกแกเอง คงไม่ตามเก็บ.
ลูกคนหนึ่ง พ่อแม่ส่งเสียจนจบปริญญา ตัดสินใจ ไม่เข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร แสดงเจตนา ไม่มีศรัทธาในระบอบกษัตริย์
เอาเพื่อน ไม่เอาพ่อ
พ่อยอมรับในความคิด แต่แสดงความเสียใจ ขออยู่บ้าน(ตจว.) ไม่ขึ้นมาร่วมแสดงความยินดี ถ่ายรูปร่วมในวันแห่งความสำเร็จนะ
เป็นความแตกร้าวของครอบครัวที่น่าเวทนา
ด้วยถ้า ไม่เกิดการปลุกพลังเยาวชน สร้างกระแส ชู3นิ้ว เมื่อเพียงไม่ถึงครึ่งปี วิถีปรกติสุขดั่งที่เป็น มากมายหลายครอบครัวคงมีความสุข ดั่งที่เป็น
พูดก็พูดเถอะครับ..ยุคนี้ พ่อแม่ ที่ลูกมาบอกว่า รักพ่อแม่ รักครอบครัวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ขอไม่สอบเอนทรานซ์นะ ไม่ต้องการ โพลุทชั่นทางความคิด ไม่ต้องการให้ใครมามีอิทธิพลเหนือตัวเอง ขอเรียนเองทางเน็ต อยากทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย
เด็กหนุ่มสาวมากมายเยอะแยะ ที่จบแค่มัธยมปลาย จบสายวิชาชีพ ตั้งใจก้มหน้าทำมาหากิน ตามรอยพ่อแม่
เทียบ 4ปีที่ทำงาน กับ4ปีของคนรุ่นเดียวกัน ที่เป็นนิสิตนักศึกษา เริงร่าในมหาวิทยาลัย แสวงหาอุดมการ์เปลี่ยนโลก
เด็กกลุ่มนี้ กลับเป็นเด็กดีของพ่อแม่ มีความรับผิดชอบชีวิต mature กว่าเยอะ
ยามนี้ พ่อ แม่ ใครมีลูกมีสามัญสำนึกพื้นๆ ไม่หลงตน ไม่เป็นควายให้ใครมาสนตะพายง่ายๆ ต้องดีใจน้ำตาไหล ปลื้ม ถือเป็นบุญนะครับ
ยอดทอง