สัพเพฯ กอล์ฟ

เส้นทางโจร (1)

เส้นทางโจร (1)

คำว่า ‘เส้นทางโจร’ เท่าที่พอจะสืบเสาะจากคนเก่าคนแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่เรื่องใหญ่ที่จะทำให้คนธรรมดาสลัดชีวิตปกติมาใช้ชีวิตที่แปลกแยกออกไปส่วนมากก็มักจะโดนรังแกหรือกลั่นแกล้งจากสังคมหรือจากใครคนหนึ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถจะสู้รบปรบมือได้ สุดท้ายก็จะกระโดดเข้าป่าจับปืนออกมาจี้ปล้นเพื่อยังชีพ บางทีเรื่องแบบนี้มันเหมือน ‘นวนิยาย’ ที่ผู้แต่งบรรจงตวัดปลายปากกาในการสร้างเรื่องราวให้ได้อ่านหรือสร้างเป็นละครระเม็งสุดท้ายก็กลายเป็น ‘หนัง’ เข้าโรงบ้างกลางแปลงบ้าง แต่เชื่อว่าบรรดาเรื่องราวต่างๆ ที่เราได้ยินได้ทราบมาก็มักจะมีความเป็นจริงปะปนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

แต่เดี๋ยวนี้เส้นทางโจรกลับกลายมาเป็นการจัดตั้งแต่รุ่นกระเตาะเพียงเพราะให้ได้เกิดความยอมรับในสังคมที่ตัวเองสังกัดอยู่ ไอ้เรื่องแบบนี้ดูทีว่ามันจะไปกันใหญ่ลำพังเด็กมันฆ่ากันแกงกันสองคดีซ้อนๆ ในเวลาไล่เรียงกันก็แย่พอแล้ว แต่พอสืบสาวราวเรื่องดูความเป็นมาเป็นไปกลายเป็น ‘อั้งยี่ซ่องโจร’ เข้าให้ซึ่งไอ้เรื่องแบบนี้คงไม่แปลกที่บรรดากลุ่มคนที่เข้าไปร่วมวงกันทำกิจกรรมเหล่านี้เตรียมตัวเรียนรู้ที่จะออกไปเป็น ‘โจร’ แต่ที่น่ากลัวที่สุดอายุอานามในวัยกระเตาะแทบทั้งสิ้น ทีนี้ลองคิดดูขำๆ ว่า “โอโหนี่เริ่มทำงานสายโจรตั้งแต่อายุอย่างน้อยกว่าจะเกษียณอายุทำงานคนปกติอย่างเราต้องนอนผว่ากันกี่ปีต่อกี่ปี”

เอาจริงไอ้เรื่องแบบนี้พ่อแม่เด็กเองก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าลูกหลานที่ออกจากบ้านไปเรียนยังสถาบันต่างๆ ที่สุ่มเสี่ยง พอเข้าเขตที่ตนเองเคยยอมรับเวลาทำเลวจากเด็กที่ดูปกติเมื่ออยู่บ้านกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไอ้พฤติกรรมแบบนี้ก็ใช่ว่าผู้ปกครองเองจะไม่สามารถที่จะมองเห็นกันได้ เพราะดูจากภาพข่าวที่ออกมาวัยรุ่นที่เป็นข่าวทุกคนจะมีทรงที่แทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน ทั้งทรงผม เสื้อผ้า มาเป็นทรงเดียวกันเกือบทุกคน…

ทีนี้เอาอย่างไรกันดีทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นการวางแผนวางงานมาแทบทั้งสิ้นแล้วกว่าจะสืบสาวราวเรื่องกันได้ครบก็เล่นเอาตำรวจที่ดูแลและคดีทั้งสองไม่ต้องหลับต้องนอนนานนับสิบวัน สุดท้ายทั้งสองเหตุการณ์นั้นเป็นเรื่องที่ต้องเร่งปรับปรุงและแก้ไข ไอ้ระบบบ้าบอที่เข้าไปอยู่ในสถานศึกษาที่เป็นพื้นฐานของชาติสาขาหนึ่ง เอาจริงไอ้เรื่องเช่นนี้มันก็มีกันมานมนานแล้วครับคิดดูว่าสมัยก่อนจะได้ยินชื่อโรงเรียน ‘กนกอาชีวศึกษา’ อยู่แถวตรอกจันท์ ที่นี่ตัวตึงจริงๆ ตีกันแทบจะทุกอาทิตย์เพราะเคยออกมาทางสวนพลูนิดหนึ่งก็จะมาป๊ะกับ ‘เทคนิคกรุงเทพ’ ในสมัยนั้นมันจะไปเหลืออาราย ขนาดญาติครูไก่คนหนึ่งไปเรียนที่ ‘ตรอกจันท์’ ยังต้องไปชุดหนึ่งกลับชุดหนึ่งก็ป้องกันตัวเองไว้ก่อนสุดท้ายก็ต้องลาออกเพราะกลัวจะต้อง ‘เจ็บหรือตายก่อนจบ’ แต่ก็มีคนจบนะครับจาก ‘กนกอาชีวะ’ นี้เขาก็ได้งานได้การดีอยู่ แล้วส่วนน้องชายก็ ‘เทคนิคกรุงเทพ’ เรียกว่าคู่กัดจัดอยู่บ้านเดียวกัน อาจมีความคิดเห็นแตกต่างกันบ้างแต่ไม่เคยมีลงไม้ลงมือกันสักที นั่นคงเพราะ ‘คนพ่อเป็นทหารเรือ’ แล้วดุอย่างยิ่งคงนึกออกนะครับว่า “ถ้าเอ็งสองคนพี่น้องทะเลาะกันจะรู้ชะตากรรมกันดี”

ครูไก่