Interview

รุจน์ สังข์แก้ว

รุจน์ สังข์แก้ว
“ถ้าไม่ผิด ก็ไม่มีการเรียนรู้”
“การเรียนรู้ ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียน คำสั่งสอน ไม่ได้มีแค่จากคำพูด”

เมื่อได้เล่นกอล์ฟ ทำให้ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ มีเพื่อนๆ เยอะแยะมากมาย สังคมกว้างขึ้น ช่วงนั้นเริ่มทำร้านอาหาร ทำเสื้อผ้า มีโอกาสได้ต่อยอดธุรกิจจากการแนะนำด้วยวิธีปากต่อปาก ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้นำกอล์ฟเข้ามาเป็นอาชีพโดยตรง เป็นแค่กิจกรรมเสริมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ

พอเล่นไปพักใหญ่ ก็รู้สึกว่าอยากเป็นโปร เพราะเห็นโปรตีแล้วลูกลอยไปได้ไกลๆ รู้สึกเหมือนลูกกอล์ฟมันเบา มีวงสวยๆ ตีดูเหมือนง่ายๆ ยิ่งพอได้รู้จักกับคนเก่งๆ มากขึ้น เริ่มตีดี ตีไกล หลายๆ คนให้คำแนะนำว่า น่าจะไปลองสอบโปรดูบ้าง จนตัดสินใจไปสอบเป็นทิชชิ่งโปรในโปรแกรมของ USGTF ตั้งแต่รุ่นแรกๆ สอบครั้งเดียวก็ผ่าน จังหวะนั้นธุรกิจเริ่มซบเซา ประกอบกับรู้สึกเบื่อๆ ในงานที่ทำ เพื่อนที่ไปสอบโปรด้วยกันก็ชักชวนให้ไปสอนกอล์ฟตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็สะสมประสบการณ์ในการสอนกอล์ฟ ระหว่างสอนก็พยายามขวนขวายเรียนรู้เพิ่มเติมในโปรแกรมพิเศษต่างๆ จากโปรที่มีชื่อเสียงบ้างเมื่อมีโอกาส…

ถ้าจะทำอะไรสักอย่างก็ต้องทำให้ดีที่สุด การแสวงหาความรู้เป็นสิ่งสำคัญ เมื่ออยากรู้ก็ต้องรู้ให้ถึงแก่น ไม่ว่าจะเดินทางไกลแค่ไหน ลำบากหรือเหนื่อยใช้เวลามากแค่ไหน ถ้ารู้ว่ามีใครที่พอจะถ่ายทอดความรู้ด้านกอล์ฟเพื่อพัฒนาความสามารถให้สูงขึ้น ผมก็จะไปร่วมเรียนรู้ด้วย

ช่วงนั้นมีสอนเยอะ ครูกอล์ฟถือว่าเป็นอาชีพที่ดีมาก เพราะเป็นกีฬาที่กำลังได้รับความนิยมในสังคม และยังได้เจอกับผู้คนดีๆ มากมาย ผมต้องสอนตลอดทั้งวัน บางวันเริ่มเจ็ดโมงเช้าไปจนถึงสี่ทุ่ม ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้เลย เมื่อมองย้อนกลับไปก็คิดว่า การที่มีคนเข้ามาให้เราสอนเยอะๆ คงจะมาจากเรื่อง ความจริงใจกับความตั้งใจ ประกอบกับการเตรียมทำการบ้านล่วงหน้าให้กับลูกศิษย์แต่ละคน ซึ่งมีความแตกต่าง หลากหลาย เช่น บางคนอ่อนแอเกินไป หรือแข็งแรงเกินไป บางคนก็มีความคิดแปลกๆ ทำให้การจะนำความรู้ที่เราศึกษามา ซึ่งมีแค่เพียงหลักการเดียว แล้วนำไปสอนคนที่มีความแตกต่างกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นย่อมทำไม่ได้ เราจึงนำหลักการที่ถูกต้องนั้นมาเป็นแนวทางในการสอน แล้วศึกษาเพื่อประเมินว่าแต่ละคนที่มาหาเรานั้นธรรมชาติของบุคลิกลักษณะ นิสัยใจคอ พื้นฐานทางร่างกาย ทักษะทางกีฬา เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งสิบคนก็สิบแบบ โดยวิธีการสื่อสารกับแต่ละคนเพื่อให้เข้าได้ผลตามที่ตั้งเป้าไว้นั้นก็เป็นเรื่องแปลก บางคนใช้คำพูดที่ถูกต้องกลับได้ผลลัพธ์ออกมาผิด ต้องพูดผิดๆ ก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาถูกก็มี แต่การเรียนการสอนทั้งหมดนี้ต้องอยู่ในหลักการที่ถูกต้อง เป็นที่ยอมรับว่าเป็นมาตรฐานสากล

ถ้าพยายามกันในชั่วโมงเรียนแล้วยังทำไม่ได้ ถ้าว่างผมก็จะไม่เดินไปจากเขา จะอยู่กับเขา มีการบ้านให้ได้ฝึกต่อ เมื่อเขามาซ้อม ถ้าผมว่างก็จะเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยดูให้ ลูกศิษย์แต่ละคนเราจะต้องทำบันทึกโดยละเอียดเลยว่าปัญหาของเขาคืออะไร เพื่อจะได้เตรียมตัวแก้ปัญหาให้ล่วงหน้า ทั้งจากที่เรียนมาเองปรึกษาเพื่อนๆ ผู้รู้ ค้นคว้าจากหนทางต่างๆ เพื่อทำให้เขาได้ผลลัพธ์ออกมาดี นั่นคือ เล่นกอล์ฟได้สนุก มีวงสวยตามเบสิคกอล์ฟที่ดี

ครั้งหนึ่งมีนักกอล์ฟชาวเกาหลี พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ มาอยู่ที่นี่ เขาเล่นกอล์ฟก็พอได้แล้ว แต่สกอร์ยังไม่ยอมลดลงตามที่ต้องการ คนนี้เราเคยเจอกันในสนามกอล์ฟในจังหวะที่ผมกำลังจะออกรอบพอดี ส่วนเขาก็มาเล่นกอล์ฟกับครอบครัวและเพื่อนๆ พอเขาเห็นผมก็เข้ามาถามปัญหาเกี่ยวกับกอล์ฟ ผมก็อธิบายให้คำตอบไป แล้วก็บอกว่าเราเป็นใคร สอนอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นผมก็สอนเขาจนสามารถไปสอบเป็นโปรที่เกาหลีได้สำเร็จ เขาจึงให้ความชื่นชมนับถือผมมากๆ และยังไปประชาสัมพันธ์ให้กับนักกอล์ฟเกาหลีด้วยกันอีก พาเพื่อนๆ มาเรียนกับผมโดยช่วยเป็นล่ามให้ขณะสอน

นักกอล์ฟเกาหลีมีความพยายามมาก อยากจะเล่นกับคนที่มีฝีมือเหนือกว่า ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ แต่ก็ชอบที่จะสู้โดยไม่กลัวว่าจะแพ้ เหมือนกับต้องการเรียนรู้วิธีการเล่นของคนที่ฝีมือดีกว่า เขาจึงชอบชวนเพื่อนๆ ให้ไปออกรอบกับผม ถึงจะแพ้มากกว่าชนะก็ยังชวนให้ผมไปเล่นด้วยตลอด เคยถามว่าทำไมถึงชอบเล่นกับคนที่เขาเอาชนะได้ยากๆ เขาก็ตอบว่า เพราะนั่นคือการท้าทายความสามารถที่แท้จริง

เมื่อสอนมาได้พักใหญ่ ผมก็โชคดีมากที่ได้รับโอกาสครั้งสำคัญจาก พี่อ๊อด (สุชาติ สุวรรณศรี) ผู้จัดการกอล์ฟทีมชาติไทยในสมัยนั้น ชักชวนให้เข้ามาร่วมดูแลทีมชาติ ครั้งแรกรู้สึกกังวล กลัวว่าจะทำไม่ได้ดี จึงพยายามเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ทำการบ้านเยอะ นักกีฬาของเรารุ่นนั้นก็มีฝีมือดีๆ เช่น พรหม มีสวัสดิ์, รณชัย จำนงค์ ฯลฯ รวมแล้ว 12 คน โดยผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาชาย

การดูแลทีมชาติสำคัญที่ทีมเวิร์ค เราจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลยหากปราศจากความร่วมมือกันตั้งแต่บนสุดคือผู้บริหารจนถึงคนปฏิบัติการลงมือทำ เด็กแต่ละคนจะมีทิฐิ บางคนคิดว่าเขาเก่ง ไม่จำเป็นต้องฟังเรา แต่จะไปฟังคนอื่น ซึ่งหน้าที่ของผมก็คือ จะหล่อหลอมเด็กแต่ละคนที่มีความแตกต่างเหล่านี้อย่างไร ให้มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อเป็นทีมที่แข็งแกร่ง

ผมอยู่ร่วมทีมกันเป็นเวลา 4 ปี ได้ผ่านการแข่งขันสำคัญทั้งซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ ปุตราคัพ ฯลฯ จนเมื่อคิดว่าถึงเวลาเหมาะสมก็เปลี่ยนบทบาท ไปสานฝันในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ หลังจากเลิกทำหน้าที่ในทีมชาติ นั่นคือการเป็นโปรแข่งในทัวร์ฯ

การที่คนเรามีความฝันนั้นเป็นเรื่องดี แต่การฝันแล้วไม่ทำคือการเพ้อเจ้อ  เมื่อฝันแล้วต้องทำ เราถึงจะรู้ว่า เราจะไปได้หรือไม่ได้ ทำก็ต้องทำให้จริง ทำให้ถึงที่สุด ต้องพิสูจน์เลยว่า ถ้าไปต่อไม่ได้จริงๆ คุณก็จะไม่มีข้อกังขาในใจหลงเหลืออีก แล้วเมื่อตั้งใจทำจริงๆ ทำจนถึงที่สุดแล้ว ก็จะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านั้น มีแต่จะดีขึ้น คนอื่นอาจจะทำนิดหน่อยก็ประสบความสำเร็จแล้ว แต่ถ้าเราไม่เก่งแบบนั้น แต่อยากจะประสบความสำเร็จ ก็ต้องทำให้มากกว่า ต้องใช้ความพยายามให้มากขึ้นไปอีก ซึ่งอาจตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอีกกี่เท่าของที่คนอื่นทำ

ผมเชื่อว่า ทั้งธุรกิจและกีฬา พรสวรรค์เป็นสิ่งที่ทุกคนมีติดตัวอยู่แล้ว แต่พรแสวงคุณต้องมีให้มากกว่านั้นอีก เบื้องหลังนักกีฬาเก่งๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่างที่คุณอยากเป็นอย่างเขานั้น ต้องย้อนกลับไปดูว่า ทำได้อย่างเขาหรือไม่ ซ้อมมากแค่ไหน ซ้อมอย่างไร เพราะการซ้อมอย่างเดียว ไม่มีตารางโปรแกรมฝึก ไม่มีวิธีการซ้อมที่ถูกต้อง ซ้อมไปมากแค่ไหนก็ไม่เกิดผล ต้องรู้จักวิธีการซ้อมแบบ Smart ไม่ใช่แค่ Hard การซ้อมที่ถูกวิธีต้องเหมาะสม ไม่ใช่การซ้อมหนักแค่เพียงอย่างเดียว ต้องมีวิธีแบ่งการซ้อมในรูปแบบต่างๆ ให้ครบถ้วน ถึงจะเกิดประโยชน์ เกิดผลลัพธ์ที่ดีออกมาให้เห็น

แต่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพของผมก็ต้องยุติไปเร็วกว่าที่คาดไว้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องเลิกเล่นกอล์ฟระดับแข่งขันไปเลยก็คือ ผมเล่นฟิตเนสแล้วหัวเราะ! เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว เพราะมีอยู่วันหนึ่งผมกำลังยกน้ำหนักบริหารไหล่ด้วยน้ำหนักที่มากพอสมควร แล้วจังหวะนั้นเหลือบไปเห็น พรหม มีสวัสดิ์ ซึ่งเล่นฟิตเนสอยู่ด้วยกัน กำลังวิ่งบนสายพาน พร้อมกับใส่หูฟังเปิดเพลงไปด้วย เขาคงสนุกกับการออกกำลังและเพลินกับเพลงจังหวะสนุกๆ แต่ภาพที่ผมเห็นคือเด็กหนุ่มตัวอ้วนๆ กำลังเดินเร็วๆ พร้อมกับส่ายหัวตามจังหวะไปด้วย ท่าทางเขาในตอนนั้นทำให้ผมอดขำไม่ได้จนต้องหัวเราะออกมา ซึ่งเป็นจังหวะที่ผมกำลังปล่อยน้ำหนักผ่อนเหล็กลงพอดี ทำให้กล้ามเนื้อด้านข้างลำตัวเกิดอาการผิดปกติ เริ่มเกิดอาการชา ต้องหยุดเล่น ออกมานั่นเอียงๆ จนนอนลงไปกับพื้น พยายามค่อยๆ ยืดเหยียดไปเรื่อยๆ จนคิดว่าตัวเองคงไม่เป็นไรก็ขับรถกลับบ้าน

พอวันรุ่งขึ้นอาการก็หนักขึ้นกว่าเดิม เดินไม่ได้ ก้มหยิบอะไรไม่ได้เลย ลงบันไดก็ต้องเกาะราวค่อยๆ เดิน จนต้องไปหาหมอเพื่อตรวจว่าเป็นอะไร จึงพบว่าเกิดจากกระดูกทับเส้นประสาทตรงสะโพก จากจังหวะที่หัวเราะตอนออกกำลังกาย ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ ว่าเกิดสาเหตุที่ดูเหมือนเรื่องเล็กๆ แต่ส่งผลอย่างมาก ก่อนหน้านั้นก็เคยล้มจากการเล่นฟุตบอลแล้วใช้มือค้ำจนข้อมือซ้น ก็ต้องหยุดเล่นกอล์ฟนานเกือบปี ทั้งๆ ที่ไปควอลิฟายทัวร์เกาหลีมาได้ พอพักจนหายเริ่มไปแข่งได้ ก็มาเกิดขึ้นอุบัติเหตุใหญ่อีกรอบ ทำให้ต้องตัดสินใจหยุดเล่นกอล์ฟแข่งขันอย่างถาวร

ระหว่างเล่นกอล์ฟ ผมก็ทำธุรกิจควบคู่ไปด้วย ผมชอบทานอาหารก็เปิดร้านอาหาร ชอบแต่งตัวก็ทำเสื้อผ้า ซึ่งเป็นสิ่งถนัดและใกล้ตัว แต่ระยะนั้นธุรกิจซบเซาจนการค้าขายก็ทรุดตามไปด้วย อาศัยว่าผมทำด้วยใจรักและเป็นการทำในช่วงสั้นๆ ตามฤดูกาลหรือเทศกาล เน้นความสนุกสนานและความชอบส่วนตัว ซึ่งไม่ว่าเศรษฐกิจบ้านเมืองจะดีหรือแย่ยังไง คนเราก็ต้องกิน ธุรกิจร้านอาหารยังไงก็ต้องขายได้ เพียงแค่เราปรับประเภท ปรับราคาให้เหมาะสมกับยุคสมัย ณ ขณะนั้น

ธุรกิจอีกประเภทที่ผมมองว่า สามารถจะสวนกระแสการตกต่ำของเศรษฐกิจได้ นั่นคือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพราะถ้าอยากจะขายได้ก็ต้องหาทางบอกให้ลูกค้าทราบ แล้วเราก็ทำแบบตามคำสั่งของลูกค้าเพื่อการประชาสัมพันธ์ เป็นการเสริมการขายของธุรกิจ จึงทำให้เราสามารถฝ่าฟันวิกฤติต่างๆ มาได้ และผมได้เข้ามาช่วยดูธุรกิจเสื้อผ้าของภรรยาซึ่งเคยทำแบบเล็กๆ ให้ขยับขยายขึ้น โดยภรรยาดูเรื่องฝ่ายผลิตและผมดูในเรื่องการบริหาร ติดต่อประสานงาน

จุดขายของเราคือ ความจริงใจกับลูกค้า จริงจังกับการทำงาน ทุ่มเทกับทุกงานที่เรารับมา สำคัญที่สุดคือต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าทำงานแล้วเราจะเป็นฝ่ายถูกเสมอไม่เป็นฝ่ายผิดเลย ธุรกิจของเราคงไม่อยู่มายาวนานขนาดนี้ ไม่ได้ทำผิด ก็ไม่ได้เรียนรู้ แม้บางครั้งเราจะถูกแต่ก็ต้องรู้จักทำใจ ช่วยแก้ไข แก้ปัญหาให้ลูกค้า แต่นั่นเป็นส่วนน้อยมาก เพราะลูกค้าของเราส่วนใหญ่เป็นลูกค้าชั้นดีมีความเข้าใจในสิ่งที่เราตั้งใจทำให้เป็นอย่างดี ซึ่งมักจะเป็นระดับองค์กรใหญ่ๆ ซึ่งมีอยู่เยอะมากพอสมควร

ในธุรกิจ ผมยังมองว่าตัวเองคือกรรมกร เป็นพนักงานคนหนึ่ง ที่ยังต้องทำงานหนัก มีหน้าที่หลากหลายบทบาท ช่วยกันประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด ฝ่าฟันมรสุมไปให้ได้ ยังมีความรับผิดชอบคอยช่วยเหลือ คอยดูแลพนักงาน ซึ่งก็เหมือนกับสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งของเรา คิดง่ายๆ ว่าถ้าเขาไม่ผ่านงานกับเรา จะให้ไปหางานทำที่อื่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดังนั้น เราต้องพยายามช่วยให้เขาทำงานกับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคนให้มีศักยภาพ มีฝีมือสูงขึ้น มีความรับผิดชอบสำนึกในหน้าที่ ถ้าเขาเป็นแรงงานคุณภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาและครอบครัวย่อมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วย

ผมได้เรียนรู้การใช้ชีวิตมาจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยได้มีร่วมก๊วนออกรอบ หรือติดตามไปในโอกาสต่างๆ ถึงแม้ท่านจะไม่ได้เอ่ยปากสั่งสอนเราโดยตรง แต่เราก็ได้เรียนรู้จากการสังเกต อากัปกริยาในเรื่องต่างๆ ทั้งการพูดคุย การวางตัว การเจรจาต่อรองทางธุรกิจ การใช้ชีวิต การบริหารคน แม้กระทั่งการพูดคุยโทรศัพท์ บางครั้งเหมือนไม่มีอะไรเลย แต่มันมีเสน่ห์อยู่ในนั้น อยู่ที่เราจะรู้จักหยิบเลือกมาใช้เมื่อไหร่ให้ตรงกับสถานการณ์ที่เราเจอ การเรียนรู้ของผมจึง เกิดได้ทุกที่ ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียน หรือคำสั่งสอน ก็ไม่จำเป็นต้องมาจากการรับฟังคำพูดโดยตรง

ส่วนการดูแลตัวเอง เพราะผมทำงานด้านเสื้อผ้า ทำให้ต้องรู้จักรักษาสุขภาพไปด้วย ผมอาศัยวิธีการเลือกประเภทอาหาร และออกกำลังกายบ้างในแบบที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย ไม่ให้หนักจนเกินไป เพื่อรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และถึงแม้จะเล่นกอล์ฟน้อยลงแต่ก็ยังได้เล่นอยู่บ้าง เล่นกอล์ฟเป็นกีฬาเพื่อสังคมตามโอกาส แต่ไม่ถึงขนาดกับต้องเล่นจริงจังเหมือนเมื่อก่อน

และสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์ได้ก็คือครอบครัว การจะใช้ชีวิตคู่ให้ราบรื่นได้นั้นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือความเข้าอกเข้าใจกัน ในการทำงานผมและภรรยาจะไม่เคยโทษอะไรกันเลย วันใดที่มีปัญหา เราก็จะมองหน้ากัน แล้วก็หัวเราะ แล้วก็ช่วยกันหาทางแก้ไข ไม่ต้องไปเสียเวลาเพราะมัวแต่ทะเลาะโทษกันไปโทษกันมา เราต้องเชื่อมั่นและศรัทราในตัวเขา และเขาก็ต้องคิดเช่นนี้กับเราด้วยเช่นกัน เมื่อทำแบบนี้ได้ ชีวิตคู่ของเราก็อยู่ด้วยกันแบบมีความสุขตลอดเวลาครับ