Interview

อมฤตา ศิริไชย

อมฤตา ศิริไชย
รองผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์และทะเบียนผลิตภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจ TCP
“ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้น”

FROM HERE YOU CAN GO EVERYWHERE :
เรียนมาทางเภสัช และมีโอกาสทำงานครอบคลุมผลิตภัณฑ์ยา สมุนไพร อาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพ ตอนเรียนที่คณะเภสัชศาสตร์ มหิดล อาจารย์ผู้ก่อตั้งคณะเภสัชศาสตร์ มหิดล อาจารย์ประดิษฐ์ หุตางกูร เคยกล่าวไว้ว่า “FROM HERE YOU CAN GO EVERYWHERE” เพื่อนในรุ่น จบมาก็ไปทำงานที่หลากหลาย ในอุตสาหกรรมยา ธุรกิจส่วนตัว จนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ นักวิจัย อาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ฯลฯ เป็นบทพิสูจน์คำพูดของอาจารย์ประดิษฐ์ว่าเป็นเรื่องจริงการเรียนเภสัช ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วย เรียนจบต้องไปใช้ทุนสองปี คิดว่าตัวเองมีเป้าหมายจะไปทางสายธุรกิจ จึงย้ายไปทำงานบริษัทยา แล้วไปเรียนต่อ MBA ที่อเมริกา กลับมาก็อยากทำทางด้าน FMCG (Fast-MovingConsumer Goods : สินค้าอุปโภค บริโภค ที่เคลื่อนไหวเร็ว) จนได้เข้าร่วมงานกับบริษัทชั้นนำของสวิสเซอร์แลนด์และอยู่ยาวนานมากกว่า 20 ปี เราได้โอกาสที่ดีมากในการพัฒนาสายอาชีพการงาน กับองค์กรที่เป็น MNC (Multi-nationalCompany) ได้ไปทำงานในขอบเขตงาน Regional ประจำที่สิงคโปร์เป็นระยะเวลา 4 ปี ทำให้ได้ประสบการณ์ที่กว้างขึ้นอีกมาก

เด็กราชินี :
สมัยเรียนประถม เพื่อน ๆ บอกว่า เป็นเด็กเรียบร้อย เงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด แต่เมื่อมองย้อนไป ก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเมื่อเทียบกับลูกชาย ตอนไปทำงานที่สิงคโปร์ เขาได้ตามไปเรียนที่นั่นด้วย จึงมีโอกาสเป็น Third culture kid (TCK) ได้มีเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ เมื่อมองตัวเราเทียบกับลูกก็พบว่าลูกเป็นคนกล้าคิด กล้าพูด มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ขณะที่เราเมื่อก่อนในวัยเด็ก พ่อแม่พูดยังไงก็ฟังไม่ค่อยจะคิดต่าง แต่ถ้ามองที่ลูก เขาจะมีมุมมองของตัวเอง คิดนอกกรอบและทำในสิ่งที่เขามองว่าดีกว่า ทำให้เกิดความคิดต่อยอด ถึงแม้จะอาวุโสน้อยกว่า ทำให้ตัวเราเองก็ได้เรียนรู้จากลูก

พัฒนาทักษะ :
การได้ทำงานในองค์กร Multinational Company ช่วยให้เราได้ฝึกทักษะต่าง โดยเฉพาะ Critical Thinking (ทักษะการคิดวิพากษ์) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ สำหรับการเรียน การทำงานหรือการบริหารครอบครัว Critical Thinking ช่วยทำให้เกิดSynergistic Effect หรือผลของการทำงานร่วมกัน นำไปสู่การสร้างกรอบการทำงาน (Framework) เป็นความโชคดีที่ได้ทำในบริษัทสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์มายาวนาน จึงเรียนรู้กระบวนการทำงานและกำกับดูแลอย่างเป็นระบบ อีกทั้งการมีกรอบธรรมมาภิบาลที่เข้มแข็งช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอนทำงานก็ได้รับโอกาสให้ทำงานหมุนเวียนไปหลากหลายหน้าที่ คิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้เกิดการเรียนรู้หลากหลายด้าน ทั้งวิชาการ และการตลาด มองว่า ทักษะการตลาดเป็นพื้นฐานในการทำงานหลายๆด้าน การที่คุณจะนำเสนอตัวเอง ก็ต้องรู้ว่ามีจุดเด่นอะไร อยากจะทำให้คนมีภาพจำอย่างไร เหมือนกับการพัฒนาสินค้า จะมีกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงอันนำไปสู่การยอมรับ

เครียด แต่สนุก :
RA (Regulatory Affairs: ทะเบียนผลิตภัณฑ์) เป็นงานผสมผสาน ในเรื่องกฎหมาย ความเข้าใจในเรื่องอาหาร และการตลาดด้วย เนื่องจากมีประสบการณ์จากการได้ทำงานหมุนเวียนหลากหลายหน้าที่ ทำให้เข้าใจในเรื่องการตลาด เรื่องการควบคุมอาหารและยา ว่าฝ่ายการตลาดอยากขายสินค้าได้ ขณะที่ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) มีกรอบที่คอยควบคุมกฎหมาย คุ้มครองผู้บริโภค การเข้าใจหลายแง่มุม ทำให้สามารถสร้าง Win-Win Strategy ได้ เราจะทำอย่างไรถึงจะผสมผสานให้ลงตัว ทำให้เกิดการยอมรับจากในทีม เราทำงานสนุก ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วน่าจะเป็นงานค่อนข้างเครียด

TCP :
เห็นโอกาสในการทำงานกับบริษัทของไทย ช่วยพัฒนาองค์กรไทยให้สามารถจะเติบโตอย่างยั่งยืน พอได้มาร่วมงานกับกลุ่มธุรกิจ TCP มองว่า เรามีความคิดเห็นตรงกันในเรื่อง “Energizing a Better World for All” ทำยังไงถึงจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา ให้ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมไปถึงการดูแลโลกและทรัพยากรเพื่อส่งต่อสิ่งดีดีให้กับรุ่นลูกหลานต่อ ๆ ไป กลุ่มธุรกิจTCP เป็นองค์กรไทย ที่ให้ความสำคัญในเรื่อง การจัดการความยั่งยืน (Sustainability) แม้กฎหมายจะยังไม่บังคับให้เราทำในเรื่องของการจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคแต่กลุ่มธุรกิจ TCP ให้ความสำคัญและมีแผนการดำเนินงานในด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ การใช้พลังงานหมุนเวียนการจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการใช้ โดยการสร้างการตระหนักรู้กับทุกภาคส่วนให้นำกลับมาใช้หมุนเวียน รีไซเคิล ลดเรื่องการฝังกลบในหลุมขยะ ลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของการลดภาวะโลกร้อน โดยมีเป้าหมายไปด้วยกันว่า ต้องทำให้ อุณหภูมิโลก ในแต่ละปีเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศา เซลเซียส เป็นความท้าทายมากเพราะในปัจจุบัน มีการใช้ทรัพยากรไปเบียดบังรุ่นลูกรุ่นหลาน จึงเป็นโอกาสที่ทุกคน จะต้องทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นในองค์กร หรือแม้แต่ในบ้าน หรือการทำงานร่วมกันเป็นภาคีเครือข่าย แต่ละบริษัทมาทำงานร่วมกันผ่านสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย หรือ TBA (THAI BEVERAGE INDUSTRY ASSOCIATION) เป้าหมายของเราคือ ทำงานร่วมกัน โดยการประสานการทำงานกับภาครัฐ ในการกำหนดนโยบาย หรือ กฎหมาย ที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ของประเทศชาติ

ก้าวสู่เป้าหมายไปด้วยกัน :
เนื่องจากสมาชิกของสมาคมฯ ประกอบไปด้วยผู้ผลิตเครื่องดื่มและซัพพลายเออร์ของบรรจุภัณฑ์ ส่วนผสมต่าง ๆ ที่ใช้ในเครื่องดื่ม แต่ละคนจะมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย การที่เรามาทำงานร่วมกัน กำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน เพื่อที่เราจะประสานการทำงานกับภาครัฐ ประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละแขนง ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Continuous Delvelopment :
การเข้ามาทำงานในส่วนรัฐกิจสัมพันธ์และทะเบียนผลิตภัณฑ์ เป็นการทำงานที่เกี่ยวของกับภาครัฐ ถึงแม้จะเคยทำมาแล้ว แต่เป็นการขยายขอบเขตจากที่เคยทำมาตลอด ด้วยหลักการในการทำงานนั้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะทำกับหน่วยงานไหน ก็ต้องรู้ เข้าใจในบริบทขององค์กรนั้น ต้องอ่าน ต้องศึกษา เรียนรู้ว่าแต่ละแห่งมีเป้าหมาย หรือวางแผนอย่างไร เราในฐานะเป็นตัวแทนองค์กร หรือแม้แต่สมาคมฯ เราจะเข้าไปทำงานร่วมกันอย่างไร เพื่อให้ผลักดันโครงการสำคัญ ๆ มาช่วยของการพัฒนาประเทศชาติและโลกของเรา เพื่อให้เกิด Win-Win Strategy อันเป็นหลักคิดที่ใช้มาตลอด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ประสบการณ์การทำงานมากแค่ไหน แต่การได้ทำงานเพิ่มเติม ต่อยอดไปจากเดิม คุณต้องอ่าน ต้องสอบถาม มีการหาความรู้ใหม่ ๆ เป็นโอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะทุกอย่างคือการเรียนรู้

กิจกรรม :
สมัยเด็กไม่ได้เล่นกีฬา แต่เป็นนักดนตรีวงมโหรี เล่นไวโอลิน แล้วยังมีงานเย็บปักถักร้อย ที่โรงเรียนราชินี จะมีการให้บัตรเชิดชูเกียรติ ในเรื่องเรียนดี มารยาทงามหรืองานฝีมือ ก็ได้รับมา 3 – 4 ครั้ง มีคนบอกว่าเราสมาธิดี บางครั้งต้องอ่านงานวิชาการ ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมจะเป็นยังไง ก็อ่านงานได้ คิดว่าการได้ทำเรื่องเย็บปักถักร้อยในวัยเด็กมีส่วนช่วย และช่วงมัธยมเรียนสตรีวิทยา ได้ไปนั่งสมาธิวัดบวรนิเวศน์ฯ เหมือนเป็นพื้นฐานให้สนใจ และมีโอกาสต่อยอดในช่วงหลัง

ปฏิบัติธรรม :
พอทำงานไปสักพัก ได้อ่านหนังสือ “Rich Dad Poor Dad” คิดว่าอยากออกมาทำกิจการของตัวเอง ก็ออกมาทำงานส่งออกกับน้องชาย ได้ไปออกงาน ได้เจอผู้คนเยอะมาก จนได้สัมภาษณ์กับหนังสือเล่มนึง ได้คุยกัน แล้วเขาบอกว่าเพิ่งไปปฏิบัติธรรมที่วัดผาณิตาราม เกิดความสนใจก็สมัครเลย เป็นหลักสูตรของคุณแม่สิริ กรินชัย ชื่อหลักสูตร ‘พัฒนาจิตเพื่อให้เกิดปัญญาและสันติสุข’ ธรรมะ สอนให้เรามีสติ มี Self Awareness การตระหนักรู้ในตัวเอง ลดความผิดพลาดของเรา ในการอาจไปทำร้ายผู้อื่นด้วยวาจา ทำให้เวลามีปฏิสัมพันธ์กับใคร จะมีสติ มีเป้าหมาย ทำให้โฟกัสดี ล่าสุด ได้มีโอกาสไปปฏิบัติกับอาจารย์โกเอ็นก้า ซึ่งเคยได้ยินชื่อท่านมานานแล้ว จากการได้พูดคุยกับเพื่อนที่ทำงานเก่ง ๆ เขาก็ไปปฏิบัติธรรมกับท่าน แล้วเล่าให้ฟังว่า หลักปฏิบัติคือการนั่งสมาธิ หลักสูตร 10 วัน ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่มีเวลามากพอ จนกระทั่งเหมือนธรรมจัดสรร ได้คุยงานกับที่ปรึกษาท่านหนึ่ง เราก็ขอให้ส่งข้อมูลให้ แล้วลงทะเบียนเลย รู้สึกเป็นแนวทางที่ใช่ เรียกว่าเป็นทางสายเอกก็ได้ อยากเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว เป็นแนวทางเดียวกับที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ตอนนี้ก็พยายามจัดเวลาไปปฏิบัติปีละครั้ง

กีฬา :
ตอนเรียนสตรีวิทยา มีวิชาบาสเกตบอล อาจารย์เห็นหน่วยก้านแล้วอยากชวนไปเข้าทีม แต่เราไม่มีทักษะด้านกีฬาโดดเด่น เลยไม่ได้รับคัดเลือก จะมีออกกำลังกายประจำก็ว่ายน้ำที่คุณแม่พาไปพร้อมกับน้อง พอมาเรียนมหิดล กลุ่มเพื่อนที่อยู่ด้วย ไม่มีใครออกกำลังกาย แต่เคยออกค่ายอาสาฯ ได้ทำงานกับเพื่อนคณะต่าง ๆ ไปสร้างห้องสมุดให้กับชุมชนในภาคอีสาน ได้มาเล่นกีฬาจริง ๆ เป็นอย่างแรกก็คือเทนนิส หลังจากทำงานไปสักพัก ชอบอะไรที่มีความเร็วหน่อย เพราะเวลาทำงานบางครั้งมีความเครียด ถ้าได้หวดลูกบอลบ้างน่าจะช่วยได้ บังเอิญมีเหตุด้วย ตอนนั้นไม่สบาย เป็นไข้สมองอักเสบ เพราะภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี คุณหมอบอกว่า คนที่ภูมิคุ้มกันดีจะไม่เป็น ตอนนั้นไม่ได้ออกกำลังกาย พอดีสามีเป็นคนออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก เขาเล่นเทนนิส ก็เป็นจุดที่ทำให้ตัดสินใจเรียนเทนนิส เริ่มมาดูแลตัวเอง ได้เข้ายิมบ้าง ได้เล่นกีฬาบ้าง แล้วก็เล่นมาเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นกีฬาหลักที่เล่นมาตลอด

กอล์ฟ :
พอมาทำงานรัฐกิจสัมพันธ์ เห็นว่ากีฬากอล์ฟมีความสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ ทำให้รู้สึกว่าต้องไปฝึกบ้างแล้ว แต่ก็ล่าช้าไปเป็นปีเพราะมีงานติดพัน จนลูกชายมาจุดประกาย เขาไปเที่ยวญี่ปุ่น ซื้อเสื้อกอล์ฟมาฝาก แล้วบอกว่า “แม่พูดมาเป็นปีแล้ว แต่ยังไม่ได้เรียนกอล์ฟเลยนะ” จนรู้สึกว่า “ยอมไม่ได้” แบบนี้คงถึงเวลาที่ต้องเริ่มจริงจังแล้ว โชคดีที่เพื่อนร่วมงานเป็นอดีตนักกอล์ฟทีมชาติ ช่วยแนะนำโปรให้ พอเรียนไปได้หนึ่งเดือน ก็ไปงานกอล์ฟของ TBA ครั้งแรกก็รู้สึกกังวล เพื่อน ๆ ก็เชียร์ บอกว่าไปสนุกด้วยกันเถอะ และบอกว่า มีจับฉลากด้วย เผื่อได้รางวัล ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไร แรก ๆ เพื่อนร่วมก๊วน คิดว่าเราคงเล่นไม่จบ แต่ระหว่างออกรอบทุกคน ก็ช่วยเหลือกันเต็มที่ ให้กำลังใจตลอด ได้พาร์ครั้งแรกในชีวิตด้วย ทำให้สนุกมาก ทำไปทำมา เล่นจบโดยไม่รู้ตัว ทำให้คิดว่า คนเรา ‘ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้น’ และ ‘Encouragement is Oxygen to the Soul’

ชรา…อย่างมีคุณภาพ :
‘ชรา’ วันนึงต้องมาถึง หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะออกแบบชีวิตของเรายังไง ให้ไปถึงเป้าหมายนั้น ‘อย่างมีคุณภาพ’ ไม่เป็นภาระกับลูกหลาน ซึ่งวางแผนมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว การเรียนเภสัช ทำให้ได้ศึกษาเรื่องของโภชนาการด้วย รู้จักเลือกรับประทาน แม้บางครั้งมีตามใจปากบ้าง แต่การไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ ก็ช่วยเตือนให้ต้องระมัดระวัง เคยคิดว่าการออกกำลังกายหนัก ๆ แล้วจะกินตามใจปากได้ บางช่วงเล่นโยคะ 4 วันต่อสัปดาห์ แต่พอไปตรวจสุขภาพ ผลออกมา กลับไม่เป็นเช่นนั้น นี่คือการเตือนว่า การออกกำลังกายหนักอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีวินัย เรื่องอาหารควบคู่ไปด้วย รวมถึงการพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ เป็นการดูแลสุขภาพ ทั้งเพื่อตัวเอง และในแง่หน้าที่การงาน

มองโลกในแง่ดี :
ทำจิตใจให้เป็น Optimistic มองให้เป็นโอกาส ทำให้มีพลังบวก รู้สึกสนุกกับทุกอย่าง แม้บางครั้งอาจมีอุปสรรค ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต แต่เมื่อมองสิ่งนั้นเป็นโอกาส นำบทเรียนในอดีตมาทำความเข้าใจ นำปัญหามาแยกย่อย พิจารณารายละเอียด แล้วหาข้อสรุปว่า จะแก้ปัญหาสิ่งนั้นอย่างไร การมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี มีความพร้อมอยู่เสมอ ทำให้เรามีความสามารถ มีสมองทำงานได้ดี จะทำให้กระบวนการจัดการสิ่งต่าง ๆ นั้น สั้นลง เพราะเราสามารถจัดการทุกเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ