งานยากของเทนนิสไทย
งานของ “ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย” ณ เวลานี้ยังคงเป็นช่วงขาลงอย่างต่อเนื่องนับแต่เราเคยมีนักเทนนิสชั้นดีมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าจะพอจำได้คงจะมีมาราวๆ 30 ปี ติดต่อกันในเด็กไทยของเราเคยฝากความหวังไว้กับเจ้ากีฬาชนิดนี้ว่ามันจะนำพาความผาสุขมาสู่ผู้ที่รักและหลงใหล…แต่สุดท้ายก็จบแบบ “ดิ่งหัวลง”ชนิดไม่ฟื้นคืนชีพ ถ้าหากเป็นคนป่วยคงยากจะเยียวยานั่นเพียงแค่ถอดเครื่องพยุงชีพก็หามลงเตียงได้เลย นี่แหละคือความจริงของวงการเทนนิสบ้านเราที่ความจริงมันไม่ควรมีวันนี้ หากจะมองให้ลึกลงไปว่า “ทำไม..ถึงเป็นแบบนี้”เด็กที่เล่นก็มีอยู่มากมายก่ายกองแล้วทำไมวงการถึงได้สงัดเงียบเหลือเชื่อ…
ข้อแรกที่อยากจะบอกคือ “เทนนิสเล่นยากมาก”นั่นคงเป็นเพราะทักษะของเจ้ากีฬาชนิดนี้มันต้องรวมเอาความพร้อมของเด็กในอายุราวๆ 4-6 ปี ออกมาเล่นกัน ดังนั้นเด็กอายุขนาดนี้เขามีกิจกรรมมากมายทั้งที่โรงเรียน บ้าน หรือในแหล่งที่จัดกิจกรรมอื่นๆมันมีความสนุกสนาน แล้วก็ตอบโจทย์ทางสติปัญญาของเด็กจริงๆ…(อันนี้เป็นความคิดเห็นของนักวิชาการ)ที่เขาวิเคราะห์กันมา ครูไก่เองก็ยอมรับในข้อนี้เหมือนกันเด็กๆอายุขนาดนี้ควรมีความสนุกสนานเพื่อพัฒนาต่อยอดสู่ทักษะกันต่อไป…
ข้อต่อมาคือ “หาที่เรียนยากมาก”ก็อย่างที่ทราบๆกันดีว่า “สนามเทนนิส”เวลานี้หายากเต็มที ส่วนมากก็มักจะอยู่ในซอกในหลืบที่ต้องเป็นสมาชิกแบบรายเดือน รายปี หรือเป็นแบบตลอดชาติ เรื่องแบบนี้มันจะเป็นสิ่งที่ลดจำนวนเด็กที่จะเข้ามาลองเล่น ลองใช้ชีวิตกับกีฬาที่ว่านี่ สุดท้ายปลายทางก็อย่างที่เห็นจำนวนเด็กที่จะเล่นลดลงเป็นอย่างมาก ผลพวงที่ว่ามาส่งผลถึงทุกวันนี่แหละ ประเทศเราขาดดาวรุ่งที่พุ่งแรงจากสภาวะการขาดสนามอันเป็นแหล่งเริ่มต้นของทักษะ แต่ข้อนี้หาก “ลอนเทนนิส”สามารถเปิดสอนเทนนิสในราคายุติธรรมต่อผู้เล่นและผู้สอน เรายังพอมีความหวังครับ…
อีกข้อคือ “ราคาการสอนที่ไม่เหมาะสมกับสิ่งที่เด็กควรจะได้ “เรื่องนี้ครูไก่เองรับรู้รับทราบว่ามี อดีตนักเทนนิสทีมชาติ” ที่ปลดระวางตัวเองจากการแข่งขันแล้วก็มาเปิดค่ายหรือแคมป์ของตัวเอง แต่เท่าที่ทราบคือราคาของการสอนแต่ละชั่วโมงมันสูงลิบลิ่ว อาจมีราคาเป็นหนึ่งสองหรือสามพัน…! กันเลยทีเดียว กับเด็กอายุน้อยๆที่ยังไม่รู้ว่าเขาจะรักเจ้ากีฬาชนิดนี้หรือเปล่าเม็ดเงินที่จ่ายไปบอกได้ว่ามันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย แล้วก็ใช่ว่า “เทนนิส ใครก็สอนได้” หากคิดกันแบบนี้ผิดแล้วครับ เพราะทักษะที่ทีมชาติเคยมีมันล้าหลังไปแล้วครับ อย่างน้อยต้องมี 10-15 ปี กันเลยทีเดียว ดังนั้นการยกเครื่องครั้งยิ่งใหญ่เพื่ออนาคตของนักกีฬาและเด็กที่จะเข้ามาลองมันต้องมาแล้ว…
ดังนั้นชื่อเสียงที่สั่งสมมาในนามทีมชาติ ATP หรือ WTA มันต้องวางไว้แล้วยอมรับกับวิธีการที่เขามาเล่นในปัจจุบันเขาทำกัน…แค่นี้เราจะหลุดพ้นจากความมืดที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ที่เขียนแบบนั่นเพราะ อาจารย์ท่านหนึ่งที่ถือว่าเป็นปรมาจารย์ในวงการฟุตบอลบอกว่า “ลำพอง เทนนิสทำไมมันตีกันแบบนี้แล้วรึ”…มันเปลี่ยนมานานแล้วครับ…
ครูไก่