เรื่องของ ดวงดาว, ชีวิต, ชะตา และลมหายใจ
เรื่องของ ดวงดาว, ชีวิต, ชะตา และลมหายใจ
เอาละ…หลังจากฤดูกาลที่ผันผ่านไปราวๆ300กว่าวัน คนเราก็จะไชโยร้องกันเกือบจะทั้งโลกไล่เรียงกันตั้งแต่ดินแดนที่ป๊ะกับพระอาทิตย์ก่อนใครโน่น เมืองกีวี เมืองจิงโจ้โล้สำเภาไล่เรียงมาอิเหนาเข้าไทยไปจีน…การเฉลิมฉลองที่มีทั้งแสง เสียง สี กันทุกประเทศที่เวลาวิ่งผ่านไป…แต่สิ่งที่ต้องตามมากับการเปลี่ยนผ่านของปี “ไก่ฟ้า” เข้าหา “หมาจู” แล้วเท่าที่ดูนั้นมักจะมีบรรดา “จอมยุทธ”ในทางดูความเป็นมาเป็นไปของชีวิตหรือ “ดวง”ที่เรารู้จักกันแบบชาวบ้านจะ “ฟันธง”หรือ “ฟันเงิน” ก็ล้วนดูความเป็นมาเป็นไปของชีวิตเพื่อความสบายใจในอนาคตเสียมากกว่า เท่าที่ลองติดตามแบบไม่กระชั้นชิดมากมายนัก แทบจะทุกดวงชะตามันช่างงดงามสบายใจไปทุกทิศทุกทาง แต่มีบางราศีที่ไม่พุ่งพรวดพราดเหมือนที่อยากได้…
ลองมามองดูความไม่พุ่งของราศี “ธนู”เท่าที่ดูๆก็กันดารพอควรขนาดว่าหายใจยังจะลำบากก็ว่าได้…แต่สำหรับครูไก่ผู้สถิตอยู่ราศีนี้กลับมองต่างมุม คือคิดไปในทางบวกสุดๆส่องดูแทบจะทุก “ราศี”ที่มีอยู่เนี่ยจะมีสักกี่ราศีที่มีเครื่อง “ทุ่นแรง” ในการทำมาหากิน หากใครสักคนเกิดพลัดหลงเข้าป่าแล้วมี “คันธนู”ติดมือพร้อม “ลูกธนู” ผมว่ามันอุ่นใจไปหลายขุมครับ เช่น การหากินคงพอจะไปแบบฉลุยด้วยอาวุธที่ว่า คาดว่าใครที่มี “คันธนูอยู่ในมือ”มักจะเป็นผู้ไม่ประสบกับความอดอยากเนื่องด้วยอาวุธที่มีอยู่นั่นเอง หากรู้จักทำมาหารับประทานจักได้มีอาหารที่เป็นเนื้อหนังมังสา “ที่มาจากธนูนั่นเอง”…
หันเหเร่เข้ามาสู่งาน ว่ากันตามนี้คือ หากใครที่เป็นผู้มีหน้าที่การงานแล้ว “ลักขณา”ดันไปตกในราศี “ธนู” ก็ให้มั่นใจได้เลยว่าเรานี่แหละเด็ดสุด ด้วยการที่เราเข้าประชุมด้วย “คันธนู”พร้อมลูกศรเต็มอัตรา “ใครซ่า” ต้องคิดหนักกันหน่อยเพราะขืนปล่อยให้เราหงุดหงิดเดี๋ยว “ปั๊ดเหนี่ยว”ซะดีมั้ง เห็นมั้ยหากจะคิดในทาง “บวก” เราก็โลดที่สุดใน “สามโลก” เป็นงาย…
มองดู “ความรัก”ที่มักจะลุ่มๆดอนๆตามที่เขาว่ากันแต่ว่าข้าฯคิดว่า “ความรักกับคันธนู” มักเป็นของ “คู่กัน” ก็ลูกธนูกับหัวใจใครๆก็เห็นกันมานานเนแล้วครับผม หรือใครเคยเห็น “หัวใจ”ไปอยู่กับอะไรเรื่องของ “ความรัก” หรือ “เทพคิวปิด”เคยถืออะไรแทนธนู เคยเห็นมะ ปืน, หอก, มีด หรือไม้หน้าสามไม่มีแน่นอน…แบบนี้ราศี “ธนู” มันจะโหลยโท่ยได้อย่างไร…?
กลับมามองความจริงของชีวิตในมนุษย์ธนู “ARROW MAN” หากวันนึงผมขับรถไปในที่ใดสักแห่งในเมืองไทยนี้ เกิดไปทำความรำคาญให้ใครสักคนแล้วเกิดจะต้อง “ออกกำลัง”กันขึ้น ถ้าจะเดี่ยวๆก็พอรับได้ “คือหนีทัน”ครับท่าน แต่หากมีสองหรือสามเข้ามาก็นึกถึง “พ่อแก้วแม่แก้ว”ได้เลย ไอ้ครั้นจะพกพาอาวุธหนักพวก “ปืนครก” หรือ “รถถัง” หรือกระทั่งพวก “ปืนไฟ” อย่างอดีตก็คงยาก เพราะว่า “หลังจากไพรรีหนีไปเราคงต้องคอตกเข้าคุก” ด้วยข้อหาพกพาอาวุธไปในที่ไม่สมควร เห็นมะเราจะลำบากเลย เพียงเรามี “คันธนูพร้อมลุก”ไว้แบบเพียงพอ…ลองนึกดูดีๆใครที่กำลังจะเข้ามาทำร้ายเราแล้วในมือเรามี “ธนู”ที่เป็นราศีเรา “โก่งอยู่”พร้อมปล่อยออกไป ถ้า”ไพรรี”นั้นตาไม่บอดหรือไม่เสพยาบ้ามาเต็มคราบเขาต้องคิดและไตร่ตรองในราศีของเรา…ผมว่า ปืนผาหน้าไม้มันไม่น่ากลัวเท่าราศีเรานี่แหละท่าน…
เรื่องของ “กฎหมาย”สบายโลดมันคือการ “พกพาอุปกรณ์กีฬา”ไปด้วยก็เท่านั้นเองแต่จะให้เนียนชาวราศีนี้พึงมีชุดนักกีฬา “ยิงธนู”พร้อมเป้าไปด้วยจะช่วยให้สบายใจขึ้นอีกโขนะ นี่คือเรื่องที่น่าจะคิดหรือทำในยามที่ใครเขาว่าเราไม่พุ่งหรือโปร่งในชีวิต การจะมาฟูมฟายหาไอ้นั่นมาปรับไอ้นี่มาปรุงดูแล้วมันจะยุ่งเข้าไปใหญ่ ดวงของชาวราศี “ธนู”หรืออีกหลายราศี “อริ”คือ “ความคิดที่จะตกต่ำ” หรือ “ถลำไปในที่อโคจร” หรือชอบไป “หนุนหมอนที่มิใช่ของเรา” ทั้งหลายทั้งปวงคือ “อริล้วนๆ”กันทุกคน…
…อย่าเครียดหรือวิตกไปตาม “ชะตา”ที่ใครเขาว่าไม่ดี เพราะในความห่วยแตกบางทีมันก็ยังมีอะไรซ่อนอยู่เหมือนกัน…ไอ้ที่ “ครูไก่”เขียนมาเพื่อความ “ฮา”โดยเฉพาะหรือท่านใดจะเอาไปใช้บ้างก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร…นะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างเราควรเขียนเองแล้วเดินตามมันไป ไม่ว่าจะระหกระเหิรไปในมุมใดของโลกเราก็คือ “ราศีธนู” ที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างเดียว อีกอย่าง “ธนู”ไม่เคย “พุ่งถอยหลัง”555…
โชว์นอกเหนือจากที่เขาเป็น
พอย่างเข้าสู่ “ปีจอ”พ่อก็ลำบากซะง้าน…หนึ่งในข่าวที่ใครๆติดตามกันแทบจะทุกนาทีก็ต้องเขาคนนี้ “คุณเสก” นักร้องที่มีทั้ง “เทพ”และ “อสูร” อาศัยอยู่ในร่างเดียวกัน จากศิลปิน ROCK ที่มีสาวกอยู่แทบจะทุกตำบลของประเทศ เค้าคนนี้อยู่ค้ำฟ้าในวงการยาวนานมากโขอยู่หากไม่รวมบรรดา “เพลงเพื่อชีวิต” อย่าง “น้าหมู” หรือ “ลุงหงา” และ “น้าแอ๊ด” เจ้าหมอนี่แหละคือของแท้ที่จะมีใครมาเทียบเคียงนักร้องผมยุ่งหนวดยาวกับแว่นดำได้…แต่ในช่วงหลายที่ผ่านมาพี่แกมีข่าวขึ้นหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์อยู่เนืองๆแล้วแต่ละเรื่อง “เฉียดคุกเฉียตะราง”ตลอด แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยที่เขาเป็น “เสก”นี่แหละ
แต่ที่โดนหนักโดนเต็มก็ดันไปทำอะไรที่ “ล่อแหลม”จริงๆภาพที่ออกมามันพาให้ใครต่อใครต้องระเห็ดไปคนละทิศละทาง ในมุมของครูไก่นะแค่ “10 ลูก” อย่างที่เห็นกันมัน “จิ๊บๆ” หากไม่แพร่ภาพไปในสื่อที่เป็น “สาธารณะ”อย่างที่เห็นไอ้เสียงปืนที่ว่า ถ้าไม่มีภาพก็เป็นเพียงเรื่องเล่ากันเท่านั้นเอง จะทำไปเพื่อเป้าประสงค์ใดก็ตามมันคือเรื่องที่ “ผิดกฎหมาย”ล้วนๆ ขอเอาใจช่วยให้เขาพ้นจากอบายทั้งปวงได้ในเร็ววัน…นั่นคงเพราะ “เพลง”ที่เขาร้องมันช่างกินใจครูไก่นัก… “ขอเพียงแค่ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงจุดหมาย” ไม่ผิดหรือถูกในเนื้อร้อง แต่ชอบมันจริงๆชอบทุกถ้วงทำนองและทุกอักษรของทุกบรรทัด…พอรู้ว่าเจ้าของเพลงนี้คือ “เสก โลโซ” ก็คิดไม่ออกว่า “ใครกันคือ “เสก โลโซ” ไม่รู้จักจริงๆ…
ในความชอบมันก็เรื่องนึง ส่วนเรื่องของชีวิตก็ว่ากันปาย…อยากจะบอกว่าเมื่อครั้งที่ครูไก่อายุราว 13-17 ขวบ บอกตรงๆทุกวันศุกร์ ผมต้องไปซื้อลูกปืน “ลูกซอง”แถวที่เขาขายกันนั่นแหละ ขนไปครั้งละไม่ต่ำกว่า 6 กล่องแล้วเป็นลูกแรงครึ่งล้วนๆเราเอาไป “ยิงนก”มาทำกินกันครับ เรื่องของ “บาปบุญ”ไม่เคยนึกถึง ทั้งเป็ดแดง นกแขวก หรือกระสา พวกนี้ล้วนเป็นชื่อหลักทั้งสิ้น ส่วนเรื่องการปลิดชีพก็ต้องตอนบินเท่านั้น สุดท้ายปลายทางก็จบที่เราคิดเอง เลิกเอง ตอนที่ “ลูกซองแฝด”คู่ใจเหลือเพียง ปะกับ และพานท้ายในการยิงครั้งสุดท้าย…ปืนแตกด้วยแรงขับของลุก “เบอร์ 4 แรงครึ่ง”…
นี่คือการจะเอาชีวิตต่อเพื่อนร่วมโลกครั้งสุดท้าย อะไรคงยังไม่อยากเอาชีวิตผมไปเวลานั้นแน่นอน คิดได้ก็หยุด หยุดแล้วใจสงบ สงบแล้วคิดได้ คิดได้ก็ทำได้ มันก็แค่นั้นเอง หากเอาภาพที่พวกเราเล่นกันเมื่อก่อนบอกได้เลย “คงติดคุกตะรางกันคนละหลายปี” แบบที่เห็น “เสก”ทำมันดูน้อยนิดเมื่อเทียบกันแล้ว แต่หวยมาออที่ “อา”ครูไก่เพราะกองปราบ “บุกจับ” พร้อมปืนกว่า 20 กระบอกแล้ว “เถื่อน”ล้วนๆ สุดท้ายก็ “เสวยคุก” อยู่นานสำหรับ “คุณอา”ครูไก่ ปัจจุบันก็เสียไปหลายปีแล้วครับ…
แบบนั้นคือเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับปืนผาหน้าไม้ เฉกเช่นเดียวกับ “เสก”หากเป็นเพียงต่างเวลาและสถานที่ ครูไก่ทำในขณะที่ “สติสมบูรณ์” 100% เพื่ออาหารและปากท้องของอีกหลายคนยิงได้ก็มีกิน พลาดก็อด ถึงแม้อายุจะละอ่อนนักก็คิดไว้ว่าควรหยุดสร้างเวรสร้างกรรมได้แล้ว ส่วนคนอื่นเมื่อใดคิดได้ก็หลุดจากบ่วงกรรมส่วนจะอีกนานเพียงใดครูไก่ไม่ทราบจริงๆครับ
ครูไก่ ลำพอง ดวงล้อมจันทร์