ตอนที่ 23 ความรัก กับการพลัดพราก (2)
ตอนที่ ๒๓ ความรัก กับการพลัดพราก (๒)
พบนอนซมด้วยพิษไข้อยู่บนบ้านเรือนไทยหลังเก่ากว่า ๑๐๐ ปี หลังเดิมที่เป็นมรดกตกทอดมาจากยายพริ้มผู้ล่วงลับ
“ข้าขอนางและลูกอันเป็นที่รักของเจ้า กลับลงสู่ที่เดิมของเขาเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะมาอยู่บนภพมนุษย์กับเจ้า เขาทั้งหลายยังต้องทำหน้าที่ในเมืองบาดาลของข้า เจ้าไม่ต้องห่วงทุกคนอันเป็นที่รักของเจ้าเขาจะอยู่กันอย่างสุขสบาย จำไว้นะเมื่อยังไม่ถึงเวลา…อะไรก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ลาก่อนนะหนุ่มน้อย ข้า…ไปล่ะ…”
ร่างสูงใหญ่ สวมต้นเเขน ครอบชฎาหายวับไปกับปุยเมฆ พบดิ้นทุรนทุรายร้องเรียกคนรอบข้าง แต่มีแค่ความว่างเปล่า…ไม่มีใครได้ยินเสียงเขา
…สายลมพลิ้วแผ่วพัดมาหอบเอากลิ่นหอมอ่อนโยนของดอกบัวหลวงที่บานสะพรั่งอยู่ดาษดื่น แพยังคงเหม่อลอยอยู่ในภวังค์ เสียงของใบบัวทำให้แพสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง…
“แม่…ระวัง!”
เด็กน้อยวัยขวบเศษร้องเรียกแม่ด้วยประโยคที่ทั้งแพและแก้วไม่เคยได้ยินมาก่อน
ทันใดนั้น…เรือก็หมุนตัวเป็นวงกลม โดยทั้งแพและแก้วไม่ทันระวังตัว เรือหลุดลอยออกจากริมคลองสู่วังน้ำวนและค่อยๆจมดิ่งลงสู่ก้นบึงของแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว
เสียงเรียก… “แม่จ๋า”
“…ใบบัว…ลูกแม่”
“…คุณแพเจ้าขา…ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยแก้วด้วย”
“แม่จ๋าๆ”
เสียงลูกน้อยค่อยๆ ขาดหายไปกับสายน้ำในที่สุด ร่างของใบบัวถูกน้ำวนหมุนตัวจมดิ่ง
อย่างรวดเร็วกับสายน้ำ แพร้องเรียกใบบัวจนสุดเสียง…แพว่ายน้ำได้แข็งแกร่งและคล่องแคล่วเพราะเติบโตมากับสายน้ำ เมื่อคว้าร่างน้อยของใบบัวไม่ทัน สองมือของแพก็อ่อนระทวยหยุดไขว้คว้าแหวกว่ายแพปล่อยร่างให้ล่องลอยไปกับน้ำวนตามลูกน้อยไปอย่างไม่คิดเสียดายแม้แต่ชีวิต…
มือทั้งสองข้างของแพกุมอยู่ที่หน้าท้อง…ลูกแม่…แม่ขอโทษที่มิอาจให้หนูลืมตามาดูโลกใบนี้ได้ แม่ขอโทษ…เราตามพี่ใบบัวของหนูไปด้วยกันนะลูกนะ…
“ใบบัว…รอแม่ด้วย”
ร่างของแพหมุนตามวังน้ำวน ความแรงของน้ำวนทำให้ร่างของทั้งสองเเม่ลูกวนมาพบ
กันในเวลาอันรวดเร็ว แพคว้ามือใบบัวที่มีเพียงร่างไว้แน่น เราไปอยู่ด้วยกันนะลูกทั้งสองของแม่แพ
เรือหางยาวที่หาปลาหลายลำอยู่บริเวณปากน้ำโขงนั้น มองเห็นเหตุการณ์ แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นวังน้ำวน ทั้งเรือทั้งคนจมหายไปในเวลาอันรวดเร็ว
ตาเพิ่ม…คนหาปลาตะโกน…
“ไอ้พันเร็ว รีบไปบอกไอ้พบเร็วๆ!”
พัน…มีสีหน้าอาการตกใจเกือบจะหมดสติ
“ครับตาเพิ่ม”
ตาเพิ่ม…มองดูพื้นน้ำด้วยความสลด
“โธ่ แพเอ๋ย…ทำไมถึงอายุสั้นนัก นี่เจ้าพบมันคงจะหัวใจสลาย ลูกเมียจากไปอย่างไม่มีวัน
กลับและยังเจ้าแก้วอีกคน เจ้าพระคุณขอให้มีปาฏิหาริย์ด้วยเถิด”
พัน…วิ่งขึ้นบนเรือนไทยหลังเก่า ปากก็ร้องเรียก
“พี่พบ พี่พบ”
แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ…พันถึงเรือนชานมองเห็นพบนอนดิ้นทุรนทุรายเหงื่อโทรมตัว
เหมือนกำลังร้องเรียกอะไรสักอย่าง
“อย่า อย่าเอาลูกเมียผมไป…อย่า…อย่า…ได้โปรดๆ”
พัน…เขย่าตัวพบ
“พี่พบๆตื่นๆ”
พบ…ลืมตาขึ้น สลัดหัวไปมา
“เกิดอะไรขึ้นพัน”
“ก็พี่พบ ร้องลั่นบ้าน ผมเขย่าตัวตั้งนาน”
พบ…เอามือกดที่ศีรษะ
“พี่เป็นไข้และหลับไป พี่ฝันประหลาด พันเห็นแพกับใบบัว แก้วไหม ออกไปเก็บบัวอยู่
ริมคลองข้างบ้าน”
“พี่พบใจเย็นๆนะ ไปล้างหน้าก่อนแล้วไปกับผม”
“มีอะไรหรือพัน !”
ทั้งสองวิ่งลงจากเรือนในขณะที่พบยังเหงื่อโทรมตัวด้วยฤทธิ์ไข้เพื่อไปริมคลอง พันแจวเรือแบบไม่คิดชีวิต พบงงๆจากพิษไข้และเหตุการณ์ สับสน ทั้งสองไปถึงตรงจุดเกิดเหตุที่ขณะนั้น พวกชาวบ้านที่มาหาปลาต่างมีดวงตาแดงก่ำ แสดงความเศร้าสลดใจ
“เกิดอะไรขึ้นพัน”
พบเขย่าพันจนพันรู้สึกเจ็บ ตาเพิ่มยืนรออยู่ด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ใจเย็นนะพบ”
ตาเพิ่มค่อยๆเอามือโอบไหล่ของเจ้าพบ เรือล่มพบ…เรือลูกเมียแกล่ม ข้าและทุกคนพยายามช่วยกันหาทางช่วยแต่สายน้ำเชี่ยวกรากและตรงบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นน้ำวน ข้าก็ได้แต่อธิษฐานให้เขาปลอดภัยกัน ขอให้มีปาฏิหาริย์”
พบเข่าอ่อนค่อย ๆทรุดลงกับพื้นดิน…นิ่งอึ้ง น้ำตาเอ่อล้น…แพ…ใบบัว…แก้ว เจ้าต้องไม่เป็นอะไร ข้าไม่เชื่อในความฝัน ทุกคนต้องไม่เป็นอะไร
ยายอิ่ม…เมียตาเพิ่มบอก
“พบเอ้ย…เอ็งทำใจไว้ ข้าจุดธูปบอกเทพยดาฟ้าดินให้แล้ว เอ้าพวกเราช่วยกันงมหากันนะ
อีกที”
เสียงกระโดดลงน้ำตูมใหญ่ พบไม่รอช้า แหวกว่ายน้ำหาลูกและเมีย………. ไม่จริง ๆ แพ ใบบัว แก้ว อย่าจากฉันไป ฉันอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีพวกเธอ อย่าโหดร้ายกับข้าเลย น้ำตาลูกผู้ชายไหลพรากกับสายน้ำ จนแล้วจนเล่าแทบจะอ่อนแรง พบหยุดเกาะที่ต้นมณีโคตรต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
“ข้าขออธิษฐานต่อเทพยดาฟ้าดิน หากถึงเวลาแห่งกาลพลัดพรากแล้วล่ะก็ขอให้ข้าพบกับหน้าเมียและลูกของข้าก่อน ด้วยเถิด”
แรงอธิษฐานของพบดังก้องทั่วปฐพี เสียงฟ้าร้องคำรามเหมือนรับรู้คำอธิษฐานของพบ
ทันใดนั้น…พบมองเห็นงูยักษ์ชูหัวแผ่แม่เบี้ยไปทางกลุ่มกอดอกบัวหลวงที่มองเห็นเพียงใบแล้วหายไป มีระลอกคลื่นเป็นระยะๆ พบกวาดสายตาไปตรงจุดนั้น พบจำได้แม่นยำว่าเช้าวันนี้แพห่มสไบสีชมพูเพราะอากาศหนาวเย็น เขาเห็นสไบที่เคลื่อนไหวตามระลอกคลื่น แพ…พบรีบแหวกว่ายน้ำไปที่จุดนั้นทันที พบผวาเข้าไป แพ ใบบัว สองคนแม่ลูกกอดกันกลมติดอยู่บนต้นกกใกล้วัดหนองบัว พบร้องเรียกให้เจ้าพันและชาวบ้านบริเวณนั้นเข้าไปช่วยเขาพยุงเมียและลูก ขึ้นที่ท่าวัดหนองบัว
ส่วนแก้วติดอยู่ต้นกกบริเวณใกล้ๆนั่นเอง
ทั้งสามถูกอุ้มขึ้นไปนอนราบกับพื้น พบทำการผายปอดแพ ตาเพิ่มช่วยใบบัวแต่ร่างของทั้งสองแม่ลูกไม่ไหวติ่ง เพียงแต่เนื้อตัวยังอุ่นอยู่เหมือนคนนอนหลับ พันช่วยแก้วอยู่ข้างๆ
พบน้ำตาไหลริน…
“แพ…ใบบัว แก้ว ทำไมทุกอย่างช่างโหดร้ายกับพ่อเหลือเกิน…”
พบเอาหน้าแนบที่หน้าท้องของแพซึ่งขณะนี้มีหน่อเนื้ออีกหนึ่งของเขาอยู่ข้างใน แพ…นิ้วนางยังคงสวมแหวนมรกตของยายพริ้มให้ไว้ นอ้วก้อยยังประดับด้วยแหวนก้อยดอกลั่นทมที่พบมอบให้แพไว้เป็นนิรันดร์ พบเขย่าตัวเมียรัก
“แพตื่นซิแพ ใบบัวตื่นเถอะลูกพ่อ… แก้วตื่นๆ”
หัวใจของพบแทบจะสลาย เมื่อรู้ว่า…ร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่หมดลมหายใจไปแล้ว แต่พบ
ยังคงมีความหวัง เขาเขย่าลูกและเมียปานหัวใจจะขาด
“ตื่นซิแพ ใบบัวตื่นซิลูก แก้วๆตื่น ซ้ำไปมา”
ชาวประมงที่คอยช่วยเหลืออยู่รอบข้าง อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ตาเพิ่มตบไหล่พบเบา ๆ
“พบเอ้ย…หักห้ามใจไว้หน่อย เขามากันแค่นี้”
พบนิ่ง..ไม่มีเสียงพูด น้ำตาลูกผู้ชายไหลพราก เขากุมมือแพไว้แนบแน่น แพ…ไม่ว่าภพไหนชาติไหนพี่จะขอติดตามแพไปในทุกภพชาติ แหวนก้อยวงนี้พี่ขอเก็บไว้ “ชั่วนิรันดร์”นะแพ
ภาพของพบที่โอบกอดแพและลูก เป็นภาพที่ชาวบ้านบริเวณนั้นมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ เป็นความสะเทือนใจที่เศร้าลึกยากนักที่จะอธิบาย ลูกผู้ชายที่แข็งแกร่ง ดุจชายชาติทหาร ในเวลานั้นมีเพียงลมหายใจอันแผ่วเบา…
มณีจันทร์ฉาย