คืนสุดท้ายที่เฉินตู
คืนสุดท้ายที่เฉินตู
กลุ่มนักเที่ยวของเราลงไปเที่ยวยังอุทยาน “จิ่วจ้ายโกว” ต่างก็อิ่มเอมกับความงามของธรรมชาติที่ยากจะลืม ว่ากันว่า”หากมาเที่ยวทะเลสาบแห่งนี้แล้ว ก็ไม่ต้องคิดถึงทะเลสาบที่ใดอีกแล้วบนโลกนี้” เขาว่ามาผมก็นำมาถ่ายทอดกันต่อไป จริงเท็จอย่างไรครูไก่ไม่ตัดสินว่าจริงหรือไม่ แต่ที่นี่เขาสวยจริง…
ในช่วงค่ำคืนที่เฉินตู คณะได้ออกไปเดิน “ถนนคนเดิน” เกิดมาท้องพ่อท้องแม่ก็ไม่นึกว่า เจ้าถนนคนเดินที่นี่มันกว้างใหญ่อะไรขนาดนั้น ดูคร่าวๆน่าจะกว้างสัก40เมตร ยาวเป็นกิโลสองข้างทาง ข้าวของขายเพียบมีทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งของยิบย่อยราคาไม่กี่บาทถึงราคาหลักหมื่น
พวกเราเดินกันเป็นชั่วโมง พอถึงเวลานัดหมายพวกเราก็พากันมายังจุดนัดพบ แล้วก็นำเอาข้าวของที่ซื้อมาอวดกัน มี่ทั้งของที่มากด้วยสาระแล้วก็ไร้สาระรวมๆแล้วฮาดี จากจุดนัดพบเราเดินไปอีกนิดเพื่อไปชม “โชว์เปลี่ยนหน้ากาก” โรงละครก็ไม่ใหญ่โตอะไรมากมาย จุคนได้ราวพันกว่าคนเห็นจะได้ “คนดูเต็ม” โชว์เปลี่ยนหน้ากากก็มิได้ตื่นเต้นอะไรมากมายนัก หนักไปทาง”ง่วง”เสียมากกว่า ช่วงที่เราเดินทางกลับจาก “จิ่วจ้ายโกว”เนี่ยแหละ เกิดเหตุดินเลื่อนลงมาทับเส้นทางที่เราต้องผ่านดีที่เรามาล่าไปนิดนึง ไม่เช่นนั้นคงรอดยาก
เช้าวันสุดท้าย เราต้องไปดู”แพนด้า”ที่ศูนย์อนุรักษ์ของเฉินตู ที่ศูนย์นี้เขาจัดการได้เนียนมาก สะอาดสะอ้านเป็นสัดส่วนสวยงาม”แพนด้าที่นี่”มีเป็นฝูงทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ดูกันเปรมทั้งคณะ ช่วงสายก็ต้องออกเดินทางไปยังศาลเจ้า”สามก๊ก” ซึ่งมีพื้นที่กว่า 37,000 ตร.ม. ชมรูปปั้นของ “ขงเบ้ง, กวนอู และขุนนางที่สำคัญในยุคนั้น” นอกจากนั้นก็ยังมีสุสานของกษัตริย์เล่าปี่ ที่อดีตนายกโจวเอินไหล ได้บัญชาให้ทหารมาคุ้มครองไว้ในยุคปฎิวัติวัฒนธรรม ดังนั้นสภาพของสถานที่จึงสมบูรณ์สวยงามนัก
แต่ที่ถูกใจมากก็เห็นจะเป็น “ถนนจินหลี่” ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่รักษาความเป็นสมัยโบราณไว้เป็นอย่างดี ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของต่างยุคต่างสมัยมีมากมาย ถ้าจะเดินสักครึ่งวันผมคงไม่เบื่อกับความแปลกตาของบ้านเมืองตรงที่เขาจัดไว้ ครูไก่ชอบใจเป็นที่สุด
สรุปว่าการเดินทางครั้งนี้ให้อะไรผมมากมายนัก ข้อแรกคือการพัฒนาประเทศของ”จีน”มันดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ เขาทำได้ไงกันมันถึงรุ่งเรืองได้ขนาดนี้ ข้อต่อมาคือประเทศนี้ใช้อะไรเป็น”อาวุธ”อะไรเป็นสำคัญในการพัฒนาตัวเองได้ขนาดนี้ แล้วหันกลับมามองบ้านเราเมืองเรามันไหวมั้ยที่จะ”พัฒนาประเทศ” แบบที่ “จีน” เขาทำกัน.…
ครูไก่