ความรัก คือ พลังใจ
หลังจากที่พบและแพรใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา และยังคงเก็บดอกบัวเหมือนเมื่อยามเป็นเด็ก แต่ในครั้งนี้ดอกบัวหลวงนี่แหละทำให้เขาทั้งสองมี สัมมาอาชีพ
“คงเป็นอานิสงส์ที่เราเก็บดอกบัวให้ยายใส่บาตรหลวงตา และบูชาพระนะพบ” แพรเอ่ยขึ้น
แทบทุกครั้งที่ที่เก็บดอกบัวหลวงชูช่อส่งกลิ่นหอมอ่อนโยน แพรยังคงดำเนินรอยตามยายพริ้ม เก็บเฉพาะดอกบัวหลวงที่บานแล้วลอยน้ำถวายพระและยายพริ้มผู้จากไป
ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ดวงจันทร์ ดวงดาวจะเข้ามาแทนที่ ทั้งพบและแพรมักจะพากันไปพายเรือเล่นในลำคลองเล็กเพื่อดูแลดอกบัวหลวงไม่ให้วัชพืชเข้ามาเบียดบัง เพราะดอกบัวหลวงสีชมพูสดใสจะได้หล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขาทั้งสอง อีกทั้งยังมีผักบุ้งทอดยอดไว้ให้เก็บกิน ส่วนที่เหลือยังนำไปขายที่ตลาดได้อีก
แสงสีทองยังคงสาดส่องกระทบพื้นน้ำเป็นแนวยาวส่งแสงประกายแวบวับ “พระอาทิตย์พระจันทร์เป็นดวงเดียวกันยายเคยบอก” แพร…เอ่ยขึ้นมาทำให้พบหยุดชะงักฝีพายและหันมาทางแพร แสงอาทิตย์อัศดงส่องกระทบที่แหวนมรกตที่นิ้วนางข้างซ้ายทำให้พบนึกถึงหญิงชราขึ้นมาทันที
“แพร…จำได้มั้ย ยายเคยเล่าเรื่องตาแสง ตาแสงจากยายไปหลังจากอยู่ร่วมกันที่บ้านเรือนไทยหลังนี้ไม่ถึงหนึ่งปี ยายกับตารักกันมาก และสัญญากันไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันรักกันนิรันดร ตามอบมรกตนี้ให้ยาย หลังจากที่ตาออกไปทอดแหหาปลาสุดโค้งลำน้ำโขงด้านโน้น ตาทอดแหครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ได้ปลาสักตัว จนตาต้องอธิษฐานจิตขอทอดแหอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตะวันจะตกดิน ตาเหวี่ยงแหไปเหมือนจะหมดโอกาสในวันนั้น แต่ขณะที่ตาเก็บแห แว๊บหนึ่งที่ส่องมากระทบดวงตาของตา เป็นก้อนสีเขียวส่องแสงประกายแว๊บว๊าบเหมือนที่นิ้วนางของแพรตอนนี้ ตาหยิบขึ้นมาดู ตาถึงกลับขนลุกเมื่อเห็นพญานาคคู่หนึ่งโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำวนโค้งเข้าหากัน และมีเสียงผ่านสายลม…ข้าให้เจ้า จงเก็บรักษาไว้ให้กับผู้มีบุญบารมี มันคือ โลหิตของข้าที่กลั่นออกมาจากหัวใจ”
“หลังจากที่ตากลับมาเล่าให้ยายฟังและมอบมรกตให้ยายแล้วตาก็ได้บอกยายไว้ โดยให้นำมรกตไปทำหัวแหวนและให้เก็บรักษาไว้เป็นมรดกประจำตระกูลจนกว่าจะถึงเวลาของเจ้าของมรกตนี้มานำไปครอบครอง”
ในครั้งกระโน้นหญิงชรายังคงไม่เข้าใจ เธอรู้สึกโศกเศร้าเหลือเกินที่สูญเสียสามีอันเป็นที่รัก หญิงชรารู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง ในหัวใจมีแต่ความว่างเปล่า จนกระทั่งค้นพบสัจธรรมของชีวิต ทุกอย่างอยู่ที่พลังใจที่เหนือพลังกายอย่างที่สุดจะพรรณนา หญิงชราใช้พลังใจเข้าแก้ไขปัญหานานัปการที่เกิดขึ้นกับการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว และในที่สุดหญิงชราก็สามารถผ่านร้อนหนาวผ่านความเศร้าโศก ความอ่อนแอ สู่ความเข้มแข็ง มุ่งมั่น ฟันฝ่า จนสำเร็จ เดินทางตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปในที่สุด
“พบเล่าเรื่องยายแล้วคิดถึงยายเหลือเกินนะ พระจันทร์ขึ้นแล้วเข้าบ้านเถอะ ยายมองเราอยู่บนฟากฟ้า”
“ยายจ๋า…เราสองคนเก็บดอกบัวหลวงไปฝากยายนะจ๊ะ…”
หลังจากที่พบกับแพร อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลาเสร็จสรรพเรียบร้อย ทั้งสองคนอยู่ในชุดขาวบริสุทธิ์ และช่วยกันนำดอกบัวหลวงบานลอยน้ำเพื่อขึ้นถวายพระและหญิงชรา “ดอกบัวหลวง คือ ดอกไม้ที่รองรับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์กวนอิม ยายเคยบอกไว้นะพบ” แพรเอ่ยขึ้นมา…ขณะที่กำลังนำดอกบัวหลวงขึ้นถวาย “อีกอย่างการที่เรานำดอกบัวหลวงที่บานแล้วขึ้นถวาย ความหมายตามที่แพรเข้าใจเองก็เหมือนบัวพ้นน้ำ หลุดพ้นแล้ว จึงเบ่งบานส่งกลิ่นหอมเย็นอ่อนโยนงดงามจริงๆ”
“คืนนี้เราสวด บารมี 30 ทัศ เพิ่มขึ้นอีกเพื่อตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งเราปรารถนาและได้ส่งขึ้นให้ยายรับบุญกุศลที่เราปฏิบัติเท่าๆกันนะ”
ได้เวลาทั้งสองจึงจุดธูป เทียนผึ้งแท้ที่ได้จากเมืองเวียงจันทน์ บูชาพระรัตนตรัย และกล่าวขึ้นพร้อมๆกันตั้งแต่ นะโม 3 จบ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้บูชา ตลอดจนพระพุทธรูปทั้ง 8 องค์ที่ลอยน้ำมาจากล้านช้าง และตามด้วยบารมี 30 ทัศ
พบถามแพรว่า… “แพรอธิษฐานขอสิ่งใด” แพรตอบทันที… “สายใยชีวิต จ๊ะพบ”
พบดึงตัวแพรเข้ามาโอบและพูดแผ่วเบาข้างซอกหู… “เราใจตรงกันจริงๆนะแพร”
มณีจันทร์ฉาย