Interview

วันปีย์ สัจจมาร์ค

วันปีย์ สัจจมาร์ค
Managing Director
Golf Performance Solutions Co., Ltd.
“ต้องเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ต้องทำอะไรต่อ และจะทำอะไรอีก”

ทีมแชมป์ : ช่วงเรียนมัธยมในอเมริกาผมเริ่มเล่นกอล์ฟมาได้ประมาณ 1 ปีก่อนจะเข้าเป็นสมาชิกทีมกอล์ฟของโรงเรียนและทีมเราได้เป็นแชมป์รัฐเนวาด้า แต่ผมมีบทบาทในทีมน้อย แม้จะได้อยู่ในทีมแชมป์ แต่ผมกลับเป็นตัวสำรอง ได้โอกาสลงแข่งจริงน้อยมากทั้งที่พยายามแล้ว จนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองแล้วก็สรุปเอาเองว่า เราคงไม่ใช่คนที่เหมาะที่จะเดินเส้นทางนี้ นั่นจึงเป็นจุดที่ผมเลือกจะหยุดความฝันการเป็นนักกอล์ฟอาชีพ

Pain Point : ประสบการณ์ช่วงนั้นเป็นเหมือนบทเรียนที่ทำให้เข้าใจความรู้สึกของเด็กที่ไม่ได้ไปต่อ บางครั้งไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่ง แต่ณเวลานั้นเขายังเก่งไม่พอหรือเขาดันไปอยู่ในกลุ่มคนเก่งมากๆ ตัวเองจึงดูด้อย ผมท้อเพราะคิดว่า “ถ้าสู้เพื่อนในทีมยังไม่ได้ แล้วจะไปสู้ใครได้อีก?” พอเข้ามหาวิทยาลัยจึงไม่แม้แต่จะพยายามติดทีม ความรู้สึก ‘ท้อง่าย’ ที่ว่านั้น อาจเกิดจากการที่ไม่มีคนชี้แนะหรือให้มุมมองใหม่ๆ หากวันนั้นสามารถล่วงรู้อนาคตได้ว่า ให้พยายามต่อไปเพราะคนในทีมเราเก่งระดับโลกเพราะสุดท้ายแล้วเพื่อนในทีมมัธยมหลายคนได้เข้า PGA Tour และเราก็ไม่ได้แย่ แต่แค่ยังไม่ถึงเวลา อาจทำให้ผมไม่ยอมแพ้เร็วขนาดนั้นก็ได้

ทิชชิ่ง โปร : ระหว่างที่เรียนปริญญาตรีบริหารธุรกิจด้านการตลาดผมเข้าสู่เส้นทางการเป็นทิชชิ่งโปรโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่กลายเป็นจุดพลิกผัน เพราะเริ่มเข้าใจการสอน เข้าใจวงสวิง และเข้าใจหัวใจของการพัฒนากอล์ฟจริง ๆ ผมไปสอบใบประกาศ USGTF เพราะอยากท้าทายตัวเองว่า ‘เรามีความรู้พอไหม’ ซึ่งสอบยากมาก มีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ต้องสอนผู้บริหารระดับสูงขององค์กรที่ให้สอนทั้งคนตีไม่เป็นและแกล้งตีผิดๆเพื่อทดสอบว่าเรามองออกไหม วิธีแก้ทำยังไง แล้วเราต้องสอนให้เขาเข้าใจ จนสุดท้ายผมก็สอบผ่าน แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรกับใบประกาศนี้เลย จนกลับมาไทยแล้วเพื่อนขอให้ไปช่วยสอนชั่วคราว กลายเป็นว่าจากครูชั่วคราวกลายเป็นผู้ถือหุ้น และเดินสายนี้มาโดยไม่รู้ตัว

บทบาทในวงการกอล์ฟ : ผมโชคดีที่มีโอกาสทำงานในวงการหลายอย่างจึงทำให้เห็นกอล์ฟจากหลายมิติ ผมเคยเป็นผู้บรรยายกีฬากับ IBC, UBC, iTV, Truevisions เป็นผู้ประกาศข่าวกีฬาช่อง 7 เป็นพิธีกรรายการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนและอาชีพหลายรายการทั้งรายการในประเทศและรายการระดับโลกที่มาแข่งในบ้านเรา รวมทั้งได้เป็นผู้จัดรายการทีวี พิธีกรรายการทีวีและวิทยุและแน่นอนผู้ฝึกสอนกอล์ฟ โอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญในวงการและการมีเพื่อนๆในวงการกีฬากอล์ฟในทุกๆด้านของกอล์ฟทำให้เห็นว่า เราน่าจะทำอะไรบางอย่างที่มีผลกับวงการนี้ได้มากขึ้น ผมกับเพื่อนๆจึงก่อตั้ง “Golf Performance Solutions” หรือ GPS ขึ้นมา โดยมีแนวคิดสำคัญว่า เราอยากมีส่วนร่วมพัฒนาวงการกอล์ฟในบ้านเราในแนวคิดแบบเรา โดยเริ่มจากการรับจัดกิจกรรมกอล์ฟให้กับองค์กรต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพและจัดการแข่งขันที่ได้มาตรฐานสากล โดยสิ่งที่เราจะเน้นมากที่สุดในการพัฒนากอล์ฟก็คือพัฒนากอล์ฟเยาวชน

เพื่อพัฒนา : ปรัชญาการแข่งกอล์ฟเยาวชนของผมคือ ‘แข่งเพื่อพัฒนา’ แค่นั้นพอ จบ, วิธีที่ทำให้กอล์ฟในประเทศไทยเจริญขึ้น มีคำตอบชัดเจนนั่นคือ ‘เพิ่มประชากรกอล์ฟ’ แล้วทุกคนที่เกี่ยวข้องจะได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ‘เราอยู่ได้’ ทั้งหมด ตราบใดที่มีการเพิ่มประชากรกอล์ฟอย่างต่อเนื่อง

GPS Junior Tour จึงเกิดขึ้น “แข่งเพื่อพัฒนา” ไม่ใช่แค่ฝีมือ แต่พัฒนาในทุกด้าน ทั้งความคิด ความเข้าใจ ความรับผิดชอบ และมุมมองต่ออนาคต
เพราะผมเชื่อว่า ถ้าเราสร้างระบบที่ทำให้เด็กสนุก มีเป้าหมายชัดเจน และเข้าใจว่ากำลังพัฒนาอะไรอยู่ เด็กจะอยากอยู่ในระบบนี้ต่อ ซึ่งจะส่งผลให้ “ประชากรกอล์ฟ” เพิ่มขึ้น และทำให้ทุกภาคส่วนของวงการอยู่ได้ในระยะยาว

พีระมิด : เรามองว่า ยอดพีระมิดจะสูงได้ เมื่อฐานกว้าง, ถ้าฐานแคบ ไม่มีทางจะสร้างยอดให้สูงได้ ดังนั้นคุณไม่ต้องไปมุ่งในเรื่องสร้างปลายยอด ให้มุ่งเรื่องสร้างฐาน แล้วยอดปลายแหลมจะสูงเอง ฐานของเราไม่ใช่แค่เยาวชนฝีมือดี แต่ต้องรวมถึงเด็ก ๆ ทุกคนที่รักในกอล์ฟ เราต้องสร้างพื้นที่ให้พวกเขาเข้ามา แล้วระบบจะผลักดันพวกเขาไปสู่จุดที่เหมาะสมเอง
ถ้าฐานแคบ ยอดจะสูงได้อย่างไร? นักกอล์ฟสมัครเล่นและเยาวชนคือฐานสำคัญ และถ้าเริ่มจากเด็ก เขาอาจอยู่กับกอล์ฟได้ยาวนานกว่า

ต่อยอด : นักกอล์ฟเยาวชน ไม่จำเป็นต้องโตไปเป็นนักกอล์ฟอาชีพเสมอไป แต่พวกเขาจะเป็น “บุคลากร” ที่มีคุณภาพของประเทศและของวงการ เพราะกอล์ฟฝึกให้เขาตรงต่อเวลา ปลุกให้เขามีความมุ่งมั่น ฝึกให้เขาอดทน ฝึกให้เขาล้มแล้วลุกเป็น ฝึกให้เขามีวินัย ฝึกให้เขามีน้ำใจ เขาโตไปจะมีจรรยาบรรณ มีมารยาท เข้าใจชีวิต เข้าใจกีฬา และสามารถนำทักษะจากกอล์ฟไปต่อยอดได้ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นโค้ช ผู้บริหาร หรือแม้แต่ธุรกิจอื่น ๆ กอล์ฟเป็นเหมือนเครื่องมือพัฒนา ให้เขามีวินัย ความคิดเป็นระบบ และมุมมองที่กว้างขึ้น

เด็ก…ควรเป็นเด็ก : การแข่งขันระดับเยาวชน ควรเป็นการแข่งขันที่ได้ทดสอบฝีมือก็จริง แต่… ‘เด็กควรเป็นเด็ก’ ไม่ยึดเอาการแพ้ชนะเป็นเรื่องสำคัญเหมือนมืออาชีพ ไม่ใช่แค่แพ้แล้วรู้สึกล้มเหลว เด็กควรมีความสนุกสนานตามวัยของเขา ไว้เมื่อถึงเวลาอันสมควร ค่อยจริงจังตามวัยก็ได้ จะต้องมีโอกาสให้เขาเรียนรู้ ได้สนุกสนาน แล้วสิ่งที่สำคัญคือ เขาต้องเข้าใจว่า ‘ต้องทำอะไรต่อ’ เพราะถ้าไม่เข้าใจ เขาก็จะไม่ทำ ถ้า ‘เข้าใจแล้วไม่ทำ’ นั่นคือเขาเลือกเอง ว่าจะไม่เดินสายนี้ แต่ถ้า ‘เข้าใจแล้วทำ’ เขาก็จะเป็นหนึ่งคนที่ไปได้ถูกทางได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น GPS Junior Tour พยายามสร้างระบบที่เด็กได้พัฒนาในแบบที่เหมาะกับวัย การแข่งขันมีไว้ทดสอบฝีมือแต่ไม่ควรตัดสินคุณค่าของเด็ก เพราะเขายังอยู่ในช่วงที่ควรได้ลองผิดลองถูก ส่วนเขาจะเอาความรู้นั้นไปทำอะไรต่อ แต่ละบ้านต้องนำไปต่อยอดเอาเอง

เหมาะสมกับฝีมือ : เราแบ่งดิวิชั่นตามฝีมือ ไม่ใช่อายุ เพื่อให้เด็กแข่งในระดับที่เขามั่นใจ และมีโอกาสพัฒนาได้จริง ไม่ใช่แข่งไปท้อไป เพราะเจอแต่คนที่เก่งกว่า
การแบ่งกลุ่มแบบนี้ สะท้อนจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองในวัย 16 ที่เพิ่งเริ่มเล่นแล้วเจอแต่คนเก่งกว่า จนรู้สึกท้อ การได้แข่งในระดับที่เหมาะสม จะทำให้เด็กกล้าและอยากพัฒนาเพื่อขยับขึ้น มือใหม่แข่งกับมือใหม่ ในกลุ่ม Junior Varsity จนฝีมือกล้าแกร่งขึ้น มีกำลังใจ จึงค่อยไปแข่งกับกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่า ส่วนรางวัลต่าง ๆ เราไปกองรวมไว้ที่กลุ่ม Varsity เพราะไม่อยากให้ดองฝีมือไว้ อยากให้ผลักดันตัวเองขึ้นไปทันทีเมื่อพร้อม แล้วความเป็นนักกีฬาในตัวคุณ จะผลักดันให้ขึ้นไปเอง แต่ถ้าหากถูกกดอยู่ตลอดเวลา อาจไปไม่ไหวก็ได้ อย่างน้อยต้องให้มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองบ้าง

SAT – GPS Junior Tour : เราออกแบบ SAT-GPS Junior Tour ให้มีทั้ง World Ranking, สิทธิ์คัดเลือกไปแข่งต่างประเทศ และระบบบันทึกสถิติเพื่อให้เด็กแข่งกับตัวเอง มีเป้าหมายที่วัดผลได้ ไม่ใช่แค่ชนะหรือแพ้ เด็กควรได้ภูมิใจกับพัฒนาการของตัวเอง ไม่ต้องชนะคนอื่น ก็ยังสามารถชนะสถิติของตัวเองได้ เช่น การพัตต์ การขึ้นกรีน การไดร์ฟ ความแม่น ฯลฯ ยังมีไฮไลต์อีกหลายอย่างที่นำมาสู้กันได้ มีอีกหลายจุดให้ชื่นใจ กอล์ฟเยาวชนควรเป็นอย่างนั้น ควรแข่งกับตัวเองจนกระทั่ง ‘แข็งแกร่งพอ’ แล้วค่อยไปแข่งกับคนอื่น
ปีนี้คือปีแรกที่ยากที่สุด รายละเอียดเราเยอะ ระบบเราไม่เหมือนคนอื่น แต่ถ้าได้มาลองแข่งด้วยตัวเองแล้วจะเข้าใจได้ดี และส่งผลดีในระยะยาวและนี่คือบรรยากาศที่เรากำลังสร้าง

ดูกอล์ฟให้เป็น : ผมมีความเชื่อว่า ถ้าผู้ปกครองมี ‘ความเข้าใจ’ กอล์ฟดีขึ้น จะสนับสนุนเด็กได้มีประสิทธิภาพ ถูกวิธีมากขึ้น ผมจึงจัดอบรมให้กับผู้ปกครอง ให้ความรู้ความเข้าใจ พาเดินในสนาม ให้ ‘ดูกอล์ฟเป็น’ ไม่ได้บอกว่าผู้ปกครองต้องฝึกลูกเอง แต่อย่างน้อยต้องรู้ เป็นเหมือนผู้จัดการทีม ต้องเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ต้องทำอะไรต่อ และจะทำอะไรอีก ต้องมีโร้ดแมพที่เหมาะสมกับวัย ถ้าผู้สอน ‘ผิดขั้นตอน’ ไม่ตรงกับสิ่งที่ควรจะเป็น ต้องคุยกันได้ว่านี่ ‘ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ’ หน้าที่ของผู้สอนคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องกอล์ฟ แต่เราคือผู้หวังดี เป็นสปอนเซอร์ เป็นผู้จัดการทีม โร้ดแมพต้องเป็นไปตามแผนของเรา แต่จะกำหนดได้ชัด ก็ต่อเมื่อเรา ‘รู้กอล์ฟ’ ถ้าไม่รู้ เขาว่ายังไงก็ต้องว่าตาม

ความแตกต่าง : อย่างเด็กผู้ชายและผู้หญิง โจทย์ไม่เหมือนกัน เพราะผู้หญิงอายุในการเล่นอาจสั้นกว่า พอถึงเวลามีครอบครัว กอล์ฟจะเริ่มห่างหายหรือเลิกไปเลย ขณะผู้ชายจะมีอายุกอล์ฟยาวนานกว่า แต่ถ้าเป็นทุนจากมหาวิทยาลัย ผู้หญิงจะมีโอกาสได้มากกว่าผู้ชาย ทำให้เราเริ่มเห็นภาพมากขึ้น หากจะไปเส้นทางนี้ และความท้าทายในแต่ละขั้น แต่ละวัย ต้องเหมาะสม จะให้ซ้อมหนัก โดยมีความเชื่อว่า ‘ขยันแล้วเก่ง’ ซึ่งไม่จริงเสมอไป, เด็ก 7 – 8 ขวบ กล้ามเนื้อยังน้อย ร่างกายยังไม่แข็งแรงเพียงพอ ไม่ควรไปใช้งานหนักขนาดนั้น ควรใช้แค่พอประมาณ แล้ว ‘พัก เพื่อโต’ มากกว่า มิเช่นนั้นเด็กสมัยนี้จะเจ็บไวขึ้นจากการฝึกซ้อม ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรจะเจ็บ ซึ่งสมัยก่อนไม่ค่อยมีอาการบาดเจ็บรุนแรงแบบนี้ เราต้องเข้าใจว่า เด็กผู้หญิงและผู้ชายต่างมีช่วงเวลาที่ต่างกัน การพัฒนาร่างกายก็ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนจะขยันแล้วเก่งทันที จึงไม่ควรฝึกหนักเกินวัย เราส่งเสริม “ฝึกอย่างมีคุณภาพ” มากกว่า “ฝึกเยอะ”

ซ้อมน้อย ได้ผลเยอะ : กอล์ฟเป็นกีฬา ‘ทำซ้ำ’ จะมีอาการเสื่อมที่เดิม ถ้า ‘ทำมากไป ด้วยวัยน้อยไป’ จะเจ็บ เขาไม่ควรจะเล่นเยอะขนานนั้น เดี๋ยวนี้ไม่มีใครมายืนตีทั้งวันเหมือนยุคก่อนแล้ว ไม่ควรทำด้วย มีแต่ผลเสีย เพราะเราเข้าใจวิทยาศาสตร์ทางการกีฬามากขึ้นว่าร่างกายคนเรารับขนาดนั้นไม่ไหว ต้องได้คุณภาพการฝึกซ้อมที่ดีกว่านี้ ในปริมาณน้อยลงกว่านี้ ซ้อมน้อยลง ไม่ได้หมายถึงเลิกซ้อม แต่เป็นการ ‘ซ้อมอย่างมีคุณภาพ’ คนเล่นเก่ง คนทุ่มเท เป็นเรื่องดี แต่ต้องมีขีดจำกัดที่เหมาะสม แล้วเมื่อถึงวัยที่จะรับความหนักได้เพิ่มขึ้น ค่อยเติม ตอนนี้กระดูกยังอ่อน ก็ค่อย ๆ ว่ากันไป

สนับสนุนใคร? : คำถามของผมคือ จริง ๆ แล้ว คนที่ต้องการความช่วยเหลือคือใคร? ผมไม่ได้มองจากมุมของคนที่เป็นเลิศ แต่ผมมองภาพนี้… มีประตูหนึ่งบาน ให้เด็ก 100 คนยืนเตรียมพร้อม พอเป่านกหวีดส่งสัญญาณ ให้วิ่งสุดกำลัง คนที่วิ่งทะลุประตู 3 คนแรกคือผู้ชนะ, แน่นอนว่า 3 คนแรกที่วิ่งผ่านไปได้ มีสปอนเซอร์มารองรับ ทุกคนต่างอยากสนับสนุนผู้ชนะ… แล้วอีก 97 คน ที่กองอยู่ข้างประตูล่ะ? ส่วนนึงอาจจะเลิกวิ่งไปก่อนตั้งแต่แรก เพราะคิดว่าสู้ไม่ได้ แต่พวกที่คาอยู่ขอบประตู น่าสนใจที่สุด เพราะเขาสู้มากแล้ว เพียงแต่วันนี้สู้ไม่ได้ คนเหล่านี้ต่างหากที่ต้องการความช่วยเหลือ เราจึงน่าจะสร้างระบบเพื่อรองรับคนกลุ่มที่พยายามเต็มที่แล้ว แต่ขาดอีกนิดเดียว เพราะกลุ่มนี้อาจจะชนะ3 คนแรกก็ได้ในที่สุด เมื่อมีเวลาพัฒนาให้เขาเพียงพอและได้รับการสนับสนุนที่ดี แล้วถ้าย้อนไปที่เรื่องสร้างประชากรกอล์ฟ คุณสร้าง 97 ย่อมดีกว่า 3 เพราะกลุ่มแรกยังไงก็มีคนมาอุ้ม กลุ่มใหญ่ต่างหากที่ต้องดันให้ขึ้นไปอีก เพราะอีก 5 – 10 ปีผ่านไป เขาอาจประสบความสำเร็จมาก ๆ ก็เป็นได้ เหมือนกับที่เราเห็นนักกอล์ฟระดับโลกในวันนี้ ที่ย้อนหลังไปแค่ไม่กี่ปี เราไม่รู้จักเขาเลย เพราะเขาอาจรอเวลาที่เหมาะสมอยู่ เราไม่ควรให้ความสนใจแค่คนที่วิ่งเข้าเส้นชัย 3 คนแรก แต่ควรสร้างเด็กอีก 97 คนที่กำลังพยายามอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ไปถึงควบคู่ไปด้วย เราสร้างระบบเพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสอีกครั้ง เพราะเราเชื่อว่า “กำลังใจและระบบที่ดี” จะทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนเก่งได้ และเด็กเหล่านี้แหละ คืออนาคตของวงการกอล์ฟไทย นี่คือบทเรียนจากชีวิตผมโดยตรง และคือสิ่งที่ SAT-GPS Junior Tour อยากเป็น – ระบบที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง