คอลัมน์ในอดีต

สายใยสองภพ : ความรักใต้ลำน้ำโขง

ความรักใต้ลำน้ำโขง

ตะวันคล้อยต่ำลงจนเกือบมิดดวง ลำน้ำโขงวันนี้ช่างดูเงียบเชียบกว่าปกติ เรือที่เคยแล่นผ่านไปมาแทบไม่ได้ยินเสียง น่าแปลกจัง…หญิงชรารำพึงกับตัวเอง…ยังไม่ทันไรเสียงเจ้าจุกก็ดังขึ้น ยายครับๆ…หยุดหอบ แล้วพูดต่อเพราะวิ่งกระหืดกระหอบแทนการเดินซึ่งเป็นนิสัยประจำของเจ้าจุก หน้าตาบ่งบอกถึงคำถามที่ฉงนสนเท่ ยายๆเขาพูดกันว่าวันนี้จะมีพญานาคขึ้นมาส่องจันทร์เหรอครับ เพราะเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง จริงๆรึยาย? หญิงชรายังไม่ทันให้คำตอบ เจ้าหางเปียก็วิ่งมาหยุดอยู่ข้างๆเจ้าจุกอีกคนหนึ่ง ชาวบ้านแถวโน้นเขาพูดกันว่า จะมีพญานาคมาเล่นน้ำตอนกลางคืนคืนนี้ เขาเตรียมอะไรไว้เซ่นไหว้กันด้วยนะจ๊ะยาย จริงรึเปล่ายายจ๋า?

หญิงชรา…เอามือลูบหัวเจ้าเด็กน้อยทั้งสองอย่างอ่อนโยน เจ้าอยากฟังกันจริงๆเหรอ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป๊ แล้วยายจะเล่าให้ฟัง สองหนูน้อยรีบกุลีกุจออาบน้ำปะหน้าทาแป้งขาววอก แต่ยังคงใส่ชุดเดิมมานั่งหน้าแป้น รอการบอกเล่าของหญิงชราด้วยใจจดจ่อ

หญิงชรา…ในดวงตายิ้มละไม ความทรงจำยังคงงดงามแม้จะเนิ่นนาน หญิงชรา..หลับตาลงแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจ

พญานาคเขามีบ้านเรือนอยู่ใต้พิภพของโลกมนุษย์เรานี่แหละลูก ลึกลงไปใต้ชั้นดินถึง 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร เขาเรียกว่าเมืองบาดาลเพียบพร้อมด้วยปราสาทราชวังอันแสนวิจิตรงดงามเพชรนิลจินดามากมาย เหมือนสรวงสวรรค์ มี 7 ชั้น คนโบราณมีความเชื่อกันว่าพญานาคเป็นเทพที่คอยปกปักรักษาวัดวาอารามและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนา ตามวัดส่วนมากจะสร้างพญานาคไว้ตรงบันไดทางขึ้นทั้งสองข้าง ตามหลังคาโบสถ์ ศาลา พญานาคเป็นเทพที่ใจบุญสุนทาน ชอบฟังธรรม ถือศีล พญานาคก็คือพระราชาของงู งูทั้งหลายเป็นบริวารของพญานาคซึ่งมีกายทิพย์ มีฤทธานุภาพฤทธิ์เดชมหาศาล สามารถจำแลงแปลงกายเป็นอะไรได้สารพัดตามแต่ปรารถนา คนโบราณยังเชื่อว่า สายรุ้งกับพญานาคเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ ข้างหนึ่งของรุ้งจะดูดน้ำจากพื้นโลกขึ้นไปข้างบน เมื่อถึงจุดสูงสุดก็จะปล่อยน้ำลงมาเป็นสายฝน ที่ลำตัวของพญานาคเสมือนท่อส่งน้ำ ลำน้ำโขงบ้านเรานี่แหละตรง เวินสุก มีกษัตริย์ล้านช้างซึ่งมีพระราชธิดา 3 พระองค์ ได้สร้างพระพุทธรูปล้านช้างที่งดงามยิ่งกว่าองค์อื่นๆนาม พระสุก พระเสริม พระใส ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่ประเทศสยามในสมัยรัชกาลสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จากภูเขาควาย โดยประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้าน เวินแท่น ก็เกิดสิ่งอัศจรรย์ แท่นของพระสุก ได้เกิดแหกแพจมลงไปในน้ำ โดยขณะนั้นมีพายุแรงจัด เสียงฟ้าคำรามคะนองลั่นบริเวณนั้น พระสุกก็จมดิ่งลงไปในลำน้ำโขง เสียงฟ้าฝนจึงสงบลง เหลือเพียงพระใสและพระเสริม ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริมถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง หลวงพ่อพระสุกจมลงไปบริเวณนั้นจึงเรียก เวินสุก ลงไปอยู่เมืองบาดาลใต้ลำน้ำโขงไปเป็นพระประธานให้เหล่าพญานาคกราบไหว้บูชา ปกิบัติธรรมทำความดี เหล่าพญานาคจึงมีองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ พระสุก นี่แหละลูก วันไหน ขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง หลังจากปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิเป็นทิพย์กษัตริย์และมเหสีของเหล่าพญานาคก็จะขึ้นมาส่องแสงจันทร์เพื่อรับพลังแสงของพระจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ ชาวหนองคายถือว่าเราเป็นลูกหลานพญานาค ก็จะตระเตรียมของเพื่อถวายสักการะ ส่วนใหญ่จะเป็นบายศรีนะลูก คนทำบายศรีก็ต้องตั้งจิตมั่น และต้องเป็นคนปฏิบัติธรรม ซึ่งเขาจะมีของเดิมอยู่แล้วจึงจะทำได้สำเร็จไม่ใช่ใครๆก็ทำได้ เมื่อสักการะเสร็จก็จะต้องนำบายศรีไปลอยน้ำโขง โปรยข้าวตอกดอกไม้ จะเป็นดอกไม้อะไรก็ได้ แล้วแต่ใครจะศรัทธาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ส่วนยายก็เตรียมบายศรีคารวะ จุกไปเก็บดอกบัวหลวงที่บานแล้วริมคลอง ส่วนเจ้าเปียไปเก็บดอกมะลิหลังบ้านนะลูก ยายจะไปตัดใบตอง คืนนี้ยายจะพาหลานทั้งสองทำพิธีคารวะท่านปู่พญานาคราช และท่านย่าพญานาคี เมื่อท่านทั้งสองขึ้นมาส่องจันทร์

มณีจันทร์ฉาย