สวัสดีฮอกไกโด 2
สวัสดีฮอกไกโด 2
เมื่อก่อนครูไก่เคยคิดว่า “ประเทศญี่ปุ่น” คือเมืองที่ไกลสุดเอื้อมที่จะเดินทางมาถึง การรู้จักประเทศนี้ก็เพียงผ่านมาทางจอ “ทีวี” เท่านั้นเอง เริ่มจาก “ยอดมนุษย์” หรือไม่ก็ “ยูโด” ต่อมาก็อีกมากมายหลายเรื่อง แล้วชื่อเมือง “ฮอกไกโด” ก็มีเข้ามาให้ได้ยินอยู่เป็นประจำ กระทั่งชื่อรองเท้าสมัยก่อนซึ่งเป็นรองเท้าฟองน้ำชื่อฮอกไกโดก็เคยมี เจ้าตัวร้ายตัวเจ็บมักจะมาจากที่นี่ หรือไม่ตัวประหลาดมักมาทำลายล้างเมืองนี้อยู่เรื่อยไป…
นี่แสดงว่า “ฮอกไกโด” มันจะต้องมีอะไรดีอยู่มากมายก่ายกองแน่นอน จากพรรคพวกและเพื่อนฝูงที่มากันก่อนหน้า เขาก็ว่ามัน “สวยงาม” ยิ่งนักในยามฤดูร้อนมาเยือนเกาะนี้ ที่รู้มาก่อนคือที่นี่เขามี “พรรณไม้” ทั้งดอกทั้งผลเพียบพร้อมเหลือเกิน ดอกไม้สวยงามหลากสีสัน ผลไม้ที่ปลูกรสชาดดีมากรสชาดดีมากทั้งหอมและจัดจ้าน นี่คือในฤดูร้อนนะครับแล้วนี่มันหนาว “หิมะ” ลงขาวโพลนไปทั่วสารทิศแล้วมันจะเหลืออะไรให้ดูกันรึ…
จากโปรแกรมที่เรามีการไปเยี่ยมชมอะไรต่อมิอะไรมากมาย ทั้งสถานที่ซึ่งเคยอยู่กับฮอกไกโดมานานนมแล้ว ทั้งโกดังเก่า, โรงงานเบียร์ หรือโรงงานแก้วที่งดงาม กระทั่งพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งหลายสิ่งหลายอย่างยังคงความเป็นอดีตที่งดงามและเฟื่องฟูแล้วพร้อมที่จะส่งความสมบูรณ์ของอดีตไปสู่อนาคตอีกด้วย
ความเป็นชนชาติที่มีวัฒนธรรมอันเรียบง่ายและงดงามมีแบบแผน สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่คู่กับชาวเกาะแห่งนี้ไปอีกนาน ทีนี้กลบมาคณะของครูไก่ที่มาป๊ะกับอากาศติดลบในวินาทีแรกที่มาเยือน บอกตรงๆมันทรมานใช้ได้ แต่อย่างไรการเที่ยวที่สนุกก็ยังคงต้องมีอยู่ต่อไป ทุกที่ทุกทางที่เราจะไปมีแต่ต้นไม้ที่ไร้ใบทั้งสิ้น ส่วนโคนต้นก็ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนไปหมด ภาพที่เราเห็นมันก็สวยงามไปอีกแบบครับ อากาศข้างนอก -4, -5 ตลอด เสื้อผ้าอะไรมีอยู่ก็งัดเอาออกมาใช้กันเต็มๆ…สมประสงค์
ทุกที่เมื่อเราไปลงจอดไม่ว่าจะทำอะไร จะเป็นเข้าห้องน้ำห้องท่าข้างทาง พวกเราจะกระโดดโลดเต้นกับเกล็ดปุยหิมะที่กองกับพื้น หรือไล่กระโดดจับเกล็ดหิมะที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศมันสนุกมากจริงๆ กลุ่มที่เราไปเที่ยวเนี่ยมีตั้งแต่อายุ10ขวบถึง 63ปี แล้วทุกคนก็ลงกระโดดโลดเต้น กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันสนุกสนานต็มที่ มีอยู่ที่นึงเราจอดเข้าห้องน้ำข้างทาง แต่แม่เจ้าหิมะที่กองอยู่หน้าห้องน้ำมันขาวสะอาดเหลือเชื่อผมลงคนแรกลงต่อด้วยคนอื่นอีกหลายคน ทั้งถ่ายรูป เอาหิมะมาปากันเหมือนเด็กๆยังไงยังงั้น สนุกมากครับ…
ก็อย่างที่บอกการท่องเที่ยวหากไม่วางแผนที่จะสนุกไปกับมันแล้วละก็ คำหนึ่งที่ได้คือ “เซ็ง” จะมาเยือน
บางครั้งบางคราที่นี่มันก็มีอะไรน่ารำคาญเหมือนกัน เช่นมีอาหารอยู่มื้อนึง เราจะต้องไปทาน “ปูฮอกไกโด” อันเลื่องชื่อลือชาของเกาะ ไอ้เราก็ตั้งความหวังไว้มากโขอยู่ แต่อนิจจามันเป็นมื้อที่รันทดสุดๆ ก็เราต้องไปกินปูและอาหารทะเลอย่างอื่นอีกมากมายก่ายกอง โดยมีเงื่อนไขที่จะต้องอยู่ในเวลาแค่70นาที แรกๆก็คิดว่าพอได้อยู่ แต่เอาเข้าจริงๆเจ้าปูยักษ์ที่ว่ามันแช่แข็งโป๊ก ไฟก็อ่อนๆกว่าจะกินก็หมดไปล้วครึ่งค่อนชั่วโมง แล้วปูนี่รสชาติมันสุดจืดชืดจริงๆ ถ้าเทียบกันกับ “ปูม้า” บ้านเรามันทิ้งกันไกลหลายปีแสงเชียวครับ…
สรุปว่าร้านนี้เขาดังเพราะ “คนไทย” ไปลงใน “เฟสบุค” บ้าง “ไลน์” บ้าง เจ้าของร้าน “รวย” เพราะคนไทยไปแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงการทะเลาะกันของคนที่นี่กับเวลาที่ตกลงกันไม่ได้ ร้อนถึง “ตำรวจ” ต้องมาเจรจาหย่าศึกเข้าให้ แต่ว่าในยามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ มันทำให้คิดถึงอะไรที่งดงามมันก็ยังมีความไม่ได้เรื่องเกิดขึ้นจนได้…
แต่เรื่องที่กลุ่มเราสามารถชดเชยความรันทดของมื้อนี้ได้ ตรงที่เราขอไปเที่ยวนอกโปรแกรมจาก “ศาลเจ้า” ไปเป็น “ตลาดปลา” เรื่องนี้ก็ช่วยได้มากทีเดียว ทุกอย่างลงตัวครับเราได้กินของสดๆ มีปลาทูน่าขนาดร้อยกว่าโลนอนคอยให้เราดู ก่อนจะแล่ใส่จาน ส่วนเรื่องที่เราไม่พลาดก็คือ เนื้อปลาส่วนที่ดีที่สุด เราก็ได้ทานคนละชิ้นสองชิ้น ราคาก็พอรับได้ครับ รสชาติมันอร่อยเด็ดขาดสุดๆ ทั้งหวานแล้วก็สดมากๆ
ร้านนี้ทำให้เราลืมเรื่องเมื่อคืนไปสิ้น เราสนุกสนานกับการถ่ายภาพในแทบจะทุกมุมของร้านแห่งนี้ ส่วนกิจกรรมของเด็กๆ ก็ไปกระโดดโลดเต้นอยู่กับหิมะแถบนั้นอย่างสนุกสนาน… นี่คือการวางแผนของการเดินทางไปท่องเที่ยว บางครั้งบางครามันอาจจะมีเรื่องน่าเบื่อ หรือไม่ถูกใจ แต่นี่คือการมาเที่ยวบ้านอื่นเมืองอื่นเขา แล้วยิ่งไกด์ตัวจริงติดภาระกิจจำเป็นด้วยแล้ว ไกด์สำรองและไกด์เถื่อนอย่างผม ต้องเอาตัวและกลุ่มให้รอดไปให้ได้
เช้าวันสุดท้ายกับอากาศ -8 องศาเซลเซียส มันช่างเย็นจับกระดูกจริงๆ เช้านี้หิมะลงนิดหน่อย ลมโชยเล็กน้อย นี่แหล่ะสะใจสุดๆ มาทั้งทีมันต้องแบบนี้ “หนาวสุดๆ” แล้วก็สนุกสุดๆ อีกด้วย มีเวลาผมจะไปเยี่ยมมาเยือนแผ่นดินนี้อีก “ฮอกไกโด”…
ครูไก่