“เพราะรักจึงผักนำ” แคมเปญเพื่อสุขภาพจาก สสส.
แม้ว่าประเทศของเราจะเป็นประเทศเกษตรกรรม ที่มีการปลูกผักผลไม้ได้ตลอดทั้งปี มีจำนวนมากมายทั้งชนิดและปริมาณ แต่ผลสำรวจพฤติกรรมการรับประทานผักและผลไม้ของคนไทย ปี 2562 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จากกลุ่มตัวอย่าง 7,957 คน ใน 3,670 ครัวเรือน กลับพบว่า คนไทย (อายุ 15 ปีขึ้นไป) รับประทานผักและผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด (400 กรัมต่อวัน) ถึงร้อยละ 65.5 ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่อยู่เพียงลำพังมีโอกาสรับประทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอเพิ่มขึ้น 1.4 เท่า ขณะที่เด็กวัยเรียน (6-9 ปี) เป็นกลุ่มที่รับประทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอสูงสุดถึงร้อยละ 77 ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ที่คาดประมาณว่า การเสียชีวิตของประชากรโลกกว่า 5.2 ล้านคน เป็นผลมาจากการบริโภคผักและผลไม้ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการตายด้วยโรคมะเร็งของประชากรโลก
ดังนั้น สสส. โดยแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ จึงได้ตั้งโครงการ “ผลักดันให้ผักนำ” ขึ้น เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยบริโภคผักผลไม้เพิ่มขึ้น ให้ได้ตามข้อแนะนำมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคผัก และผลไม้ให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อช่วยลดปัญหาการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเกี่ยวกับอาหาร
สำหรับคนที่ชื่นชอบการกินผักเป็นทุนเดิมนั้น คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนคนที่ไม่ค่อยรับประทานผักอยู่ก่อน การจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้บริโภคผักได้ปริมาณ 400 กรัมต่อวันนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปนัก โดยผักที่จะบริโภคให้ครบตามคำแนะนำนั้น สามารถกระจายไปตามมื้อต่างๆ ได้ และยังนับรวมถึงผลไม่ที่ชื่นชอบด้วย โดยในช่วงแรกเริ่มอาจจะเริ่มจากการกินผักตระกูล ต้นหอม ผักกาดขาว และผักที่ไม่ได้มีสีเขียวมากนัก เพื่อลดความรู้สึกว่าผักเหม็นเขียว หลังจากที่กินผักกาดขาวได้แล้ว ค่อยพัฒนาสู่ผักใบเขียวอื่นๆ ตามความชอบ โดยค่อยๆ เพิ่มผักเข้าไปในแต่ละมื้อ เช่น หากต้องการกินข้าวผัดกะเพราไข่ดาว ก็บอกให้แม่ครัวเพิ่มผักอย่างอื่นเข้าไปนิดหน่อย แล้วจึงพัฒนาสู่การกินผักในจานใหญ่ๆ
และเมื่อรับประทานผักได้อย่างดีแล้ว จึงปรับเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น โดยนอกจากจะเพิ่มผักในอาหารจานหลักแล้ว อาจจะเตรียมผักสดมาเป็นผักเคียง หรือเพิ่มผักลวกในก๋วยเตี๋ยว ก็ได้ ทานผลไม้แทนขนมกรุบกรอบ หรือจะทำน้ำผักผลไม้ปั่น โดยผสมน้ำผลไม้เล็กน้อยเพื่อช่วยลดกลิ่นผัก และเพิ่มรสอร่อยมากขึ้น ก็ช่วยเพิ่มปริมาณการรับประทานผักให้ได้ตามเกณฑ์ในแต่ละวัน อีกทางหนึ่งเช่นกัน
โดย สสส. ได้พัฒนาชุดความรู้ สื่อสารรณรงค์ รวมทั้งได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาในช่องทางสื่อหลัก คือ โฆษณาชุด “ผักนำ” และสื่อออนไลน์ 2 เรื่อง คือ ชุด “ผักบุ้ง” และ “กวางตุ้ง” ออกมาก่อน เพราะผักทั้งสองชนิดนี้ทานง่าย มีอยู่ใกล้ตัว และมีคุณประโยชน์สูง สำหรับ ผักกวางตุ้ง นั้น ประกอบไปด้วยเส้นใยอาหารสูง สามารถช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และเป็นผักที่สามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ นอกจากนี้กวางตุ้งฮ่องเต้ ยังประกอบไปด้วยวิตามินสูง โดยเฉพาะวิตามินเอและซี พร้อมทั้งสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกาย เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นต้น ขณะที่ ผักบุ้งจีน มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงสายตา บำรุงกระดูกและฟัน และป้องกันโรคโลหิตจางได้ เนื่องจากผักบุ้งจีนนั้น เป็นผักที่มีทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และวิตามินบีและซี
ไม่เพียงแต่ ผักบุ้ง และกวางตุ้ง เท่านั้น พืชผักสวนครัวใกล้ตัวอีกหลายอย่าง ที่เราๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น กะเพรา ผักที่ใครๆ ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถช่วยแก้อาการท้องเฟ้อ ท้องอืด และลดอาการจุดเสียดแน่นท้องได้เป็นอย่างดี, คะน้า ประกอบไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา และมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ที่สามารถบำรุงกระดูกและฟันได้, ถั่วฝักยาว นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู หากรับประทานแบบสดๆ จะสามารถช่วยลดอาการแน่นท้องและท้องอืดได้อย่างเห็นผล, ฟักทอง สามารถทำเป็นทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เป็นแหล่งรวมเบต้าแคโรทีน ซึ่งดีต่อผิวพรรณ สายตา และช่วยบำรุงตับและไต, ฟักเขียว ช่วยขับเสมหะได้เป็นอย่างดี และเนื่องจากฟักเขียวมีฤทธิ์เย็น จึงสามารถแก้อาการร้อนในได้, พริกขี้หนู ถึงแม้ว่าจะมีรสเผ็ดร้อน แต่พริกขี้หนูก็ประกอบไปด้วยวิตามินซีสูง ที่ช่วยขยายหลอดเลือดภายในลำไส้และกระเพาะอาหารได้ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกาย ในการดูดซึมสารอาหารชนิดต่างๆ ได้
นอกจากสรรพคุณเฉพาะตัวของผักแต่ละชนิดแล้ว อีกข้อดีของการกินผักก็คือ “ช่วยกวาดสิ่งหมักหมมในลำไส้” การบริโภคผักและผลไม้อย่างเพียงพอเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมสุขภาพได้ การได้รับใยอาหาร หรือ ไฟเบอร์จากผักจะช่วยกวาดนำสิ่งหมักหมมที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกไป ช่วยส่งเสริมให้ระบบทางเดินอาหารสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ลดอาการท้องผูก ป้องกันมะเร็งลำไส้ ริดสีดวงทวาร และลดการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร พร้อมทั้งมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น และยังมีประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการดูแลรักษาโรค
และใครที่สนใจ สสส. ยังมีปฏิทินผักตามฤดูกาล เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับชนิดของผัก ที่จะมีให้ดาวน์โหลดได้ในสื่อออนไลน์ www.thaihealthlifestyle.com หรือจะเปิดฟังเพลง เพราะรักจึงผักนำ ที่เรียบเรียงโดย สิงโต นำโชค หรือนายนำโชค ทะนัดรัมย์ นักร้อง นักแต่งเพลง ไปช่วยสร้างแรงบันดาลใจอีกช่องทางก็น่าจะดีไม่น้อยทีเดียว