Special Report

โปรกอล์ฟนานาชาติโชว์ผลงานเด่นบนเวทีพีจีเอทัวร์ปีนี้

โปรกอล์ฟนานาชาติโชว์ผลงานเด่นบนเวทีพีจีเอทัวร์ปีนี้
โดย Jim McCabe

การแข่งขันกอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ ในปี 2025 พิสูจน์ให้เห็นฝีมือของยอดโปรกอล์ฟจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก พาเหรดทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์บนแผ่นดินอเมริกา

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนถึงสัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายน มีการชิงชัยไปทั้งสิ้น 39 รายการ และมีการผสมผสานที่ลงตัวและน่าประทับใจ โดยมีนักกอล์ฟ 14 คน จาก 11 ประเทศ ครองแชมป์ไปเกือบครึ่งหนึ่ง คือจำนวน 18 รายการ หรือคิดเป็น 46 เปอร์เซ็นต์ และเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนท์ใหญ่หลายรายการ

ทำให้นึกถึงคำพูดของแกรี่ เพลเยอร์ ตำนานนักกอล์ฟชาวแอฟริกาใต้ที่ว่า “กอล์ฟเป็นกีฬานานาชาติและทุกคนต่างก็รักกีฬาชนิดนี้ หากต้องการเผยแพร่กีฬากอล์ฟให้เป็นที่นิยม การมีคู่แข่งถือเป็นเรื่องดี”

เริ่มต้นด้วยปีทองของ รอรี่ แม็คอิลรอย กับการคว้าแชมป์รายการ เอทีแอนด์ที เพ็บเบิลบีช โปร-แอม, เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ และเดอะ มาสเตอร์ส ที่เพ็บเบิลบีช, ทีพีซี ซอว์กราส และออกัสตา เนชั่นแนล ตามลำดับ กลายเป็นปีที่น่าจดจำที่สุดสำหรับโปรกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือรายนี้ ที่สำคัญชัยชนะในเดอะ มาสเตอร์ส ทำให้แม็คอิลรอย จารึกชื่อเป็นนักกอล์ฟคนที่ 6 เท่านั้นในประวัติศาสตร์ที่ทำแคเรียแกรนด์สแลม ครองแชมป์เมเจอร์ครบ 4 รายการได้สำเร็จ ต่อจาก จีน ซาราเซน, เบน โฮแกน, แกรี่ เพลเยอร์, แจ็ค นิคลอส และไทเกอร์ วูดส์

นอกเหนือจากความสำเร็จของแม็คอิลรอย ยังมีผลงานไฮไลต์ของนักกอล์ฟจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกในเวทีการแข่งขันพีจีเอ ทัวร์ ดังนี้:

• การแข่งขันรายการ เดอะ เจเนซิส อินวิเตชันแนล ที่ย้ายจากสนามริเวียร่า มาจัดที่ทอร์เรย์ ไพน์ส ในปีนี้ ผู้ชนะคือ ลุดวิค โอเบอร์ก โปรดาวรุ่งจากสวีเดน

• ทอมมี่ ฟลีตวูด นักกอล์ฟจากอังกฤษ สมหวังคว้าแชมป์ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งไม่เพียงเป็นชัยชนะครั้งแรกของเขาในพีจีเอทัวร์ แต่ยังเป็นชัยชนะที่โชว์ฟอร์มได้ดีกว่า สก็อตตี้ เชฟเฟลอร์ ตัวเต็งรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2025 ด้วยสกอร์ 64-63-67-68 จบสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 262 เอาชนะ แพทริค แคนท์เลย์ และรัสเซลล์ เฮนลีย์ 3 สโตรก และเหนือกว่า เชฟเฟลอร์ 4 สโตรก

• การเปิดฉากการแข่งขันเฟดเอ็กซ์คัพเพลย์ออฟ ปี 2025 กลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงแห่งปีของ จัสติน โรส โปรกอล์ฟวัย 45 ปีจากอังกฤษ ที่แสดงให้เห็นฝีมือว่ายังมีดีอีกมาก เมื่อเขาเอาชนะ เจ.เจ. สปอน ดีกรีแชมป์ยูเอส โอเพ่น และผงาดคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์ เซนต์จูด แชมเปียนชิพ มาครอง ซึ่งเป็นแชมป์ครั้งที่ 12 ของโรส แต่เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

• การแข่งขันรายการ วัลสปาร์ แชมเปี้ยนชิพ ปีนี้จัดขึ้นที่สนามที่ขึ้นชื่อว่าท้าทายที่สุดในฟลอริดา นั่นคือสนามคอปเปอร์เฮด ที่อินนิสบรูค รีสอร์ท และเมื่อ วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ โปรกอล์ฟคนดังจากนอร์เวย์ คว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้ โดยแซงชนะจัสติน โธมัส ในหลุมสุดท้าย บรรยากาศฉลองชัยจึงเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

“ผมประสบปัญหาในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ดังนั้นการกลับมาคว้าแชมป์สำเร็จอีกครั้งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากสำหรับผม มันแสดงให้เห็นว่าเกมกอล์ฟเป็นเกมกีฬาที่แปลกประหลาดมาก” ฮอฟแลนด์ กล่าวหลังคว้าแชมป์

กอล์ฟเป็นเกมกีฬาที่แปลกประหลาดมาก? ให้บอกเรื่องนี้กับ ไรอัน ฟ็อกซ์ โปรกอล์ฟวัย 38 ปีจากนิวซีแลนด์ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันน่าทึ่ง ก่อนได้ทัวร์การ์ดลงแข่งในพีจีเอทัวร์ ในฤดูกาล 2024 และลงเล่น 67 รายการโดยไม่ชนะเลย และจากนั้นมาได้แชมป์ 2 รายการภายในเดือนเดียว

ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เขาคว้าแชมป์ วันไฟลท์ ไมร์เทิลบีช คลาสสิค  ด้วยดวลเพลย์ออฟเอาชนะแม็คเคนซี่ ฮิวจ์  และ แฮร์รี่ ฮิกส์ จากนั้นอีกหนึ่งเดือนต่อมา ฟ็อกซ์ ซึ่งมีบทเรียนในการรับมือกับความกดดันในรอบเพลย์ออฟ ทำให้จัดการทุกอย่างได้ดีเอาชนะ แซม เบิร์นส ในการแข่งขัน อาร์บีซี แคนาเดียน โอเพ่น

“ผมมีความสุขมากกับแนวทางการเล่นของผมในวันนี้” ฟ็อกซ์กล่าว เขาทำเบอร์ดี้ที่หลุม 14, 15 และหลุม 18 พาร์ 5 ส่งผลให้ได้ไปเพลย์ออฟลุ้นแชมป์ “อะไรก็เกิดขึ้นได้ในเกมกอล์ฟ และผมโชคดีมากพอจนมาเข้าทางผม”

ฟ็อกซ์ เข้าใจดีกับคำกล่าวที่ว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้” เพราะตลอดอาชีพนักกอล์ฟ เขาลงเล่นในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นส่วนใหญ่  ห่างไกลจากการเป็นโปรกอล์ฟที่มีชื่อเสียง ความสำเร็จในดีพีเวิลด์ ทัวร์ ช่วยให้เขาได้เข้าร่วมแข่งขันในพีจีเอ ทัวร์  และตอนนี้ชนะมาแล้วสองรายการและสามารถวางแผนตารางการแข่งขันได้แตกต่างจากที่เคยจัดการมาเกือบทั้งชีวิต

แต่ไม่ใช่ว่านักกอล์ฟทุกคนจากอีกซีกหนึ่งของโลกต้องรอคอยยาวนานเหมือนกับฟ็อกซ์ ยกตัวอย่างเช่น คาร์ล วิลิปส์  โปรกอล์ฟน้องใหม่ของพีจีเอ ทัวร์ จากออสเตรเลีย ที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด วิลิปส์ คว้าโอกาสจากเวทีการแข่งขันที่จัดตรงกับรายการใหญ่ของพีจีเอทัวร์ ในกรณีนี้คือรายการเปอร์โตริโก โอเพ่น โดยทำสกอร์ 64-63-67-68 ชนะคู่แข่ง 3 แต้ม คว้าแชมป์สำเร็จในการลงเล่นเพียง 3 รายการเท่านั้น

การ์ริค ฮิกโก้ นักกอล์ฟชาวแอฟริกาใต้วัย 25 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่วิลิปส์ เอาชนะได้ ก็ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วเช่นเดียวกับวิลิปส์ โดยย้อนกลับไปในปี 2021 ฮิกโก้คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์แรก ในรายการพัลเม็ตโต้ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามคอนการี ซึ่งเป็นการลงแข่งในพีจีเอทัวร์ รายการที่ 3 ของเขา ส่วนแชมป์ที่สองของเขาเกิดขึ้นในปีนี้และเป็นทัวร์นาเมนท์ที่จัดแข่งตรงกับรายการใหญ่ที่สนามโคราเลส ปันตาคานา ในสาธารณรัฐโดมินิกัน

ในช่วงต้นฤดูกาล โปรกอล์ฟนานาชาติเปิดฉากด้วยชัยชนะของผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง ฮิเดกิ มัตสึยาม่า จากญี่ปุ่น (เดอะ เซนทรี) และ นิค เทย์เลอร์ จากแคนาดา (โซนี่ โอเพ่น ที่ฮาวาย) ที่มารวมกับแชมป์ของ รอรี่ แม็คอิลรอย, ลุดวิก โอเบิร์ก, วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์, เซปป์ สตรากา (เดอะ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, เดอะ ทรูอิสต์ แชมเปียนชิพ) และแม้แต่ มิน วู ลี (เท็กซัส ชิลเดรนส์ ฮุสตัน โอเพ่น) ส่วนชัยชนะของ โทมัส เดทรี (ดับเบิลยูบีเอ็ม ฟีนิกซ์ โอเพ่น), คาร์ล วิลลิปส์, การ์ริค ฮิกโก้, ไรอัน ฟ็อกซ์ และ อัลดริช พอตกีเตอร์ จากแอฟริกาใต้ (ร็อคเก็ต คลาสสิก) ล้วนเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจและมาแบบไม่ตั้งตัว

ช่วงท้ายฤดูกาลเป็นคิวของสองนักกอล์ฟมากประสบการณ์จากอังกฤษมาสร้างสีสันแสดงฝีมือส่งท้าย จัสติน โรส โชว์ความเก๋าคุมเกมคว้าชัยในการแข่งขันเฟดเอ็กซ์คัพ เซนต์จู้ด แชมเปี้ยนชิพ ศึกเพลย์ออฟสนามแรก สองสัปดาห์ถัดไป ทอมมี่ ฟลีตวูด ผู้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนกอล์ฟชาวอเมริกันที่พาเหรดตามให้กำลังใจโปรกอล์ฟจากเมืองเซาธ์พอร์ตรายนี้

“พวกเขายอดเยี่ยมมาก” ฟลีตวูด กล่าวถึงแฟนกอล์ฟชาวอเมริกันที่ตามเชียร์ให้กำลังใจ และเสริมต่อว่า “ผมรู้สึกซาบซึ้งใจ ผมโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา มันยอดเยี่ยมมาก และการได้รับการสนับสนุนแบบนั้นเป็นเรื่องที่พิเศษมาก และผมก็ไม่อยากเสียมันไป”

เหตุการณ์แบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นกับฟลีตวูด ท้ายที่สุดแล้ว แฟนกีฬากอล์ฟชาวอเมริกันก็เหมือนกับแฟนกีฬากอล์ฟทั่วโลก พวกเขารักผู้ชนะ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นักกอล์ฟจากนานาชาติรู้สึกสบายใจเมื่อลงแข่งขันในพีจีเอทัวร์

ภาพ : Getty Images
เรื่อง : Jim McCabe