รุ้ง
รุ้ง
เสียงไก่ขันของวันใหม่ ตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าฝนโปรยปรายบางเบาทำให้เกิดครึ่งวงกลมของรุ้งงามในเช้านี้อย่างน่าอัศจรรย์ พระนิรันตระลุกขึ้นทำวัตรเช้าตั้งแต่ตะวันยังไม่พ้นขอบฟ้า
หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จ แสงตะวันส่องเล็ดลอดชานบ้านทำให้พระนิรันตระมองเห็นขันน้ำลอยดอกมะลิตั้งไว้ชานบ้าน นี่แสดงว่าราชาวดีกับยายเอมตื่นขึ้นมานานแล้ว แต่เอ…ช่างเงียบเชียบ ราวกับบ้านนี้ไม่มีคนอยู่ สักครู่จึงได้ยินเสียง
ยายเอม…วดีเอาดอกบัวล้างน้ำเสียหน่อยลูก จะได้ถวายพระแก้วมรกต และพระคุณเจ้า วันนี้วันพระใกล้เข้าพรรษาเสียด้วย แล้วอย่าลืมเอาผ้าเช็ดหัวเสียหล่ะ โดนละอองฝนมาเดี๋ยวจะไม่สบายเอา
ราชาวดี…จ๊ะยาย ยายจ๋า ยายดูนั่น รุ้งโค้งงามเหลือเกินครบเจ็ดสี ไม่รู้หลวงตาตื่นรึยัง?
ยายเอม…หัวเราะหลาน พระคุณเจ้าตื่นมาทำวัตรเช้าตั้งแต่หัวดึกแล้ว (ยายเอมนึกถึงภาพที่พาหลานสาวลงเรือเพื่อเก็บดอกบัวหลวงในยามรุ่งอรุณของวันนี้ ทำไมวดีถึงได้ตัดบัวได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ทั้งที่เราไม่เคยสอนเลยตั้งแต่เขาเกิดมา ท่าทางคุ้นเคยกับการพายเรือ แม้กระทั่งการจับช่อดอกบัวมารวมกันเป็นมัดๆก็ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ แปลกจริงๆ)
ราชาวดี…เอ้า…เหรอยาย หลวงตาได้ยินจะหัวเราะเอาหล่ะ
พระนิรันตระได้ยินการสนทนาของสองยายหลานก็อดยิ้มไม่ได้ ช่างเป็นความอบอุ่นกันเสียเหลือเกิน ทั้งที่ขาดผู้นำแห่งครอบครัวไปนานแล้ว นี่แหละนะมนุษย์เราอยู่ที่วิธีคิดเท่านั้น อยู่กินแค่นี้ก็มีความสุขได้ พระนิรันตระเปิดประตูห้องพระออกมาชมรุ้งงามยามรุ่งสาง ทำให้สองยายหลานหยุดการสนทนาโดยปริยาย
ยายเอม…กราบนมัสการพระคุณเจ้า
พระนิรันตระ…เจริญพรโยม เอ้า…หลานยายไปไหนแล้ว ไม่มาชมรุ้งยามเช้าเหรอ?
ยายเอม…ตื่นเต้นไปแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ไปเตรียมหุงข้าวต้ม เพื่อถวายอาหารเช้าให้พระคุณเจ้าอยู่
พระนิรันตระ…เจริญพร ขอบใจ
ขณะที่ปรุงอาหารอยู่ในครัว ราชาวดีก็อดยิ้มในความปิติสุขของรุ้งงามยามเช้าเช่นนี้ มันอัศจรรย์จริงๆ (ราชาวดีรำพึงกับตัวเอง ทำไมเราคุ้นเคยกับการเก็บบัว มันช่างดูงดงามและชื่นใจจริงๆ)
วันนี้ดอกบัวแรกแย้มสีชมพูสวยสดใส เหมือนต้อนรับสายรุ้ง วันพระขึ้น 15 ค่ำ แสงอาทิตย์สาดส่อง ฝนโปรยปรายหยุดลง รุ้งเคลื่อนตัวจางหาย ทำให้อากาศเช้าวันนี้สดชื่นแจ่มใส
ราชาวดี…อาหารเช้าพร้อมถวายเสร็จแล้วจ๊ะยาย ข้าวต้มร้อนๆ ไข่เจียวกระเทียมดอง ผัดผักบุ้งซ้ำเดิม เพราะหลวงตาไม่ได้ฉันเมื่อวาน ราชาวดีหัวเราะใส่ยายเอม
ยายเอม…คงทำเป็นแค่นี้แหละ ยายเอมแหย่หลานสาว
ราชาวดี…แหม่ยาย วดีทำสุดฝีมือ
สองยายหลานนำอาหาร ดอกบัว ถวายพระนิรันตระๆก็อดยิ้มไม่ได้เพราะได้ยินสองยายหลานกระเซ้าเหย้าแหย่กัน เมื่อฉันอาหาร ให้พร กรวดน้ำ เป็นที่เรียบร้อย พระนิรันตระก็ขอตัวกลับเข้าป่า ในวันพระขึ้น 15 ค่ำ มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมต่อไป
พระนิรันตระกลับถึงกรดที่พักก็เพลพอดี จึงนำอาหารของยายหลานที่เตรียมมาให้ ฉันเพลเป็นที่เรียบร้อย พระนิรันตระเดินไปยังลำธาร แว๊บ…หนึ่งของความคิด ราชาวดีเคยเล่าว่าเธอมองลงไปในธารน้ำแห่งนี้ภาพที่ปรากฏมีเด็กหญิง-ชายหัวจุก….พระนิรันตระกำหนดจิตขณะเอามือควักน้ำในลำธารที่ใสมองเห็นปลาใหญ่-เล็กแวกว่ายไปมา มาลูบที่ใบหน้า เพ็งกสินลงไปในลำธารน้ำแห่งนี้ ลูกพ่อ…พ่อจะช่วยเจ้าทั้งสองขึ้นมาเพื่อผ่านภพมนุษย์ แล้วเราจะได้สู่หนทางการหลุดพ้นจากวัฏสงสารนี้ไปด้วยกัน สไบสีเขียวมรกตที่ปลิวผ่านแวบวับตามแรงลม ข้าเข้าใจทุกอย่าง ข้าจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ต่อสู้และข้ามพ้นจากนิวรณ์ให้จงได้ แม้ข้าจะมีความรักความผูกพัน ทุกอย่างมีเงื่อนไขแต่ข้าจะใช้หลักเมตตาขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าถึงแก่นของธรรมนำครอบครัวของข้าสู่หนทางการหลุดพ้นให้จงได้ด้วยสติและปัญญา