เชฟฟ์เลอร์ รับไม่สามารถอธิบายซีซั่นที่ยอดเยี่ยมของตนเองได้
เชฟฟ์เลอร์ รับไม่สามารถอธิบายซีซั่นที่ยอดเยี่ยมของตนเองได้
เจ้าของกรีนแจ็คเก็ตในฐานะแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก รวมถึงการเป็นคุณพ่อครั้งแรกในชีวิตและถูกตำรวจจับครั้งแรก นับเป็นปีที่ สกอตตี เชฟฟ์เลอร์ ยอดนักกอล์ฟชาวอเมริกันจะไม่มีวันลืมหลังจบซีซั่นด้วยการคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ ที่ทำให้ซีซั่นนี้เป็นฤดูกาลที่เยี่ยมที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษของเขา
“ถ้าคุณสามารถอธิบายเรื่องทั้งหมดได้ในประโยคเดียวก็ถือว่าเยี่ยมไปเลย” เชฟฟ์เลอร์ กล่าวหลังคว้าชัยชนะ 4 สโตรก ใน เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นแชมป์ที่ 8 ของปี “เนื่องจากผมไม่คิดว่าผมจะสามารถทำได้”
การแข่งขันรอบสุดท้ายที่ อีสต์เลก ในแอตแลนตานั้น ในช่วงต้น ๆ เชฟฟ์เลอร์นำการแข่งขันถึง 7 สโตรก กระทั่งไปทีช็อตเกือบออกโอบีที่หลุม 7 และออกโบกี้ จากนั้นไปตีแช็งค์ที่หลุม 8 พาร์ 4 สั้นเสียอีกโบกี้ ทำให้สถานการณ์ที่นำห่างเหลือนำหน้า คอลลิน มอริกาวา เพียง 2 สโตรกเท่านั้น
กระทั่งหลุม 9 พาร์ 3 ซึ่งเป็นหลุมยากที่ทั้งสัปดาห์มีเพียง 9 เบอร์ดี้เท่านั้น เชฟฟ์เลอร์ ทีช็อตด้วยเหล็กสี่ขึ้นไปออนห่างธง 5 ฟุต และขึ้นไปทำเบอร์ดี้แรกจากทั้งหมด 3 เบอร์ดี้ติดกันที่ทำให้เขาจบรอบสุดท้าย 4 อันเดอร์พาร์ 67 คว้าแชมป์ถ้วยเฟดเอ็กซ์คัพ พร้อมเงินรางวัล 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“สิ่งที่ผมพยายามทำคือตีช็อตให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้” เชฟฟ์เลอร์กล่าว “และในปีนี้ ผมสามารถทำแบบนั้นได้ค่อนข้างบ่อย”
ชัยชนะทำให้ในฤดูกาลนี้ เชฟฟ์เลอร์ คว้ารายได้จากการแข่งขัน รวมถึงโบนัสจากเฟดเอ็กซ์คัพไปทั้งหมด 62.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นับเป็นปีที่ผลงานเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่ ไทเกอร์ วูดส์ เคยชนะ 8 รายการในปี 2006 ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการคว้าแชมป์ 6 รายการติด และเป็นชัยชนะในรายการเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 รายการ
ส่วนชัยชนะ 8 รายการของ เชฟฟ์เลอร์ นั้นรวมถึงรายการอย่าง เดอะ มาสเตอร์ส ที่ออกัสตา, เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปียนชิพ, เหรียญทองโอลิมปิก และแชมป์เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ ที่ทำให้ในที่สุดเขาสามารถคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพมาครองได้
นอกจากนั้น การคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ 7 รายการยังนับว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ ไทเกอร์ เคยทำไว้ในปี 2007
“เมื่อมองย้อนกลับไปในฤดูกาล 2024 แน่นอนที่สุดว่านี่เป็นผลงานส่วนบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว” รอรี แม็คอิลรอย กล่าว
อดัม สกอตต์ ซึ่งจบอันดับสี่ร่วมบนตารางเฟดเอ็กซ์คัพ โดย สกอตต์ เทิร์นโปรในปี 2000 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของ ไทเกอร์ ไม่อายที่จะเปรียบเทียบผลงานที่ เชฟฟ์เลอร์ สร้างขึ้นนั้นมาจากผลงานที่ค่อนข้างสม่พเสมอ
“ผมคิดว่ามันเทียบเท่ากับยุคที่ยอดเยี่ยมของไทเกอร์” สกอตต์กล่าว “ผมคิดว่าในทุกวันนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่ใครสักคนจะฉีกตัวเองไปจากกลุ่มนักกอล์ฟทั้งหมดเหมือนที่ สกอตตี ทำ ผมไม่ได้เห็นมานานแล้ว ผมคิดว่าสำหรับทุกวันนี้เป็นเรื่องทึ่ยากมาก”
ครั้งนี้เป็นปีที่สามติดต่อกันที่ เชฟฟ์เลอร์ เดินทางมา อีสต์เลก ในฐานะมือวางอันดับหนึ่ง นั่นหมายความว่าเขาสะสตาร์ตทัวรนาเมนต์ด้วยสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ และนำการแข่งขัน 2 สโตรก
ทว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จากที่เขานำ 6 สโตรกก่อนเข้ารอบสุดท้าย แต่ต้องแพ้ให้กับ รอรี แม็คอิลรอย
ในสองฤดูกาลหลังสุด เชฟฟ์เลอร์ เป็นนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของพีจีเอทัวร์ หรือ พีจีเอทัวร์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ แต่ต้องจบซีซันโดยปราศจากถ้วยรางวัลเฟดเอ็กซ์คัพ ซึ่งเขาบอกว่า “เป็นการส่งท้ายปีที่รสชาติแย่มาก”
เชฟฟ์เลอร์ ตั้งใจแน่วแน่ว่าในปีนี้จะไปเกิดขึ้นอีก แต่ก็เกือบประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจากสองสวิงที่แย่ที่หลุม 7 และ 8 จนเหลือนำหน้า มอริกาวา เพียง 2 สโตรก
อย่างไรก็ตาม หลังได้เบอร์ดี้ที่หลุม 9 เชฟฟ์เลอร์ มาตีช็อตแอพโพรชขึ้นไปออนห่างธง 3 ฟุตที่หลุม 10 ตามด้วยการลากเบอร์ดี้พัตต์ไลไม่ง่ายระยะ 15 ฟุตลงไปบนกรีนหลุม 11 พาร์ 3
“มันมักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ หลังจากที่เขาเสียโบกี้” มอริกาวา กล่าว “หลังจากนั้นเขาก็จะเริ่มทำสิ่งตรงข้าม เริ่มกลับมาตีช็อตที่ยอดเยี่ยม เป็นการกลับมามีสมาธิกับเกมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถสอนได้”
การนำของ เชฟฟ์เลอร์ กลับมาได้เปรียบคู่แข่งเป็น 5 สโตรก และหลังจากพัตต์อีเกิ้ลระยะ 15 ฟุตลงไปที่หลุม 14 ก็แทบจะฉลองได้ล่วงหน้า
ในฤดูกาลนี้ เชฟฟ์เลอร์ ลงเล่นพีจีเอทัวร์ 19 รายการ ซึ่งเขาจบการแข่งขันแบบไม่ติดท็อปเทนเพียง 3 รายการเท่านั้น และนอกจากแชมป์ 7 รายการแล้ว เขายังจบในอันดับสองอีก 2 รายการ
“เขาคือผู้ชายที่ใคร ๆ ต่างต้องการเอาชนะในทุกสัปดาห์” จัสติน โธมัส กล่าว “ผมไม่คิดว่าผู้คนจะเข้าใจว่ามันยากขนาดไหนเมื่อคุณถูกคาดหวังว่าจะต้องชนะ หรือเมื่อคุณเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ เป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าไปอยู่ในโซนเล็ก ๆ ของตัวเองได้ และพยายามไม่ฟังเสียงเหล่านั้น”
มอริกาวา มือวางอันดับเจ็ดที่เริ่มทัวร์นาเมนต์ตามหลังผู้นำ 6 สโตรก จบการแข่งขันรอบสุดท้าย 66 ทำสกอร์ต่ำที่สุดใน เดอะ ทัวร์ แชมเปียนชิพ ของเขาด้วยสกอร์ 22 อันเดอร์พาร์ 262 รับเงินรางวัลไป 12.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการจบอันดับสองบนตารางเฟดเอ็กซ์คัพ

			