อมยิ้มริมกรีน

มหาบุรุษ แห่งโลกนี้

มหาบุรุษ แห่งโลกนี้

ในหลายวันที่ผ่านมา กับอีกหลายวันต่อไป ในโซเชียล เน็ตเวิร์ก ไม่ว่าสื่อใด ส่งต่อ ความระลึกถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ที่ใครก็กล่าว พระองค์คือพ่อของแผ่นดิน อยู่ตลอดเวลา

นอกเหนือจาก ภาพพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลชาคม ที่ชาวไทยพิราบไห้ทั้งแผ่นดิน ทั้งนอกนอกแผ่นดิน ยังมีพระบรมฉายาลักษณ์ บทเพลงพระราชนิพนธ์ ในรูปแบบต่างๆ ดังราวกับ “รีเวิร์ส”บรรยากาศเมื่อครั้ง ทั้งผองแผ่นดินไทย สุดอาดูรยามสิ้นพ่อ เมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา

ไม่ว่าเสียง ไม่ว่าภาพ สดับแล้วก็กระทบใจ น้ำตาลไหลริน ด้วยความรู้สึกโหยหา อาลัย ที่ต้องรับรู้ว่า พระองค์ทางเสด็จสู่สวรรคาลัยไปแล้วจริงๆ เมื่อพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้ผ่านพ้นไป

มีอยู่คลิปหนึ่ง ในไลน์ ไม่ทราบใครทำเผยแพร่ เป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงอยู่กับ สมเด็จย่าในพระอิริยาบถต่างๆ ยามที่สมเด็จย่าทรงชราแล้ว

มีพระสุรเสียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ทรงกล่าวถึงสมเด็จย่า (เข้าใจว่า อยู่ในส่วนหนึ่งของพระราชดำรัส ในวันที่ “5 ธันวามหาราช” ปีที่ สมเด็จพระราชนนี เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ทรงได้กล่าวถึง สมเด็จย่า ให้พศกนิกรชาวไทย ได้รับฟัง)

พระองค์ทรงเล่าถึง สมเด็จย่าก่อนที่จะสวรรคต ว่าคณะแพทย์ได้กราบบังคมทูลก่อนหน้าบ้างแล้ว ด้วยพระอาการมิอาจจะหาหนทางรักษาอย่างไรได้ พระองค์ทรงเล่า..ทรงเฝ้าอยู่ที่เตียง สมเด็จย่าสวรรคตอย่างมีความสุขและสงบ ด้วยมีลูกสองคนและหลานที่สมเด็จย่ารัก อยู่เคียงข้าง จับพระหัตถ์ ส่งเสด็จ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ทรงเล่าว่า..ก่อนหน้านั้นเป็นสิบปี สมเด็จย่า ตรัสกับพระองค์ว่า..แม่แก่มากแล้ว อย่างไรก็ต้องถึงวันจากไป แม่ไปแล้ว อย่าร้องไห้ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของสังขาร..

พระองค์ทรงเล่าว่า..เมื่อครั้งสมเด็จพระราชชนนีสวรรคต ทรงเสียพระทัย ทรงกรรแสง ก็เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกัน

หากสิ่งหนึ่งที่พระองค์ดีพระทัย..คือ ทรงได้รับรู้ว่า สมเด็จย่า ได้รับความนับถือ ความรักมากมายแค่ไหน จากพศกนิกร

คลิปนี้ ผมดูสามครั้งติดๆ สะอื้นน้ำตาไหลทั้งสามครั้ง..จะดูอีกกี่ครั้ง ก็น้ำตาไหล คิดถึง โหยหาเหลือเกิน

ผมส่งคลิปนี้ ไปยังคนที่ผมรัก ไปยังคนที่ผมรู้ว่า เขารักในหลวงรัชกาลที่9 ของเขา ..และเชื่อว่า ไม่ว่าใครก็ต้องสะอื้นไห้ไม่ต่าง

ด้วยไม่ต้องอธิบาย อะไรอีกแล้ว..

โลกทั้งโลก ประชากรโลกทั้งโลก ย่อมรับรู้..ไม่มีพศกนิกรชาติใดในโลก ที่จะแสดงความรัก โหยหา อาลัย และรวมใจส่งเสด็จ กับพระองค์ผู้ทรงจากไป ได้ดั่งปรากฏการณ์ที่เกิดเมืองไทยได้อีกแล้ว

ประเทศใดๆในทั้งโลก ที่อยู่ในระบบ monarchy มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อเห็นภาพปรากฏการณ์ในเมืองไทย อาจตระหนัก..ทำอย่างไรที่จะให้พศกนิกรของแผ่นดินแห่งตน รักและเทิดทูน ได้เช่นนี้บ้าง

คงเป็นโจทย์ที่ปฏิบัติได้ยากเย็นสาหัส และอาจเป็นไปไม่ได้

ด้วยเพราะ ทั้งโลกนี้ ไม่มี “พ่อแห่งแผ่นดิน”อย่างที่คนไทยได้เคยมี

พระองค์ตรัส เมื่อครั้งสมเด็จย่าสวรรคตว่า ทรงเห็นพศกนิกร รัก นับถือ เทินทูน สมเด็จย่าเพียงไร ก็ทรงดีพระทัย

หากกาลนี้ วันนี้ เมื่อถึงวาระแห่งพระองค์…โลกทั้งโลก ค้อมอาลัย ยิ่งกว่าใครที่เคยมีมา

เพียงคนไทย แค่ได้เกิด ได้เติบโต ในแผ่นดินรัชสมัยของพระองค์ จนมาถึง วันที่ได้ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย..

น้ำตาไหลจับจ้องแสงเปลวพระเพลิงฉายฉาย ณ.พระเมรุมาศยามรัตติกาล พุ่งพวยควันคลีสู่สวรรค์..

ก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นยิ่งแล้ว พระเจ้าข้า

ยอดชาย ขันธะชวนะ