นิสสัน จีที-อาร์ พรีเมียม อิดิชั่น 2018
นิสสัน จีที-อาร์ พรีเมียม อิดิชั่น 2018
ยนตรกรรมที่เป็นตำนานของความเร็ว
รถสปอร์ตสองประตูในตระกูล Skyline Gt-r ของ Nissan มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 50 ปีแล้วโดยนับจากรุ่นแรกคือรุ่นPrince Skyline (1957) จนมาถึงรุ่นล่าสุดในยุคปัจจุบัน โดยที่ทุกๆรุ่นของ Gt-rเป็นรถยนต์แบบสปอตร์สองประตูเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลังโดยมีพละกำลังมากกว่ารุ่นปกติ การได้ขับ Gt-rไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นเก่าหรือรุ่นล่าสุดนั้นก็หมายถึงการได้ควบคุมเครื่องจักรพลังสูงไปบนเส้นทางแห่งการเดินทางร่วมกันระหว่างมนุษย์และจักรกลตำนานแห่งความเร็วของรถยนต์ Nissan Skyline ที่สืบทอดสายพันธุ์รถสปอร์ตแรงม้าสูงยังคงสร้างประวัติศาสตร์บนเส้นทางของโลกแห่งยนต์กรรมจากอดีตไปสู่อนาคตซึ่งนับได้ว่าเป็นเส้นทางของรถยนต์ที่มีบุคลิกหลากหลายมากที่สุด
นิสสันย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรม และความตื่นเต้นเร้าใจสู่ประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวนิสสัน จีที-อาร์ พรีเมียม อิดิชั่น 2018 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาประสบการณ์การขับขี่สไตล์ GT (แกรนด์ทัวริ่ง) และ R (เรซซิ่ง) เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561
จีที-อาร์ จำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 13.5 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรและการบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟโดยสยาม นิสสัน ทีเคเอฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของนิสสันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High Performance Center) เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด จีที-อาร์ ผลิตที่โรงงานระดับโลกของนิสสันในเมืองโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น
มร.อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าว “ผมมีความตื่นเต้นที่ได้นำเสนอรถซูเปอร์สปอร์ตที่มีความทันสมัย ประณีต และก้าวหน้าที่สุดเท่าที่นิสสันเคยผลิตมาสู่ประเทศไทย นิสสันสามารถมอบนวัตกรรมและความตื่นเต้นเร้าใจเพื่อทุกคนอีกครั้ง เรานำลูกค้ามาเป็นหัวใจสำคัญในทุกๆ อย่างที่เราทำซึ่งเป็นเหตุผลที่นิสสันริเริ่มพัฒนารถซูเปอร์คาร์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ เราได้ยินเสียงเรียกร้องที่ดังกระหึ่ม และชัดเจนจากแฟนของนิสสันในประเทศไทยที่ต้องการรถระดับตำนานอย่าง จีที-อาร์”
ลูกค้าสามารถเลือกสีภายในห้องโดยสารได้ 4 สี คือ Black Amber, Ivory, Saddle Tan และ Red Amber กับสีตัวถังภายนอกทั้ง 6 สี ได้แก่ Katsura Orange, Vibrant Red, Pearl Black,Gun Metallic, Pearl White และ Pearl Blue
คุณสมบัติสำคัญของนิสสัน จีที-อาร์ พรีเมียม อิดิชั่น 2018 ล้อฟอร์จอัลลอยจากเรยส์ (Rays®) น้ำหนักเบาพิเศษ ซูเปอร์ไลต์เวต ขนาด 20 นิ้ว, กระจังหน้า V-motion รุ่นใหม่ยกระดับแอโรไดนามิก,ฝากระโปรงใหม่เพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก, แผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าคาร์บอน แบบ เอสเอ็มซี (Carbon SMC) และแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังคาร์บอนคอมโพสิทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก,ดีไซน์ด้านหลังใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศ,แผงแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่พร้อมแผงมาตรวัดหุ้มหนังตัดเย็บด้วยมือ,แผงควบคุม Display Command ใหม่บนคอนโซลกลางแบบคาร์บอนไฟเบอร์,พวงมาลัยรุ่นใหม่พร้อมแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น,หน้าจอกลางทัชสกรีนมัลติฟังค์ชั่นขนาด 8.0 นิ้ว
การออกแบบภายนอกที่ก้าวล้ำหน้า กระจังหน้า V-motion หนึ่งในเอกลักษณ์การออกแบบล่าสุดของนิสสันถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มการทำความเย็นเครื่องยนต์ โดดเด่นด้วยวัสดุโครเมียมแบบด้านและแพทเทิร์นโครงร่างตาข่าย ฝากระโปรงที่มีเส้นนำสายตาจากกระจังหน้าได้อย่างไร้ที่ติถูกเสริมความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มเสถียรภาพขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
สปอยเลอร์ชิ้นล่างด้านหน้าทรงโค้งถูกขยายให้กว้างขึ้นเล็กน้อยและมีตำแหน่งต่ำลงไม่กี่มิลลิเมตรเพื่อเพิ่มการไหลเวียนอากาศบริเวณมุมล่างของตัวรถ เสาหลังคาท้ายถูกปรับดีไซน์ใหม่ที่ส่วนบนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการไหลเวียนอากาศให้ดียิ่งขึ้น ด้านหลังของจีที-อาร์ยังคงเอกลักษณ์ระดับตำนานด้วยไฟท้ายทรงกลม แผงดิฟฟิวเซอร์สีเงินและช่องรีดอากาศด้านข้างถูกติดตั้งเคียงข้างกับปลายท่อไอเสียไทเทเนียม 4 ชุดซึ่งช่วยเพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ
ห้องโดยสารตอบสนองการควบคุมของผู้ขับขี่ แผงควบคุมกลางถูกปรับปรุงใหม่และมีความเรียบง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยจำนวนสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและระบบนำทางลดลงจาก 27 ชิ้นเหลือเพียง 11 ชิ้น หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้วมีข้อมูลทุกด้านที่ผู้ขับขี่ต้องการในที่เดียวโดยแสดงผลด้วยไอคอนขนาดใหญ่บนหน้าจอเพื่อเพิ่มความง่ายดายให้ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบเครื่องเสียง การใช้โทรศัพท์ และฟังค์ชั่นอื่นๆ ในระบบอินโฟเทนเมนท์
เครื่องยนต์ผลิตด้วยมือ เครื่องยนต์วี6 ทวินเทอร์โบ 24 วาล์ว ความจุ 3.8 ลิตรที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพของจีที-อาร์ 2018 ผลิตในเมืองโยโกฮามาโดยฝีมือของทาคูมิ หรือ ช่างเทคนิคระดับมาสเตอร์ของนิสสัน มีพละกำลัง 555 แรงม้าที่ 6,800 รอบต่อนาที แรงบิด 632 นิวตันเมตร ท่อไอเสียไทเทเนียมชุดใหม่ของจีที-อาร์
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบซีเควนเชียล ดูอัลคลัตช์ 6 สปีดได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อการทำงานที่ไหลลื่นนุ่มนวลมากขึ้นและสมรรถนะที่ดีกว่าเดิมในสถานการณ์ขับขี่หลากหลายรูปแบบ
โช๊คอัพบิลสไตน์ แดมพ์โทรนิก (Bilstein® DampTronic) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งได้ 3 โหมดคือ Normal, Comfort และระบบกันสะเทือนที่ตอบสนองระดับสูงสุดคือ R จีที-อาร์ มาพร้อมยางรันแฟลต ของดันลอป
รุ่น เอสพี สปอร์ต แม็กซ์ จีที600 ดีเอสเอสที ซีทีที (Dunlop SP Sport Maxx GT 600 DSST CTT) สมรรถนะสูงระดับอัลตร้าที่รองรับแรงดันลมไนโตรเจนและออกแบบมาเพื่อการทำงานของช่วงล่างโดยเฉพาะ โดยมีขนาดยางมาตรฐานด้านหน้า 255/40ZRF20 และด้านหลัง 285/35ZRF20
ระบบเบรกเป็นของเบรมโบ (Brembo®) โมโนบล็อก แบบคาลิปเปอร์ 6 สูบที่ด้านหน้าและ 4 สูบที่ด้านหลัง พร้อมจานดิสก์เบรกของเบรมโบลอยตัวสองชิ้นแบบเจาะรูและเซาะร่องกลางจานขนาด 390 มม. ที่ล้อหน้าและ 380 มม. ที่ล้อหลัง ทำงานคู่กับผ้าเบรกที่มีสมรรถนะและความทนทานสูงที่ช่วยลดอาการเบรกเฟดและมีประสิทธิภาพการหยุดรถอย่างมั่นใจ