คุยกับ ดร.อมร

5 ภาษารักของแต่ละคนที่คุณควรต้องรู้

5 ภาษารักของแต่ละคนที่คุณควรต้องรู้
The Five Love Languages

มีคนเคยถามผมว่า ภาษารักของผมคืออะไร? ผมตอบเสมอว่า คือการให้ ให้ในทุกสิ่งทุกอย่าง เช่น ให้ความรัก ให้ความห่วงใย ความเสียสละ ให้เวลา ให้ความสม่ำเสมอ หรือพูดง่ายๆให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง

ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ The Five Love Languages หรือภาษารัก 5 ภาษา เขียนโดย Gary Chapman ซึ่งโดยปกติแล้วนายGary คนนี้เป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิต ให้กับสามีภรรยา ที่มีปัญหาชีวิตคู่ มามากกว่า10ปี ซึ่งผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้มันดีมากๆ เลยอยากมาแชร์และ แบ่งบันให้ทุกคนได้ทราบกัน นาย Gary ได้แบ่งภาษารักไว้ 5 ภาษาด้วยกัน

1. Words of Affirmation หรือ คำพูดที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ เป็นการสื่อสารด้วยคำพูด เช่น การสื่อสารด้วยคำพูดที่อ่อนหวาน โหนเสียงที่นุ่มนวล รักนะ คิดถึงจัง วันนี้คุณดูดีจัง  หรือถ้าเราสื่อสารกับลูก เช่น สู้ๆนะลูก ดีมาก สุดยอด ลูกทำได้ พูดให้กำลังใจ พูดแล้วสร้างพลัง สร้างแรงบันดาลใจ ลูกเป็นทำเก่ง พ่อเชื่อมั่นใจตัวลูกนะ

2. Quality of Time หรือ การให้เวลาอย่างมีคุณค่า      การสื่อความหมายภาษารัก โดยการที่เราใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักอย่างมีคุณค่า 100% ให้ความสนใจ ความสำคัญคนที่อยู่หน้าเรา การได้มีเวลาร่วมกันทำบ้างสิ่งบ้างอย่าง เช่น เวลาที่อยู่กับคนรัก หรือลูก ไม่ควรเอาแต่นั่งกดโทรศัพท์ ถึงตัวจะอยู่ด้วยกันแต่เราไม่ได้ให้ความสำคัญอย่างแท้จริง

3. Physical Touch การสัมผัสทางกาย การให้หรือสื่อความรักโดยการ มือจับ ใกล้ชิด โอบกอด หอมแก้ม อุ้ม เป็นต้น 

4. Act of Service หรือ การกระทำบ้างสิ่งบ้างอย่างให้กับคนที่เรารัก เช่นช่วยขับรถไปส่ง ช่วยภรรยาล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน พาไปหาหมอ เปิดประตูรถ ช่วยถือของ ป้อนข้าวป้อนอาหาร ทำกับข้าว เล่านิทาน  บริการต่างๆ

5. Receiving Gifts หรือ การให้ของขวัญ    การแสดงความรักโดยการให้ของ เช่น ของขวัญ ดอกไม้ ตุ๊กตาหมี ช็อกโกแลต ของเล่น

เราคงพอจะได้รู้แล้วนะครับว่าภาษารักทั้ง 5 คืออะไร แต่สำคัญไปกว่านั้น คือเราเองก็ควรจะรู้ว่าเราชอบภาษารักแบบไหน เพราะแต่ละคนจะชอบแสดงออก และรับภาษารักที่แตกต่างกัน ผู้หญิงบ้างคนชอบให้ผู้ชายพูดวาจาหวานๆ “รักนะคนดี “ แต่ผู้ชายกับไม่ค่อยชอบพูดจาหวานๆ แต่ชอบกระทำมากกว่า เราควรหาว่าคนรักของเรา ไม่ว่าจะเป็นแฟน ภรรยา พ่อแม่ ลูกของเรา ชอบภาษารักแบบไหน เราก็ควรปรับตามที่เค้าชอบ ภาษารักแต่ละคนสามารถมีได้มากกว่า2 ภาษา ตัวอย่าง ลูกสาวผมชอบผมให้เวลากับเค้าอย่างมีคุณค่า เวลาลูกซ้อมกอล์ฟเค้าอยากให้ผมดูเค้าซ้อม และ ดูว่าเค้าตีเป็นอย่างไรบ้าง (Quality Time) โดยถ้าวันนั้นลูกสาวตีดีเค้าอยากให้ผมซื้อของเล่นให้ (Receiving Gifts) และเมื่อเค้าตีโดนลูกกอล์ฟดี ผมก็จะพูดว่า “ทำได้ดีมากลูก” (Words of Affirmation) แล้วผมก็ตีมือลูก Hi5  (Physical Touch) “สุดยอดมากลูกรัก”

แล้วลูกสาวผมถามผมต่ออีกว่า  “ถ้าวันนี้หนูตีกอล์ฟดี คืนนี้พ่อช่วยเล่านิทานก่อนนอนให้หนูฟังด้วยนะค่ะ?“ ( Act of Service) นี้คือตัวอย่าง ภาษารักทั้ง 5 ของลูกสาวผม

เราสามารถใช้ภาษารัก ทั้ง 5 ได้ ช่วงแรกอาจจะไม่ค่อยถนัด แต่ฝึกฝน บ่อยๆแล้วจะชำนาญครับ เดี่ยวนี้ผมเริ่มทำอาหารให้ครอบครัวทานแล้วนะครับ เมื่อก่อนทำไม่เป็นเลย ภรรยากับลูกๆดีใจกันใหญ่ ที่สำคัญ ล้างจานด้วยนะครับ 5555 ถ้าท่านผู้อ่านอยากได้ความรู้ อะไรหรือพูดคุยกับผมสามารถติดต่อมาทาง Email ผมได้นะครับ

ดร.อมร นันทวะกุล