มองอดีตแล้วสงสารปัจจุบัน
มองอดีตแล้วสงสารปัจจุบัน
ว่าจะไม่เขียนถึงเรื่องฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกแล้วเชียว แต่พอมาเห็นฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทยเมื่อครั้งไปโรมรันพันตูกันที่ ‘เกาหลีใต้’ แล้วมันอดคิดไม่ได้ว่าทีมชาติไทยเราเก่งอย่างสกอร์ที่ออกมา 1:1 ทั้งๆ ที่เราไปเยือน แต่ก็อย่างว่าฟุตบอลลูกกลมๆ มีลมอยู่ข้างในอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนท่านใดจะสวนทีมไทยในช่วงไหนก็สุดแล้วแต่ บอกตรงๆ นะมีคนได้เงินได้ทองกันโขอยู่นะในสนามที่เราไปเยือนใครจะไปนึกว่าทีมเราจะเอาเสมอกลับมาได้และกับ 1 แต้มทองที่เราได้มามันดูว่าไม่มากมายแต่มูลค่าที่แท้จริงกลับซ่อนอยู่ภายใน โดยเฉพาะสมาคมฟุตบอลที่มีทีมชุดบริหารใหม่ถอดด้าม พอเราสามารถทำได้กระแสของวงการฟุตบอลก็กลับมาสดใสอีกรอบหลังจากผู้บริหารชุดเก่าทำเรื่องเสียหายไว้มากมาย…
แต่ก็อย่างว่า ‘คลาสฟุตบอลที่ห่างกัน’ มันกลับมาหลอกหลอนเราในการแข่งขันที่บ้านเรา ผมเองและอีกหลายๆ คนเกือบว่าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘เตรียมเข้าสู่บทพิสูจน์ที่แท้จริงได้แล้ว’ เพราะการที่เกาหลีใต้เสมอเราในบ้านเขานอกจากเขาจะเสียแต้มไปสองคะแนนเขาเสียหน้ามากกว่าคะแนนและสิ่งที่ตามมาคือการทำการบ้านให้หนักวิเคราะห์ทุกคนของเรา ศึกษาเราให้ได้มากกว่าเดิม ฯลฯ ผลที่ออกมาคือ ‘เหมือนคนละทีม’ กับเมื่อคราวที่แล้ว ส่งผ่านทำประตูมันดูเราเป็นห่างชั้นกันไปเลยครับ…
จากที่เราเสียสามประตูที่เกิดจาก 1 ประตูในครึ่งแรกและอีก 2 ประตูในครึ่งหลัง มันทำให้เราเห็นว่าการที่เกาหลีใต้เขาพัฒนาทีมฟุตบอลไปสู่อีกระดับหนึ่งได้นั้น มันมีปัจจัยอยู่หลายอย่าง เพราะในเวลาที่เขามีนักฟุตบอลที่เก่งกาจขึ้นมา พวกเขาเหล่านั้นไปปักหลักค้าแข้งอยู่ในต่างแดน แล้วส่วนมากไปค้าแข้งอยู่ในยุโรปอันเป็นทวีปที่บ้าบอลเป็นที่สุด ลองส่องกล้องดูก็ได้ว่าทีม ‘เกาหลีใต้ชุดนี้มีกี่ชีวิตที่ไปอยู่ต่างแดน’ แถมมาเป็นตัวจริงที่เป็นหลักของทีมอีกด้วย ดังนั้นกลับทีมไทยเราเขาสบายมากในยามนี้…
มองย้อนกลับไปราวๆ 40 ปี คำว่า ‘เอเชีย’ ใครเจอทีมไทยแล้วรอดยากมากเราเองเป็น ‘ตัวจัด’ ในคราวนั้นทีมทุกทีมในเอเชียเราจะเคี้ยวเมื่อไหร่ไม่ใช่เรื่องยากหากเราไม่มีลับลมคมในก่อนแข่งเราสบายมาก แต่พอเข้ายุคปัจจุบันทีมเราคือบันไดขั้นงามที่ทั้งทีมในตะวันออกกลางและเอเชียใต้เขาไปกันถึงไหนแล้วแต่เรายังคงถอยหลังกันแบบไม่ลดละเลยทีเดียว… เวลานี้ผมชอบดู ‘ฟุตซอล’ มากกว่า ‘ฟุตบอล’ เสียแล้ว มันคงเป็นเพราะผลงานของทีม ‘ฟุตซอล’ มันน่าลุ้นมากกว่านั่นเอง ทั่วโลกเราสู้เขาได้แบบไม่เกรงใจใคร แต่กับฟุตบอลมีความสุขกับอดีตไปก่อนอนาคตต้องรอกันอีกนานโขกันเลยทีเดียว…
ครูไก่