Interview

กฤษณา อุดมพิทยภูมิพิจารณ์

กฤษณา อุดมพิทยภูมิพิจารณ์
โอกาสมา
Okasma Co., Ltd.

“แก่นเซี้ยวมากค่ะ”… คุณจูน (กฤษณา อุดมพิทยภูมิพิจารณ์) หัวเราะร่วนเมื่อตอบคำถามแรก

“เป็นเด็กในเมือง บ้านอยู่แถวซอยอารีย์ กรุงเทพฯ เรียนราชินีบน ชอบกีฬาตั้งแต่เด็ก เป็นยุคแรก ๆ ที่มีการตีเทนนิส เห็นแล้วอยากเล่นเอง ขอให้พ่อซื้อไม้เทนนิสให้ แล้วก็นั่งรถเมล์ไปเรียนที่สนามกีฬาเอง เล่นจริงจังจนกระทั่งมัธยม เข้าแข่งตลอด จนเรียนเตรียมอุดม กีฬาอื่น ๆ ก็เล่นจริงจังมาตลอด พอเข้าบัญชีจุฬาฯ ทำงานธนาคารกสิกรไทย ก็เป็นนักเทนนิสอยู่ 8 ปี เล่นทั้งหญิงเดี่ยว หญิงคู่ คู่ผสม”

กีฬาทำให้สังคมไม่มีชนชั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ ระดับบน ระดับกลาง ระดับล่าง ต่างก็สนิทสนมกันหมด “ทุกคนเรียกเรา จูนบ้าง ไอ้จูนบ้าง กีฬาทำให้เราเข้าได้หมดทุกระดับ เรามีความเป็นนักกีฬา เป็นเพื่อน การคบหาพูดคุย รู้จักกัน อบอุ่น ทำให้มีเพื่อนเยอะมาก”

กีฬา ยังช่วยให้คุณจูนเปิดโอกาสใหม่ ๆ “เล่นกีฬาจนงานมาหาค่ะ บริษัท ไอซีซี อยากให้คนที่เก่งหรือเข้าใจทางด้านกีฬา ตอนนั้นกำลังจะนำเข้าชุดว่ายน้ำ ซึ่งเราก็ทำได้ เพราะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำอยู่แล้ว ได้ไปจัดกีฬาแห่งชาติที่เชียงใหม่ มีกิจกรรม แบกร่มเอง ทำให้เข้าใจงาน รู้สึกสนุกมากกว่าเหนื่อย”

จนเมื่อต้องไปทำงานด้าน กอล์ฟ ต้องไปสนาม ไปเจอเจ้าของ ไปวางผลิตภัณฑ์ สั่งไม้กอล์ฟ ซึ่งมีสเปคต่าง ๆ มากมาย มีเรื่องใหม่ ๆ ต้องเรียนรู้…

“สมัยนั้นผู้หญิงตีกอล์ฟน้อยมาก อยากเล่นเป็น เขาเห็นว่าเราเป็นนักกีฬามาก่อน ก็ให้ไปเรียน เรียนแล้วอินมาก ด้วยความเป็นนักกีฬา ทำให้จับจังหวะต่าง ๆ ของกอล์ฟได้เร็ว ยุคนั้นพอดีสนามกอล์ฟเริ่มก่อสร้างกันเยอะมากขึ้น เราก็เอาสินค้าเข้าไปอยู่ในคลับเฮ้าส์ ทั้งอุปกรณ์กอล์ฟ เสื้อผ้ากอล์ฟ อยู่กับสนามกอล์ฟ ทำงานต่อเนื่องมาอีกหลายปี”

“เราได้เริ่มธุรกิจในช่วงที่กอล์ฟกำลังบูม ได้มีส่วนในการช่วยส่งเสริมกอล์ฟสำหรับเด็ก เริ่มสร้างคนรุ่นใหม่สำหรับกอล์ฟ มีกอล์ฟจูเนียร์ สั่งไม้กอล์ฟสำหรับเด็กเข้ามา จัดอะคาเดมี่กอล์ฟ นำโปรเข้ามาสอนเด็ก ๆ” ส่วนตัวคุณจูนเองก็สนุกกับกอล์ฟไปด้วย ยังเคยเข้าไปเรียนกับ แกรี่เพลเยอร์ อะคาเดมี่ อีกด้วย “เป็นคนเล่นกอล์ฟโฉ่งฉ่าง ตีไกลมาก แต่ถ้าไม่ตรงก็แก้ไขยาก สมัยนั้นเล่นแท่นเดียวผู้ชายเป็นประจำ”

ทำงานสายกีฬาอยู่อีกพักใหญ่ ได้โอกาสเปลี่ยนงานอีกครั้ง มาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด เนื่องจากเป็นนักจัดกิจกรรมตัวยง “ก่อนหน้านี้ เคยทำงานในลักษณะส่งสินค้าเข้าไปขายห้าง ก็เปลี่ยนมาเป็นทำงานห้างสั่งซื้อสินค้าเข้าไปขาย กลับกันเลยค่ะ กีฬา ทำให้เข้าใจทั้งสองฝั่ง ฝั่งสินค้ารู้ว่าควรจะอยู่ในตำแหน่งไหน จะขายแบบไหน กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ช่วงอายุ วัย ขนาดไหน ขณะเดียวกันก็ดูเรื่องงานขาย เรื่องทำเล กลุ่มเป้าหมายอยู่ไหน จะไปขายอย่างไร นี่คือกีฬาชักนำจริง ๆ ให้เรามีความก้าวหน้า”

คุณจูนโลดแล่นและสนุกกับงานหลาย ๆ ด้านไปอีกพักใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องธุรกิจการสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล และเมื่อสะสมประสบการณ์จนคิดว่า ถึงเวลาที่จะเริ่มธุรกิจของตัวเองได้แล้ว บริษัท โอกาสมา จึงเกิดขึ้น… “เราเป็นบริษัทที่ปรึกษาและงานขาย เป็นที่ปรึกษา ทำวิจัย ในการพัฒนาพื้นที่ ที่มีศักยภาพ ในการทำรีเทลมอลล์และขายด้วย เช่น ถ้าคุณมีที่อยู่แปลงหนึ่ง อยากจะทำอะไรดี เราก็ทำวิจัยให้ ว่าเหมาะสำหรับการทำรีเทลมอลล์ หรือคอมมูนิตี้มอลล์เล็ก ๆ มีร้านค้าย่อยอยู่ไม่กี่ร้าน เราจะทำการวิจัยว่า พื้นที่ตรงนั้นเหมาะกับการทำคอมมูนิตี้มอลล์หรือไม่ ลูกค้าเป็นอย่างไร มีการติดต่อกับร้านค้าหลัก ๆ ที่จะเข้ามาขาย เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แล้วก็มีร้านย่อย ๆ จากนั้นเราก็ติดต่อเรื่องการออกแบบให้มีความเหมาะสม… โอกาสมา ทำครบวงจร ตั้งแต่ สำรวจพื้นที่ พัฒนาธุรกิจ คุยกับสถาปนิค ทำวิจัย ดูตัวเลข ขายพื้นที่ ฯลฯ ทำให้แต่ละปีรับงานได้ไม่กี่แห่ง”

“สมัยนึง คนเคยอยากทำคอมมูนิตี้มอลล์กันเยอะมาก แต่ทำแล้วเหลือพื้นที่ว่างเยอะ หรือใหญ่เล็กเกินไปไม่เหมาะสม เห็นภาพตรงนั้นแล้วรู้สึกว่า น่าเสียดายแทนเจ้าของ เราจึงต้องทำวิจัยให้มั่นใจ ลองพรีเซลส์ดู ว่ามีร้านค้าหลักมาลงได้มั้ย ดูตัวเลขต้นทุน ว่าจะคืนทุนกี่ปี คุ้มค่าแค่ไหน แล้วตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ ก่อนจะเริ่มสร้าง หน้าที่เราคือรักษาผลประโยชน์ให้กับลูกค้า ซึ่งแต่ละแห่งกลุ่มเป้าหมายก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการออกแบบก็ไม่สามารถทำให้เหมือนกับที่อื่นได้ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นจากการวิจัย เก็บข้อมูล จากความต้องการของทั้งสองฝ่าย ทั้งลูกค้าและผู้ขาย หรือทำเลที่ตั้งว่าอยู่ในตำแหน่งใด เช่น รองรับลูกค้าที่เดินทางกลับบ้าน ขากลับ รถติด จุดยูเทิร์น ต้องคิดก่อน ทั้ง Need และ Want ของลูกค้า เป้าหมายคือ ศูนย์ต้องเกิด พื้นที่ขายต้องเต็ม ต้องปรับตัวกันตลอดเวลา ทุกอย่างไม่มีความแน่นอน แม้กระทั่งโควิดมา บางร้านอาจจะแย่ลง แต่ก็มีบางร้านที่ดีขึ้น วิวัฒนาการก็มีการปรับเปลี่ยน ร้านใหญ่ก็ลดขนาด ไปเน้นไดร์ฟทรู หรือส่งออนไลน์”

ในการทำงานนั้น คุณจูนแนะนำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ต้องมีความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ เราจะไม่สั่งว่าต้องทำ หรือ วันนี้ต้องทำอะไร แต่จะให้เห็นภาพกว้างในมุมของบริษัทก่อนว่า หน้าที่ของบริษัทคืออะไร เงินอาจจะจำเป็นในการหาเข้าบริษัท แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของบริษัท เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือการทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจ แล้วต้องประสบความสำเร็จ ซึ่งเราจะเครียดมาก ถ้าเป็นที่ปรึกษา ลูกค้าลงทุนการก่อสร้าง แล้วไปต่อไม่ได้ หรือขายไม่ได้ มีพื้นที่ว่างเหลือ จะรู้สึกว่าเราต้องแบกรับปัญหามาทั้งหมด ความสุขของเรา คือความสำเร็จของลูกค้าเป็นหลัก”

“เราจะไม่ฝืนธุรกิจ ต้องเข้าใจทำเลที่ตั้ง เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พฤติกรรมของผู้บริโภค มีหลายครั้งที่ลูกค้าเข้ามาเพื่อขอให้ไปทำงานให้ แต่เรารู้ว่าทำไปก็ไม่รอด ก็จะไม่ยอมทำให้ เราไม่สามารถให้เขาลงเงินแล้วขาดทุน ถึงแม้เราจะได้ค่าจ้าง ก็ไม่ยินดี และถ้าไม่พร้อมที่จะทุ่มเทให้ ก็ไม่รับ อย่างบางช่วงเรามีงานเยอะ ก็จะถามลูกค้าก่อนว่ารอได้หรือไม่ ซึ่งถ้าพร้อมแล้วเราจะได้ทำให้อย่างเต็มที่ เพราะถ้าทำแล้วเขาเสียหาย เรายอมไม่ได้ เคยมีลูกค้าทำปั้มน้ำมัน อยากจะสร้างมอลล์ เราก็บอกว่าอย่าทำเลยค่ะ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา ต้องรอไปก่อน แต่เมื่อถึงเวลาเหมาะสมเราจะทำให้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วศูนย์ที่สร้างจะเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ พอสร้างเสร็จแล้ว ก็ต้องเป็นพี่เลี้ยงต่อ วางโครงสร้างการบริหารจัดการให้ต่อเนื่องไปอีก มอลล์จะอยู่ได้ต้องมีการทำการตลาด เป็นงานที่ไม่มีวันจบ บางศูนย์สร้างไปแล้ว ก็มีการปรับปรุง รีโนเวท กันอีก ต่อยอดธุรกิจไปเรื่อย ๆ”

ด้วยความใส่ใจแบบนี้ ทำให้ชื่อเสียงของคุณจูนได้รับการส่งต่อจากลูกค้าสู่ลูกค้า ดังนั้นเวลาจะขึ้นโครงการเมื่อไหร่ ทั้ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ฯลฯ ต่างก็มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน “เราดูแลเขาตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้อยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้”

ถึงแม้คุณจูนจะเป็นนักกีฬาที่หมั่นดูแลสุขภาพ แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเพราะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้กระดูกสันหลัง T12 – L1 แตก ต้องผ่าตัด จนเป็นเหตุทำให้เธอต้องหยุดเล่นกีฬาโปรด… “หงุดหงิดที่ทำไมตีกอล์ฟไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เคยคลั่งไคล้กอล์ฟมาก หมอก็ห้าม ไม่ให้เล่นกอล์ฟ” คุณจูน แอบบ่นเล็ก ๆ ปนเสียงหัวเราะ “แต่ก็มีแอบ ๆ เล่นเบา ๆ บ้างเหมือนกัน เพราะคิดถึงมาก ไปออกรอบกันบ้าง ทุกครั้งที่ตีโดนเต็ม ๆ หรือ พัตต์แล้วลูกวิ่งไปเป็นทางบนน้ำค้างยามเช้า เห็นแล้วจะมีความสุขมาก ไม้กอล์ฟก็หันมาใช้แบบซอร์ฟ ๆ ไม่เล่นอย่างหักโหมเหมือนก่อน

แล้วก็ว่ายน้ำ ที่บ้านก็ออกกำลังกายแบบยืดเหยียด เล่นโยคะ ด้วยตัวเอง ส่วนอาหาร พออายุเยอะ ก็ลดมื้อเย็น ทานน้อยลง”

เมื่อถามถึงเรื่องทางใจ คุณจูนก็เล่าว่า เธอสวดมนต์ไหว้พระ เข้าห้องพระมาพักใหญ่ ทำบุญมานานแล้ว เป็นกิจวัตรที่ทำต่อเนื่องมานานหลายปี แต่ก็มีที่มาของการปฏิบัติธรรมเหมือนกัน “ถ้าไม่ได้เกิดปัญหา ก็คงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ค่ะ สมัยก่อนสวดมนต์ สวดไปอย่างงั้น ๆ ไม่รู้คำแปล แต่หลังจากรู้คำแปล รู้ว่าสวดอะไรไป ยึดมั่นกับอะไร ไม่ได้ท่องไปแบบนกแก้วนกขุนทอง เวลาไหว้พระก็ไม่ได้ขออะไรที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้ขอให้ปิดการขายได้ ไม่ขอในสิ่งเกินจริง แต่จะขอให้พร้อมเพื่อจะทำงาน ขอให้มีพลัง ร่างกายแข็งแรง มีจิตใจเข้มแข็ง มีสมาธิ สมองปลอดโปร่ง แล้วที่เหลือจะตามมาเอง ซึ่งได้ผลกับตัวเอง”

ส่วนเรื่องในชีวิต… “ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นหลักค่ะ โชคดีที่ครอบครัวรู้ว่าเราเป็นคนทำงานหนัก งานประเภทนี้ วันหยุดก็ใช่ว่าจะหยุดได้ ปิดมือถือไม่ได้ ดึกดื่นก็ต้องคอยแก้ปัญหา บางครั้งออกไปดูไซต์งานต่างจังหวัดหลายวัน ครอบครัวก็เข้าใจ ให้การสนับสนุน ทำให้เรื่องงานกับครอบครัวไปด้วยกันได้ เลยเป็นคนทำงานได้สนุก ไม่เคยกลุ้มใจที่ต้องไปทำงานแล้วห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะทุกคนเข้าใจเราดี”

ไม่น่าเชื่อว่า คุณจูน ผ่านวัย 60 มาแล้ว! แต่ก็ยังคงดูสดใส สนุกกับงานอยู่เสมอ…

“จริง ๆ อยากจะเกษียณตั้งนานแล้วนะ แต่ยังทำไม่ได้ ลูกค้ายังให้ความไว้วางใจ”… ถึงจะพักยังไม่ได้ แต่ก็รู้จักวิธีผ่อนคลายตัวเอง “มีเวลาว่างก็อยากกลับไปหาธรรมชาติ ทำสวนทำไร่ที่เขาใหญ่ เริ่มปลูกไม้ผล ทำสวนผัก สามีก็ไปเรียนรู้การทำสวนอย่างจริงจัง อย่างเราจะปลูกทุเรียน ต้องไปเรียนรู้เรื่องของดิน การทำปุ๋ย การปลูก และเรายังทำสวนให้เหมือนกับเป็น English Garden มีปลูกผักสวนครัวด้วย ถ้าว่างก็รดน้ำต้นไม้เองทั้งวัน ขณะเดียวกันก็ยังต้องรับโทรศัพท์ คุยธุระ ทำงานไปด้วยทั้งวันเหมือนกัน”  

“การทำงานสำหรับชีวิตวัยหลังเกษียณ คือการได้พบปะผู้คน ได้พูดคุย ทำให้สมองได้รับการบริหารอยู่เสมอ และด้วยวัยขนาดนี้ ทำให้เราเข้าใจคนมากขึ้น และสามารถส่งต่อความรู้ ประสบการณ์ ให้กับรุ่นลูก รุ่นหลาน โดยวิธีการใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นการได้ทำงาน หรือเล่นกีฬา นั่นคือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อัพเดทตัวเองให้ทันสมัยอยู่เสมอ ชีวิตเราทำงานตลอดไม่มีเกษียณ และทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จจะหายเหนื่อยค่ะ”