ปลากัด ( 2 )
เรามาว่ากันถึงเรื่องปลากัดต่อจากฉบับที่แล้วกันต่อ ถ้าจะสืบย้อนถึงประวัติของการกัดปลาที่มีกันมาช้านาน “สยามประเทศ”ของเรานี่เผลอๆมันมีมาก่อนก่อตั้งเมืองเสียด้วยซ้ำ จากคำพูดของคนโบราณนั้นว่ากันว่าปลากัดที่มีความโหด ดุ ทน ปากคมต้องปลากัดแปดริ้ว เพราะสายนี้ปลาจะมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบ บางทีก็ทำเอาเซียนปลาก็เหมาเอาว่าปลาที่โดดเด่นสุดของสายกัดเนี่ยต้อง “ปลาแปดริ้วเท่านั้น” ซึ่งความจริงก็อาจจะไม่ถูกต้องนักหรือจะถูกก็อาจจะได้ไม่เกิน 70% ของเรื่องราว
ในแถบที่มีน้ำลักจืดลักเค็มอีกจังหวัดที่มีปลาสายนักสู้อีกที่นั่นคือปลากัดสาย “มหาชัย”เจ้าปลาสายนี้อาจมีชื่อด้อยกว่าปลาแปดริ้วก็จริงแต่เชิงการกัดมันฉลาดหลักแหลมดี คล่องแคล่ว ว่องไว กัดท้องกระพุ้งแก้มอันเป็นจุดอ่อนของปลากัดนั่นเอง…ที่ปลาเหล่านี้มีเชิงการกัดที่เป็นแบบนี้นั่นคงเป็นเพราะ “ปลาเหลามหาชัยเป็นปลาตัวเล็ก”เมื่อเทียบกับปลาทางแปดริ้วเขา แต่มันก็ถูกชดเชยด้วยความว่องไวแทน…ปลากัดสายมหาชัยเนี่ยถ้าไม่ผิดที่ผิดทางละก็ คิดว่าถนนสายธนบุรีปากท่อที่เรารู้กันตั้งแต่แถบหลักกิโลที่ 20 กว่าๆถึงโค้งวัดเกตุมฯคือเป็นเขตที่เป็นน้ำลักจืดลักเค็ม
ที่กล้าเขียนนั่นเพราะเมื่อสมัยครูไก่เป็นเด็ก นอกจากการยิงนกตกปลาแล้วก็นี่แหละการหาปลากัด “ป่า”ที่เรียกกันติดปากมาขายให้บรรดาเซียนจาก “อยุธยา-อ่างทอง”มาซื้อไป สมัยนั้นตัวละ 3 บาทก็โก้สุดแล้ว จากปลาแถบนี้สมัยนั้นไม่มีใครรู้จักมักคุ้นกันนักหรอก เขาก็เหมารวมกันว่าเป็นปลากัดแปดริ้วไปหมด ด้วยเหตุนี้ปลาทางสายมหาชัยก็ถูกกลืนไป ซึ่งในอันที่จริงยังมีปลากัดที่เป็นหลักๆอีกสองสายนั่นคือ ปลากัดจากใต้กับปลาสายเหนืออีก…ในฉบับหน้าจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ แต่ตอนนี้เอาปลากัดที่ถือว่ามาแรงสุดๆไปดุก่อนนะ คราวหน้าจะเล่าเรื่องของนักสู้ที่เคยเลี้ยงเพื่อการพนันมาเล่าสู่กันฟัง
ครูไก่