ครั้งแรก 144 คนของ Thailand LPGA Tour
ครั้งแรก 144 คนของ Thailand LPGA Tour สิ่งดีๆ น่าจะเกิดตามมา
ต้องร่วมบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ทัวร์นาเมนท์ของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ของประเทศไทย
รายการ SINGHA-NSDF Bangkok Ladies Championship 2025
ชิงเงินรางวัล 1.5 ล้านบาท
ที่จัดแข่งขันระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม พ.ศ.2568
ณ สนามวิเตอร์มิลล์ กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท พาร์ 72 ระยะ 6,284 หลา
มีนักกอล์ฟสตรีร่วมแข่งขันถึง 144 คน เป็นนักกอล์ฟอาชีพ 106 คน และเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น 38 คน
โดยสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี มีอายุ 18 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งมา
รายการนี้ได้รับการสนับสนุนการแข่งขันจาก กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, การกีฬาแห่งประเทศไทย, สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และสนามกอล์ฟวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดนครนายก
เป็นการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม จบการแข่งขันสองวัน 36 หลุม ตัดตัวผู้เล่นเหลือ 50 คน และเสมอ โดยไม่รวมนักกอล์ฟสมัครเล่น เข้าไปเล่นในรอบวันสุดท้าย ผู้ที่ทำคะแนนเกินวันละ 16 โอเวอร์พาร์ จะถูกตัดไม่ให้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไป
โดยผู้ชนะเลิศประเภทนักกอล์ฟอาชีพ จะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท
ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันในครั้งนี้ ได้แก่ อชิรญาณ์ ศรีวงษ์ “วันออน” เป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น ทีมชาติไทย อายุ 16 ปี จากจังหวัดเลย เป็นมือสมัครเล่นที่มีแรงกิ้งสะสมโลกอันดับ 39
ด้วยสกอร์ 16 อันเดอร์พาร์ (67,64,69) รับแค่ถ้วยรางวัล
ส่วนเงินรางวัล 200,000 บาท เป็นของโปร นันทิกานต์ รักษาชัฎ วัย 31 ปี จากกรุงเทพฯ จบสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ (68,69,67)
การแข่งขันครั้งนี้ ฟ้าฝนเป็นใจ ปลอดโปร่งทั้งสามวัน ไม่ต้องหยุดทำการแข่งขันให้เสียเวลา เป็นไปตามกำหนดการณ์ทุกประการ
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพทุกระดับทั่วโลก ทั้งชายและหญิง การที่มีผู้เล่นครบ 144 คน ถือว่าเป็นการเต็มทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะการแข่งขันจะแบ่งออกเป็นรอบเช้ารอบบ่ายรอบละ 72 คน จัดกลุ่มออก 3 คน ใช้เวลาระหว่างกลุ่ม 10 นาที แต่ละรอบจะแบ่งนักกีฬาออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 36 คน กลุ่มหนึ่งออกฝั่งหลุม 1 และอีกกลุ่มออกฝั่งหลุม 10 นักกีฬาของรอบเช้าและบ่ายจะข้ามฝั่งกันด้วยเวลาพอดีที่กลุ่มสุดท้ายของแต่ละฝั่งเริ่มออก กลุ่มแรกของอีกกลุ่มหนึ่งจะมาต่อพอดี และพอกลุ่มสุดท้ายของแต่ละกลุ่มในภาคเช้าผ่านหลุม 1 และหลุม 10 ไป นักกีฬาในภาคบ่ายก็จะออกตาม ด้วยเวลาที่พอดี ไม่มีให้นักกีฬามาคอยกัน
ต้องขอแสดงความยินดี และชื่นชม กับคุณอานันต์ เผือกพิบูลย์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี และคุณษาริณี เล็กสุวรรณ เลขาธิการฯ และคณะกรรมการทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทกับการบริหารสมาคมและจัดการแข่งขัน เปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ๆ และนักกีฬาต่างชาติได้เข้ามาเล่นในทัวร์นาเม้นท์ จัดกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับการพัฒนานักกีฬากอล์ฟสตรีไทยอย่างเต็มที่ อาทิ การแข่งขัน คัลเลอร์ ทัวร์ (รอบคัดเลือกวันจันทร์)ชิงเงินรางวัล และเปิดคลีนิคพิเศษในน้องๆนักกอล์ฟเยาวชนในโครงการพัฒนาทีมชาติ ได้ออกรอบเรียนรู้เทคนิคกับโปร ร่วมทั้งการทำโครงการส่งเสริมนักกีฬาที่มีศักยภาพอย่างเต็มระบบครบวงจรที่เรียกว่า Thai Domestic Power
และต้องขอขอบคุณ สปอนเซอร์ หลักที่สนับสนุนเงินรางวัลและการจัดการแข่งขันที่ได้มาตรฐาน ได้แก่ กองทุนพัฒนากีฬาชาติ, การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สิงห์ คอร์เปอร์เรชั่น และสนามกอล์ฟทั้งหลาย
ก็หวังว่า ประวัติศาสตร์ หน้าใหม่ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ผู้ใหญ่ที่สนับสนุนอยู่แล้วเพิ่มเงินรางวัลให้สูงมากขึ้นกว่าเดิม ในปีต่อไป รวมทั้งมีผู้สนับสนุนรายอื่นๆ เพิ่มการสนับสนุนเข้ามา เพื่อให้เป็นอาชีพสร้างรายได้กับนักกีฬาอย่างแท้จริง สามารถเกิดความมั่นใจในการเลี้ยงดูครอบครัวและเลี้ยงชีพตัวเองได้
และแน่นอนว่า นักกีฬาจะมีทุนในการฝึกซ้อม และการเดินทางต่อเนื่องไปในทัวร์นาเม้นท์ที่มีเงินรางวัลสูงขึ้น ถึงระดับ LPGA นานาชาติ และเป็นการสร้างรายได้ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
“เล่าเรื่องเก็บตก เม้ามอย หลังทัวร์นาเม้นท์”
ช่วงรอรับรางวัล ได้เข้าไปดื่มกาแฟ และได้พูดคุยกับผู้ปกครองหลายๆ คน ที่มีลูกเป็นนักกอล์ฟอาชีพอยู่แล้ว
มีท่านหนึ่งถามว่า ลูกสาวผมเป็นอย่างไร ชอบเล่นกอล์ฟไหม มีผลงานเป็นอย่างไร
ผมก็ตอบว่า ชอบเล่นครับ แต่ผลงานตามสภาพที่พ่อไม่มีเวลาทุ่มเทให้ เพราะติดตาม “อาโป”เสียมากกว่า
ซึ่งผมก็อธิบายว่า จะไปเริ่มเอาจริงเมื่อตอนอายุ 13 ที่ต้องตีแท่นขาวเท่าๆ กับนักกอล์ฟอาชีพ ช่วงเด็กๆ ก็ไม่ไปทุ่มเทมาก เพราะรู้ว่าตอนโต ตอนเป็นนักกอล์ฟอาชีพต้องใช้เงินมาก เดี๋ยวน้ำมัน น้ำเงินหมดก่อนจะยุ่ง ผมทำนักกีฬา“อาโป” มาแล้วรู้ดีว่าต้องใช้เงินมากขนาดไหน
ผู้ปกครองท่านหนึ่งที่อยู่ข้างๆ กล่าวเสริมขึ้นมา “ดูอย่างผมครับ พาลูกไปแข่งขันจูเนียร์เวิด์ล มา 7 ปี ตั้งแต่ 7 ขวบ และรายการอื่นๆ ในเอเซียอีก ขายห้องแถวไป 1 ห้อง ขายที่แปลงหนึ่งแล้ว หมดเงินรวมๆ น่าจะร่วม 10 ล้านบาท หลงระเริงกับผลงานของลูกตอนเด็กๆ ตอนนี้ครอบครัวผมหมดเงินแล้ว ไปต่อไกลไม่ได้ ”
ได้ยินแล้วก็จุกอก ซึ่งก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้ยิน ผลได้ยิน และได้เห็นอีกหลายครอบครัว ที่ไม่ได้แตกต่างจากครอบครัวนี้ และก็พยายามถ่ายทอดให้บรรดาลูกศิษย์ และสาธารณะอยู่ตลอดว่า อย่าเพิ่งทุ่มเทกับเด็กๆ แบบสุดโต่ง เอาแค่พอดีๆ เพราะตอนโตถ้าจะต้องใช้เงินอีกมาก
“ประสบการณ์ ฝีมือ ถ้วยรางวัล ที่ดีตอนเด็ก ไม่ได้การันตีความสำเร็จได้ในอนาคต”
“เราแค่เก่งกว่าคนอื่นในขณะที่เขายังไม่ได้เอาจริงกันแค่นั้น”
“ของจริงมันอยู่ตอนที่ตีหมุดหลังสุด มันอยู่ที่ตอนคนเก่งๆ หลายช่วงอายุมารวมกันต่างหาก”
โปรเชาวรัตน์ เขมรัตน์





